'ชิโกะกุ' ซื่อสัตย์...บ้าพลัง | คมชัดลึก

 

                    สัปดาห์นี้มาต่อให้จบกันด้วยน้องหมาตัวที่ 6 สายพันธุ์ “ชิโกะกุ" (Shikoku) พันธุ์สุนัขดั้งเดิมที่ถูกกำหนดให้เป็นสุนัขสงวนของญี่ปุ่นเมื่อปี 1937

 

                    มีถิ่นกำเนิด ที่เกาะโชโกะกุ พบมากในจังหวัดโคจิ ) ซึ่งสมัยก่อนเรียกว่าจังหวัดโทสะ ทำให้สุนัขชิโกะกุในยุคนั้นถูกเรียกว่า สุนัขโทสะ เนื่องจากตั้งชื่อตามชื่อจังหวัด ทว่า มาเปลี่ยนเอาทีหลังเป็นสุนัขชิโกะกุ

 

                    โดยว่ากันว่า เพราะชื่อโทสะไปซ้ำกับสุนัขพันธุ์โทสะที่เป็นสุนัขพันธุ์ผสมหลายสายพันธุ์มาก ซึ่งคนยุคก่อนเลี้ยงไว้สำหรับแข่งขัน ลากของ เฝ้ายาม ล่าหมูป่า เพราะมันเป็นสุนัขตัวโต บ้าพลัง หวงเขตแดนมาก และออกจะเลี้ยงยากนิดหนึ่ง

 

                    การเปลี่ยนชื่อแซ่เป็น “ชิโกะกุ” นี้ เมื่อกว่าศตวรรษที่ผ่านมา หรืออีกชื่อคือ มิคาว่า ที่คนญี่ปุ่นปัจจุบันนิยมเรียกขานในชื่อนี้กันมาก

 

                    ช่วงสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 พวกมันเกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว อันเนื่องมาจากสงคราม ทว่า ภายหลังเหตุการณ์นี้สงบลง จึงได้มีการรวบรวมสายพันธุ์สุนัขขึ้นอีกครั้ง และพวกมันจึงถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในสุนัขพันธุ์สงวนของญี่ปุ่นดังกล่าว

 

 

 

 

                    เป็นสุนัขขนาดกลาง โดยปกติจะหนักประมาณ 20-30 กิโลกรัม สูงประมาณ 48-52 เซนติเมตร และมีช่วงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เฉลี่ย 10-12 ปี

 

                    สุนัขชิโกะกุไม่ค่อยมีไขมันส่วนเกินในร่างกาย เพราะพวกมันชอบออกกำลังกาย หน้าตาจะคล้ายหมาป่า หางม้วน ตาเล็ก หางตาเอียงเฉียงขึ้นเล็กน้อย ขนสองชั้น สีขนมีสีงาแดง (Red sesame) สีงา (Sesame) สีงาดำ (Black sesame) และสีดำแทน (Black-Tan)

 

                    ลักษณะนิสัย มีน้ำใจ ขี้เล่นเล็กน้อย ชอบอิสระ แข็งแกร่ง ฉลาด สุภาพ มีความอดทนสูง ซื่อสัตย์มาก รักเจ้าของ เชื่อฟังคำสั่ง จนมีคนกล่าวว่ามันเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อว่ามีเจ้านายเดียว ฉะนั้น มันจึงเหมาะที่จะเลี้ยงพวกมันไว้เฝ้าบ้าน เฝ้ายาม ทว่า สำหรับคนแปลกหน้ามันอาจจะก้าวร้าวบ้างในบางเวลาที่มันมีอารมณ์หงุดหงิด

 

                    ความสามารถพิเศษ นับเป็นน้องหมาที่มีสายตาดี บ้าพลัง ชอบออกกำลังกายเป็นที่สุด โดยเฉพาะการเดินป่าและการแคมปิ้ง พวกมันจะเก่งมากๆ

 

                    สำหรับท่านที่กำลังมองหาสุนัขไว้เป็นเพื่อนสักตัว น้องหมาชิโกะกุ น่าสนใจไม่น้อย

 

 

 

 

                    การดูแลรักษา ด้วยเป็นสุนัขขน 2 ชั้น ฉะนั้น จึงควรทำความสะอาด ด้วยการอาบน้ำ แปรงขน อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ขณะที่อาหารการกินก็อาหารเม็ดทั่วไป

 

                    ด้านวิธีการเลี้ยงดู ผู้เป็นเจ้าของจึงต้องพามันออกกำลังกายสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวัน หากนำมาเฝ้าบ้าน เฝ้ายาม ควรฝึกให้ดีรอบคอบรัดกุม เพราะถ้ามันไม่ชอบคนแปลกหน้ามากๆ คนคนนั้นอาจจะถูกกัดเอาได้

 

                    “ชิโกะกุ” ไม่ได้เป็นหมาขี้โรค แต่ด้วยเป็นหมา “บ้าพลัง” จึงต้องดูแลเรื่องกระดูกของมันให้ดี ด้วยต้องพามันไปพบสัตวแพทย์ตรวจเช็กร่างกายเป็นประจำทุกเดือน เพราะมันคงจะบอกเราไม่ได้ถึงอาการเจ็บป่วยต่างๆ ที่มันกำลังประสบอยู่

 

                    อีกทั้งเพื่อที่มันจะได้อยู่กับเราไปนานๆ อย่างน้อยก็เป็นอีกหนึ่งชีวิตที่เราต้องดูแลครับ!

 

 

----------------------

 

ที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/Shikoku_(dog)

 

 

----------------------