
ห้ามใช้เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีโฆษณาอาหารเด็ก
ร่าง พ.ร.บ.โค้ดมิลค์ ให้เวลาผู้ผลิต “อาหารเด็กเล็ก” 1 ปี เปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้ต่างจาก “อาหารทารก” ชี้อาหารเด็กเล็กห้ามใช้เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีโฆษณาเหมือนเดิม
นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านร่าง พ.ร.บ. ควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. ... หรือ พ.ร.บ.โค้ดมิลค์ ว่า หลังจากนี้ก็ต้องรอประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ ซึ่งการออกกฎหมายในครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในเรื่องของการโฆษณาคือ ผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับทารกและอาหารเสริมสำหรับทารกไม่สามารถโฆษณาได้
แต่ที่เพิ่มเติมคือห้ามเรื่องของการส่งเสริมการตลาดอาหารทารก เช่น นมสูตร 1 สูตร 2 ที่ยังมักพบการส่งเสริมการตลาดอยู่ เช่น ส่งผลิตภัณฑ์หรือส่วนลดแบบเข้าถึงตัวมารดาเลยนั้นจะไม่สามารถทำได้ เป็นต้น ส่วนอาหารสำหรับเด็กเล็ก พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ได้ห้ามโฆษณา แต่ต้องทำผลิตภัณฑ์ให้แตกต่างจากอาหารทารกเพื่อให้แยกได้ชัดเจน ซึ่งในกฎหมายจะให้เวลาผู้ผลิตในการเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความแตกต่างจากอาหารทารกภายใน 1 ปี หลังจากที่กฎหมายบังคับใช้
นพ.ธงชัย กล่าวว่า แม้อาหารสำหรับเด็กเล็กจะโฆษณาได้ แต่ก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากกฎหมายเดิมที่มีอยู่คือ กฎหมายลูกของ พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ที่ผู้แสดงจะต้องมีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป
แต่หากตรวจสอบพบว่าบริษัทผู้ผลิตมีลูกเล่นอะไรที่จะสื่ออาหารสำหรับเด็กเล็กไปเป็นอาหารสำหรับทารก แล้วกระทบถึงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ก็สามารถออกประกาศลูกโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการควบคุมอาหารเด็กเล็กชนิดนั้นห้ามทำการโฆษณาและการตลาดได้ในภายหลัง ซึ่งการจะออกประกาศลูกเหล่านี้จะออกก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น
“เมื่อดูตามกฎหมายแล้ว เรียกได้ว่ากฎหมายฉบับนี้ะควบคุมผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับทารกอย่างเดียว ส่วนอาหารสำหรับเด็กเล็กต้องรอประกาศเพื่อควบคุม ซึ่งจะควบคุมเมื่อไรก็เมื่อบริษัทมีการมาโฆษณาหรือส่งเสริมการตลาดที่ส่งผลถึงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ก็จะประกาศควบคุม ซึ่งตรงนี้บางส่วนอาจมองว่าอ่อนไป ซึ่งการเสนอกฎหมายก่อนหน้านั้นก็เสนอให้ควบคุมทั้งหมด แต่ก็มีบางฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ฉบับ สนช.นี้ก็ถือว่าเป็นการพบกันครึ่งทาง เพราะการควบคุมเรื่องโฆษณาก็ไม่ได้ต่างไปจากกฎหมายเดิมที่มีอยู่” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว