'คาอิ เคน' อีกหนึ่ง...หมานักล่า! | คมชัดลึก

 

                      อย่างที่กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถึงสุนัขญี่ปุ่นสายพันธุ์ที่จัดให้เป็นสัตว์สงวนมีอยู่ด้วยกัน 6 สายพันธุ์ ว่าไปแล้ว 2 สายพันธุ์

 

                      วันนี้เป็นคิวของ คาอิ เคน (Kai ken) ที่กำหนดให้เป็นสุนัขสงวนเมื่อปี ค.ศ.1934 มีถิ่นกำเนิดที่ จ.ยามานาชิ (Yamanashi) ซึ่งตั้งอยู่ในภาคกลาง หรือภาคจูบุ (Chubu) ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประกอบไปด้วย 9 จังหวัด คือ นิอิกาตะ (Niigata), โตยามา (Toyama), อิชิกาวา (Ishigawa), ฟูกูอิ (Fukui), ยามานาชิ (Yamanashi), นากาโนะ (Nagano), กิฟู (Gifu), ชิซูโอกะ (Shizuoka) และอิชิ (Aichi)

 

                      สายพันธุ์ คาอิ เคน (Kai ken) หรือสุนัขคาอิ หรือเรียกกันติดปากสุนัขลายเสือคาอิ เป็นสุนัขขนาดกลาง ที่อดีตเป็นสุนัขล่าเนื้อชั้นดี โดยเฉพาะล่ากระต่าย นก กวาง และหมูป่า มีน้ำหนักทั้งตัวผู้ตัวเมียอยู่ระหว่าง 11-25 กิโลกรัม ขณะที่ความสูงตัวผู้ประมาณ 50-56 เซนติเมตร ส่วนตัวเมีย 45-51 เซนติเมตร มีช่วงชีวิตหรือช่วงอายุ 12-15 ปี

 

                      ลักษณะขนจะมีทั้งขนเส้นยาวและใหญ่ รวมกับขนสั้นและนุ่ม หางชี้ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่หางม้วนและลิ้นมีลายจุด หากเทียบกับสุนัขญี่ปุ่นพันธุ์อื่นๆ แล้วถือว่ามีใบหูค่อนข้างใหญ่ทีเดียว

 

                      ส่วนสีขน โดยรวมแบ่งเป็น สีดำ น้ำตาล และสีแดง แต่จะพบสีดำมากที่สุด ที่ทำให้มันโดดเด่นและรู้กันว่าเป็นพันธุ์คาอิเคน เพราะสีขนจะเป็นลายเสือ คือจะมีสีออกน้ำตาลแก่ สีเหมือนขวดเบียร์ และจะเห็นชัดเจนเมื่อมันมีอายุมากขึ้น

 

 

 

 

                      ทว่า เชื่อว่าแฟนพันธุ์แท้การ์ตูนญี่ปุ่นจะเคยอ่านหรือดูการ์ตูนเรื่อง เจ้าเขี้ยวเงิน ที่นำเอาลักษณะอันโดดเด่นทั้งความเป็นลายเสือ ความเก่งกล้าสามารถ ความเป็นหมานักสู้ ความเด็ดเดี่ยวและทำงาน (ล่าเนื้อ) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งความเป็นมิตรกับเจ้าของ รักความสงบ ของสุนัขคาอิเคนมาใส่ไว้ในตัวเจ้าเขี้ยวเงินได้อย่างลงตัว ทำเอาทั้งคนญี่ปุ่นและคนรักสุนัขจากค่อนโลกติดกันงอมแงมในเวอร์ชั่นภาษาที่แตกต่างกันไป

 

                      ปัจจุบันเหล่า “คาอิ เคน” ในบ้านเรายังมีผู้เลี้ยงกันน้อยถึงน้อยมาก สถานะเป็นน้องหมานำเข้า หรืออาจจะมีบ้างก็เป็นพันธุ์ผสม

 

                      หากท่านใดกำลังมองหาน้องหมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเล่นสักตัว สายพันธุ์นี้ไม่เลวทีเดียว เพราะความเป็นหมานักล่าจึงมีความอดทนเป็นเลิศ การดูแล ควรอาบน้ำ แปรงขนครึ่งเดือนต่อครั้ง ส่วนอาหารกินเหมือนทั่วๆ ไปไม่ยุ่งยาก แต่ที่ขาดไม่ได้คือ มันเป็นหมาที่ใช้พละกำลังเยอะ ฉะนั้นคุณควรพามันไปออกกำลังกายให้เป็นประจำ

 

                      ด้วยสายพันธุ์นี้ไม่ค่อยเป็นโรค จะมีอยู่บ้างส่วนใหญ่เป็นโรคกระดูก และอาจมีขนร่วงบ้าง โดยเฉพาะในตัวที่ขนยาว คุณๆ ผู้เป็นเจ้าของจึงไม่ควรจะลืมถึงสิ่งนี้ และควรพามันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กร่างกายอย่างน้อยเดือนละครั้ง 

 

                      เพื่อที่มันจะได้อยู่กับคุณไปนานเท่านานตราบเท่าช่วงอายุขัยของมันครับ!

 

 

------------------------

 

ที่มา - https://en.wikipedia.org/wiki/Kai_Ken

 

 

------------------------