"เงินบาทเดียวจริง แต่พระเจ้าอยู่หัวเป็นของเราทำไมเราไม่เก็บ"
"ราชองครักษ์"ชี้จุดเปลี่ยนชีวิต ยายเก็บเหรียญพร้อมสอนว่า"เงินบาทเดียวจริง แต่พระเจ้าอยู่หัวเป็นของเรา ทำไมเราไม่เก็บ"
กรมสุขภาพจิต โดย สถาบันราชานุกูล จัดบรรยายพิเศษ เนื่องในสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ประจำปี 2559 เรื่อง "เปลี่ยนความโศกเศร้าเป็นพลังอันยิ่งใหญ่...เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท" โดย พันเอกถิรวัฒน์ บุญเพ็ญ ราชองครักษ์ประจำกรมราชองครักษ์ และ "การปฐมพยาบาลทางใจ...คุณก็ช่วยคนอื่นได้" โดย คุณ อรพิมพ์ รักษาผล นักพูดถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ทุกวันที่ 1-7 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็นสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ซึ่งในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้รณรงค์ ภายใต้แนวคิด“การปฐมพยาบาลทางใจ...คุณก็ช่วยคนอื่นได้”รณรงค์พร้อมกันทั่วประเทศ และในวันนี้ ได้จัดกิจกรรม "เปลี่ยนความโศกเศร้าเป็นพลังอันยิ่งใหญ่" ณ สถาบันราชานุกูล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่9ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามโรงพยาบาลให้ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2522 จาก โรงพยาบาลปัญญาอ่อน เป็น โรงพยาบาลราชานุกูล นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ที่ทรงมีต่อบุคคลผู้ที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวอีกว่า การให้คำมั่นสัญญาที่จะทำความดี ปฏิบัติตนให้ดีตามหน้าที่ และดำเนินตามรอยพระยุคลบาทด้วยความรัก ความสามัคคี จึงเป็นการแปลงความโศกเศร้าให้เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่ทุกคนสามารถทำได้อย่างเป็นรูปธรรมได้ดีที่สุด เพื่อร่วมสืบทอดและรักษาไว้ซึ่งสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่9ทำให้พวกเรามาตลอดชีวิตของพระองค์ เพราะความสุขของพระองค์ คือ อยากเห็นคนไทยมีความสุข
ด้านพันเอกถิรวัฒน์ บุญเพ็ญ ราชองครักษ์ประจำกรมราชองครักษ์ กล่าวว่า จุดเปลี่ยนชีวิตของตน คือ ตอนเป็นเด็ก 6 ขวบ เห็นเหรียญบาทตกอยู่ในโคลนแล้วยายก้มเก็บ จึงถามว่าทำไมต้องเก็บเพียงแค่บาทเดียว สิ่งที่ยายตอบกลับมา คือ "เงินบาทเดียวจริง แต่พระเจ้าอยู่หัวเป็นของเราทำไมเราไม่เก็บ" ตั้งแต่นั้นจึงอธิษฐาน ว่า จะดูแลในหลวงจนถึงวันสุดท้ายและได้ทำตามสัญญานั้นแล้ว จึงอยากให้ทุกคนกลับมาทบทวน เราจะทำอะไรให้ในหลวงรัชกาลที่ 9 ขอให้คิดบวกเสมอ ถ้าคิดบวกแล้ว ทุกอย่างจะเป็นโอกาส เรามีปาฏิหาริย์มา 70 ปีแล้ว ที่พระองค์ท่านอยู่เพื่อพวกเรา พระองค์ทำตามสัญญาแล้ว จึงอยากให้คนไทยกลับมาทำตามสัญญา รักษาสิ่งที่พระองค์ทำให้พวกเราเช่นกัน
"เรายังมีโอกาสที่จะช่วยแบ่งเบาภาระ วันนี้ยังไม่สายที่เราจะทำ ในหลวงคงเสียใจ ถ้าเรามัวแต่ร้องไห้ ขอให้เราก้าวต่อไปให้ได้ ให้ประเทศไทยดำเนินต่อไปให้ได้ รักษาสิ่งที่พระองค์ท่านสร้างมาให้เราทั้งชีวิต มุ่งมั่นทำความดีและน้อมนำสิ่ง ที่ท่านสอนไปใช้ในชีวิตอย่างมีความสุข ถึงแม้ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่ดีที่สุด แต่เราโชคดีที่มีกษัตริย์ที่ดีที่สุดของโลก ขอให้เก็บความภูมิใจนี้ไว้ บอกต่อลูกหลานของเราให้ได้ภูมิใจและสืบสานตามรอยพระยุคลบาทของพระองค์ต่อไป อย่าให้พวกเขาเสียใจในวันที่เราไม่อยู่ แต่ให้พวกเขาใช้ชีวิตที่มีความสุขตอนที่ได้อยู่กับเรา"พันเอกถิรวัฒน์ กล่าวด้วยรอยยิ้ม