ไลฟ์สไตล์

พระราหูอสูรและเทวดานพเคราะห์ช่วยป้องกันภัยเมื่อยามดวงชะตาตก

พระราหูอสูรและเทวดานพเคราะห์ช่วยป้องกันภัยเมื่อยามดวงชะตาตก

14 มี.ค. 2559

พระราหู อสูรและเทวดานพเคราะห์ช่วยป้องกันภัยเมื่อยามดวงชะตาตก : พระองค์ครู เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

           ปรากฏการณ์สุริยุปราคาหลายวัฒนธรรมต่างแปลความคล้ายๆ กัน ตำนานมักเล่าขานถึงสัตว์ร้ายในท้องฟ้ามาเขมือบกินดวงอาทิตย์เป็นอาหาร ชาวจีนเชื่อว่ามีมังกรยักษ์กลืนกินดวงอาทิตย์ ชาวกรีกและโรมัน ก็มีความเชื่อว่ามีงูยักษ์มากลืนกินเช่นกัน สัญลักษณ์หนึ่งที่ปรากฏแสดงตำแหน่งที่เกิด ปรากฏการณ์ก็ใช้อักษรกรีก โอเมกา

           ในเซอร์เบียเชื่อว่าเป็นมนุษย์หมาป่า ในเวียดนามเชื่อว่าเป็นกบยักษ์ ส่วนปารากวัย และอาร์เจนตินา เชื่อว่าเป็นเสือจากัวร์ ส่วนในโบลิเวียเชื่อว่าเป็นสุนัขยักษ์

           สำหรับตำนานความเชื่อที่น่าสนใจเกี่ยวกับอุปราคาก็คือ ตำนานที่เกี่ยวกับยักษ์ราหูกลืนกินดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อันเป็นตำนานความเชื่อในแถบเอเชีย คือ อินเดีย อินโดนีเซีย และไทย เป็นตำนานเล่าขานที่มีรากฐานมาจากมหากาพย์ มหาภารต มหากาพย์เรื่องยิ่งใหญ่ของอินเดีย

           พระราหูเป็นอสูรและเทวดานพเคราะห์องค์หนึ่งตามคติของศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ

           พระราหูเป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ ให้ผลในทางลุ่มหลงมัวเมา พระราหูเป็นมิตรกับพระเสาร์และเป็นศัตรูกับพระพุธอันมีเหตุตามนิทานชาติเวร

           ในอดีตชาติพระราหูเกิดมาเป็นน้องร่วมท้องเดียวกันกับเทวดานพเคราะห์อีกสององค์ คือ พระอาทิตย์และพระจันทร์ โดยพระราหูเกิดเป็นน้องสุดท้อง ครั้งหนึ่งพระราหูได้ร่วมทำบุญถวายพระที่มารับบิณฑบาตร่วมกับพี่ทั้งสองคน พระอาทิตย์ตักบาตรในครั้งนั้นด้วยภาชนะทอง พระจันทร์ตักบาตรด้วยภาชนะเงิน

           ส่วนพระราหูตักบาตรด้วยภาชนะที่ทำมาจากกะลามะพร้าว เมื่อทั้ง ๓ พี่น้องได้มาเกิดเป็นเทวดานพเคราะห์ พระอาทิตย์จึงมีรัศมีและวรรณะเปล่งปลั่งดุจทองคำ พระจันทร์มีรัศมีและวรรณะเป็นสีขาวสว่างดุจเงิน และพระราหูมีรัศมีและวรรณะเป็นสีนิลออกไปทางทองแดง (แต่ในบางตำราก็ว่ากายของพระราหูนั้นมีสีดำบ้าง สีทองบ้าง แตกต่างกันไป)

           มีตำนานการกำเนิด ๒ ตำนาน คือ ๑.พระศิวะสร้างพระราหูขึ้นมาจากหัวกะโหลก ๑๒ หัว บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีทอง แล้วประพรมด้วยน้ำอมฤต เสกได้เป็นพระราหู มีสีวรกายสีนิลออกไปทางทองแดงมีวิมานสีนิลอยู่ในอากาศ ประจำอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และ ๒.พระราหูเป็นโอรสของท้าววิประจิตติและนางสิงหิกา หรือนางสิงหะรา เมื่อเกิดมามีกายเป็นยักษ์และมีหางเป็นนาค

           พระราหูในพระพุทธศาสนา ผู้ทรงพระนามว่า อสุรินทราหู ผู้จักมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตทรงพระนามว่า “พระนารทะสัมมาสัมพุทธเจ้า” ตามความในคัมภีร์อนาคตวงศ์ จัดพิมพ์เผยแพร่โดยมหามงกุฎราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปราชญ์ผู้รู้ในพระศาสนาโบราณจารย์ทั้งหลายมีติตรงกันหลายร้อยปีแล้วว่า

           พระราหูในศาสนาฮินดู พราหมณ์ เป็นพระราหูองค์เดียวกันกับอสุรินทราหู ในพระพุทธศาสนา จะแตกต่างกันเฉพาะประวัติความเป็นมาเท่านั้น ที่ศาสนาพราหมณ์แต่งเป็นเรื่องพิสดารพันลึกตามรูปแบบของแขกอินเดีย ซึ่งทางพระพุทธศาสนาจะไม่มีอย่างนั้นเลย

           การไหว้ราหูโดยความเชื่อมักจะทำให้เกิดโชคลาภและความสำเร็จ ซึ่งมีโอกาสร่ำรวยด้วยการบูชาพระราหู ซึ่งการบูชาพระราหูจะนำความสำเร็จและโชคดี โดยการบูชาจึงให้ใช้ของดำ ๘ อย่าง ๑.ไก่ดำ ๒. เหล้าดำ ๓.กาแฟดำ ๔.เฉาก๊วย ๕.ข้าวเหนียวดำ ๖.ถั่วดำ ๗.ขนมเปียกปูนดำ และ ๘.ไข่เยี่ยวม้า

           สำหรับเครื่องรางที่มีรูปลักษณ์เป็นพระราหู มีคติความเชื่อว่าช่วยป้องกันภัยต่างๆ เมื่อยามดวงชะตาตก ช่วยพยุงให้ดวงชะตาดีขึ้นดังเดิม เรื่องคนชังให้กลับมารักชอบนั้นได้ผลแน่ รวมทั้งเรื่องเมตตา โภคทรัพย์ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าอาจารย์ใดๆ

           พระราหูที่คนนิยมไปไหว้บูชาคือ พระราหูวัดศีรษะทอง (วัดพระราหู) ต.ศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม