
รพ.มหาราชนครศรีฯเปิด“ศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด” รักษาครบวง
รพ.มหาราชนครศรีฯเปิด “ศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด” รักษาครบวงจร-ผ่าตัดหัวใจได้ รองรับ 6 จังหวัดใต้ตอนบน ลดอัตราส่งต่อ-รอคิว คนไข้ไม่ต้องไปรพ.ไกล
ติดตามข่าวสาร “การศึกษา สุขภาพ สาธารณสุข”แบบทันทุกเรื่องราวได้ที่เฟซบุ๊คเพจ “ข่าวศึกษา-สาสุข คมชัดลึก” https://www.facebook.com/Edu-health-kcl-1210988002299539/
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(ปลัดสธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ว่า จากสถานการณ์ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจในเขตบริการสุขภาพที่ 11 ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช มีผู้ป่วยโรคหัวใจเฉลี่ยปีละ 5,000-6,000 คน มีผู้ป่วยที่ต้องรอการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อม ปีละกว่า 1,000 คน ทำให้อัตราการเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 1ใน 3 ของภาคใต้ตอนกลาง กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) จึงได้พัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ให้เป็นศูนย์รักษาโรคหัวใจแบบครบวงจร ทั้งการรักษาโดยการผ่าตัดและไม่ผ่าตัด สามารถให้บริการตรวจอัลตราซาวด์หัวใจ เดินสายพาน การติดตามคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 24 ชั่วโมง มีห้องปฏิบัติการตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด ห้องผ่าตัดศัลยกรรมทรวงอก หออภิบาลผู้ป่วยโรคหัวใจ และการฟื้นฟูสมรรถภาพก่อนและหลังการผ่าตัด สามารถลดอัตราการส่งต่อผู้ป่วยได้เดือนละ 100 ราย
“ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ได้รับความร่วมมือจากศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลสุราษฏร์ธานี โรงพยาบาลตรัง และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการพัฒนาศักยภาพการตรวจวินิจฉัยและการผ่าตัด เริ่มดำเนินการเดือนมิถุนายน 2559 ปัจจุบันสามารถผ่าตัดที่เป็นผลสำเร็จ ในการทำทางเบี่ยงเส้นเลือดหัวใจ 8 คน เปลี่ยนลิ้นหัวใจและปิดรูรั่วผนังหัวใจ 12 คน ซึ่งผู้ป่วยทุกรายหลังผ่าตัดไม่มีภาวะแทรกซ้อน”นพ.โสภณกล่าว
นพ.ทรงเกียรติ เล็กตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้บริการตรวจสวนหัวใจ เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559 และผ่านการประเมินจากสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นศูนย์หัวใจระดับ 1ที่ผ่าตัดหัวใจได้ ปัจจุบันมีผู้มารับบริการ ได้แก่การฉีดสีหลอดเลือดหัวใจเพื่อการวินิจฉัย/ผ่าตัดรวม 112 คน ขยายหลอดเลือดหัวใจ 32 คน และใส่เครื่องพยุงหัวใจ นอกจากนี้ยังพัฒนาและสนับสนุนให้โรงพยาบาลแม่ข่ายในแต่และโซน ร่วมพัฒนาโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งสามารถให้ยาละลายลิ่มเลือดได้ และพัฒนาเครือข่ายให้ยาวาร์ฟารินในโรงพยาบาลชุมชน ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสเข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง ปลอดภัย และรอดชีวิตได้สูงขึ้น ปัจจุบันสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจขาดเลือดฉับพลันในนครศรีธรรมราช จากร้อยละ 17-20 เหลือเพียงร้อยละ 9
ทั้งนี้ ยังได้จัดบริการเชิงรุกให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) คัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคหัวใจ ประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น รายการวิทยุหมออ้วนชวนคุย แผ่นป้ายไวนิล แผ่นพับ ให้เกิดความตระหนักและสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและปลอดภัย เพื่อลดอัตราความพิการและอัตราการเสียชีวิตได้ ของประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช และในเขตบริการสุขภาพที่ 11 ซึ่งประกอบด้วย จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา และกระบี่