เบรก!! เสนอชื่อโปรดเกล้าฯ"อธิการบดี มรภ.เชียงใหม่"
เบรก!! การเสนอชื่อโปรดเกล้าฯ อธิการบดี ราชภัฏเชียงใหม่ “ผู้สมัครฯ”ร้องศาลปกครองฯ ขอคุ้มครองชั่วคราว หวั่นทูลเท็จและกระทำผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 รับแจ้งจาก ว่าที่ร้อยตรี ดร.จอห์นนพดล วศินสุนทร ในฐานะผู้สมัครเข้ารับการสรรหาตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ เป็นผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการลงมติการสรรหาอธิการบดีฯ ได้เข้าฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ เป็นเลขคดีดำที่ บ.58/2559 และขอเบรก การเสนอชื่อโปรดเกล้าฯ รศ.ดร.ประพันธ์ ธรรมไชย เป็น อธิการบดี ราชภัฏเชียงใหม่ เพราะมีความไม่ถูกต้องเป็นธรรม ดังนี้
ดร.จอห์นนพดล วศินสุนทร
1.) กระบวนการสรรหาฯ ครั้งนี้ ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 ตาม ม.28 วรรคสอง เมื่อกฎหมายระบุให้ เน้นการมีส่วนร่วม จึงควรมีการหยั่งเสียง หรือการเลือกตั้งตรง ซึ่งที่ผ่านมามหาวิทยาลัยต่างๆได้ยึดถือจะใช้การหยั่งเสียงเพื่อแสดงการยอมรับนับถือในเชิงประจักษ์ของบุคลากรเป็นสำคัญ อาทิ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ เป็นต้น
ผู้สมัครอธิการ มรภ.เชียงใหม่ตอบคำถามกรรมการสรรหา
2.) การลงคะแนนเสียงในสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ขัดกฎหมายตามวิธีพิจารณาทางปกครอง เพราะว่า มีกรรมการสภาโดยตำแหน่งจากผู้บริหารหลายคน เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของบุคคลที่ถูกเสนอแต่งตั้ง เข้าร่วมสมัครเข้าการสรรหาในครั้งนี้ จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในผลประโยชน์ตามสายบังคับบัญชา นอกจากนี้นายกสภามหาวิทยาลัยยังดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการการอุดมศึกษา กกอ. แต่กลับมานั่งเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยและลงคะแนนเสียงเลือกอธิการบดีเสียเอง จึงขัดต่อระเบียบกรรมการอุดมศึกษาว่าด้วยปฏิญญาการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการอุดมศึกษาและคณะกรรมการอื่นหรือคณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการการอุดมศึกษา พ.ศ. 2547 ข้อ 5 และข้อ 6.2 และ 6.3 ข้อ 8 ซึ่งถือขัดคำสั่ง คสช. ตามมาตรา 44 ที่ 39/2559 ตามข้อ 4 (2) (3) (7) อีกด้วย
3.) การส่งเอกสารข้อมูลประวัติและวิสัยทัศน์ของผู้เข้ารับการสรรหาให้กับคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาประวัติและข้อมูลนโยบาย มีการกระทำเร่งรัด 4) การมีมติเลือกอธิการบดี ที่มีอายุเกิน 60 ปีเป็นการกระทำขัดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2547 และฉบับที่ 2 พ.ศ.2551 และแนววินิจฉัยศาลปกครองสูงสุด เลขแดงที่ อ.789/2557