ไลฟ์สไตล์

มฤตยูเคลื่อน...กระทบทั้งโลก?

มฤตยูเคลื่อน...กระทบทั้งโลก?

04 มี.ค. 2559

มฤตยูเคลื่อน...กระทบทั้งโลก? : รายการ คมชัดลึก

            ปรากฏการณ์หนึ่งที่หลายฝ่ายกำลังจับตาดูว่า ในวันที่ 6 มีนาคมนี้ ดาวมฤตยูจะเคลื่อนทับดวงเมืองจะส่งผลให้ทั่วโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในรอบ 84 ปี และเป็นวันที่ดาวมฤตยูจะย้ายเข้าดวงเมืองคือราศีเมษ ซึ่งราศีเมษกับดวงโลกเป็นราศีเดียวกัน จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ดังนั้น เมื่อค่ำวันที่ 4 มีนาคม รายการ คม ชัด ลึก จึงได้จัดเสวนาในหัวข้อ มฤตยูเคลื่อน...กระทบทั้งโลก?

           พระพรหมมังคลาจารย์ หรือเจ้าคุณธงชัย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กล่าวว่า ดาวมฤตยูมีความสำคัญ เนื่องจากดาวมฤตยูก็คือยูเรนัส ยูเรนัสก็คือพระศิวะ จึงมีความสำคัญมาก เพราะพระศิวะถือเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ยูเรนัส เมื่อแปลเป็นภาษาสันสกฤต ก็คือ มฤตยู

           คนไทยตั้งแต่เกิดมาพอได้ยินคำนี้ก็เกิดความหวาดกลัว แท้จริง เป็นคำที่ลึกซึ้งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงจากสภาวะจิตของปุถุชน ไปสู่พระอรหันต์

           แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ ก็คือ ยูเรนัส เรียกว่า มฤตยู หรือ เนมออฟ ศิวะ

           ยูเรนัส มีความหมาย 4 คำ คือ เชนจ์ = เปลี่ยนแปลง อินโนเวชั่น = พัฒนา ไอเดียริซึ่ม = อุดมการณ์ ฟรีดอม = เสรี ประชาธิปไตย

           ราศีเมษ ไม่ใช่ราศีประเทศไทย แท้จริงแล้วเป็นราศีของโลก ราศีของจักรวาล ซึ่งรัชกาลที่ 1 วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 21 เมษายน 233 ปีมาแล้ว ในการวางเสาหลักเมืองของประเทศไทย พระองค์ประสงค์ให้ประเทศไทยหมุนไปพร้อมๆ กับเวทีโลก ก้าวทันเวทีโลก

           คนไทยส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า ราศีเมษ คือ ราศีดวงเมืองไทย มฤตยูเข้าดวงเมืองไทย แปลอย่างชาวบ้านก็คือ ตาย แต่ไม่ได้แปลให้ลึกซึ้งลงไปว่า ตายจากกิเลสที่เป็นปุถุชน ไปสู่ความเป็นอริยบุคคล เป็นพระอรหันต์

           เชื่อว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น แต่คนที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง อยู่กับที่ ก็จะอยู่อย่างลำบาก เพราะโลกเขาหมุน มีการเปลี่ยนแปลง จะไปฝืนการเปลี่ยนแปลงตามกระแสโลกไม่ได้ ถ้าหยุด ก็แปลว่า ตาย นั่นแหละคือ มฤตยู สำหรับคนที่ไม่ยอมเคลื่อนที่

           ดังนั้น ปัญหาของบ้านเมืองที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง จะเปลี่ยนไปตามกระแสของโลก ทันเหตุการณ์ ไม่มีอะไรมาหยุดได้

           การเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างครั้งใหญ่ของประเทศไทยในขณะนี้ ถือเป็นสิ่งที่ปรากฏการณ์ตามความเป็นจริงเวทีจริงของโลก

           สำหรับการตอบรับการเคลื่อนตัวของดาวมฤตยู สำหรับคนไทย ก็ต้องมองธรรมะให้ชัดเจน มองให้แตก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ถ้ามองทุกอย่างมีแต่ความสุข ความสบาย นอนนิ่งไม่ติงกาย ก็จะเป็นคนไม่ทันโลก ต้องมองอย่างมีสติ รู้เท่าทันกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนั่นก็คือ การเปลี่ยนแปลงในหลายสิ่งหลายอย่าง

           สำหรับในวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม นี้ ทางวัดไตรมิตร จะมีการสวดนพเคราะห์ เนื่องจากพอมีการบอกว่า มฤตยูจะมา นั่นคือตาย หลายคนแตกตื่น ตระหนกตกใจ ดังนั้น ที่จัดให้มีการสวดนพเคราะห์ เพื่อเป็นการเจริญพุทธมนต์ เสริมบารมีให้แก่ประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน

           อาจารย์อารี สวัสดี ประธานมูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยฯ และนายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดา ปกติ ของการเคลื่อนตัวของดวงดาวต่างๆ ซึ่งดาวมฤตยู เป็นดาวดวงที่ 7 ก่อนจะถึงพลูโต ที่ถูกปลดลงไปแล้ว เพียงแต่วงรอบของดาวพฤหัสบดี 12 ปี ต่อ 1 รอง ดาวเสาร์ 30 ปี ต่อ 1 รอบ ดาวมฤตยู 84 ปี ต่อ 1 รอบ

           1 ราศี ดาวมฤตยู 7 ปี แต่ดาวเนปจูน 14 ปี ต่อราศี แต่ดาวพลูโต ราศีละ 21 ปี

           จุดที่ดาวมฤตยูกำลังจะข้ามผ่าน ก็เหมือนวันสงกรานต์ จุดเดียวกัน แต่ดวงอาทิตย์ทุกปี ตรงกับวันที่ 13 เมษายน ในแบบไทยๆ แต่ถ้าเป็นสากลจะตรงกับวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งก็มีการแบ่งฟ้าออกเป็น 12 ส่วน ตรงนี้ที่ว่า ดาวมฤตยู กำลังจะผ่านตรงจุดที่ดวงอาทิตย์ผ่านเท่านั้นเอง

           ในทางดาราศาสตร์ ดาวยูเรนัส ก็คือดาวดวงหนึ่งเท่านั้น แต่พอเรียกมฤตยู ก็เลยดูน่ากลัว

           จากสถิติที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญกับบ้านเมือง ตรงนี้ ต้องแยกกันให้ออก แยกให้ชัด ดาราศาสตร์ว่าด้วยเรื่องของกายภาพที่มองเห็นได้ สัมผัสได้ วัดได้ มีปฏิทินเรียบร้อย ไม่ได้มีความหมายมากกว่านั้น

           ส่วนจะว่ากันว่ามีอะไรมากกว่านั้น เป็นเรื่องของโหราศาสตร์ เพราะโหราศาสตร์ก็ต้องอธิบายความ แต่ทั้งหลายทั้งปวงเอามาจากดาราศาสตร์ทั้งสิ้น

           จากที่มีการทำนายว่า จะมีผลกระทบหนักกับคนที่เกิดราศีเมษ และตุลย์ นั้น มองว่า เป็นการทำร้ายจิตใจของผู้ที่เกิดในราศีนั้นๆ รวมทั้งเหตุการณ์สุริยุปราคาที่จะเกิดในห้วงเดียวกัน ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของนักดาราศาสตร์