กรณีเจ้าหน้าที่หญิงประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล(รพ.สต.)แห่งหนึ่งในจ.บึงกาฬ ที่ให้บริการเวรนอกเวลาที่รพ.สต. โดนคนร้ายทำทีมารับบริการที่รพ.สต. และได้ทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืน ตอนนี้เข้ารักษาตัวที่รพ.แล้ว และจับคนร้ายได้แล้ว เป็นเยาวชนในพื้นที่
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(นพ.สสจ.)บึงกาฬ ถึงเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ประจำรพ.สต.แห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดถูกคนร้ายทำทีมารับบริการ ทำร้ายร่างกายและพยายามล่วงละเมิดทางเพศ เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 คืนวันที่ 15 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา โดยนพ.โสภณ เมฆธน ปลัดสธ.ได้แสดงความห่วงใย กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬเยียวยาและดูแลด้านจิตใจอย่างใกล้ชิด พร้อมเน้นย้ำเรื่องดูแลความปลอดภัยของสถานที่ราชการ การวางระบบบริหารความเสี่ยง การพร้อมให้ความช่วยเหลือที่ห้องฉุกเฉินในเรื่องความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ
“สธ.มีหน่วยบริการหมื่นกว่าแห่งทั่วประเทศที่พร้อมให้การดูแลด้านการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนผู้เดือดร้อนตลอด 24 ชั่วโมง แต่จากการที่เจ้าหน้าที่ของเราถูกกระทำในครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขคงต้องปรับระบบบริการในสถานบริการโดยเฉพาะ รพ.สต. เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่และผู้บริหารทุกคนทราบเรื่องรู้สึกเสียใจ และจะให้การช่วยเหลือเยียวยาเต็มที่ ส่วนเรื่องคดีมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล” นพ.เกียรติภูมิกล่าว
เบื้องต้น ได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศเข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานนอกเวลาราชการเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ให้กระทบกับผู้ป่วยที่มารับบริการ ให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในจุดเสี่ยง กรณี มีผู้มาขอรับบริการในยามวิกาลให้พิจารณาตามความเหมาะสมคำนึงถึงความปลอดภัยและขอให้ลงมาช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นทีม
ด้าน นพ.วิศณุ วิทยาบำรุง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า ได้สั่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัยกรณีมีผู้ป่วยมาขอรับบริการฉุกเฉิน นอกเวลาทำการ ดังนี้
1.ประชาสัมพันธ์ให้ผู้รับบริการหากเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรขอความช่วยเหลือทางหมายเลข 1669 ฟรีตลอด 24ชั่วโมง 2.ถ้าจำเป็นต้องตามเจ้าหน้าที่ที่บ้านพัก ให้ตามได้เฉพาะบ้านพักที่มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายอยู่เท่านั้น 3.ถ้าจำเป็นต้องลงมาให้บริการผู้ป่วยต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่คนอื่นโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ผู้ชายให้ลงมาช่วย และต้องแจ้ง ผู้อำนวยการ รพ.สต.ด้วย 4.ให้ผู้อำนวยการ รพ.สต. และสาธารณสุขอำเภอประสานกับสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ ในการให้มาตั้งตู้เช็คเหตุการณ์หน้า รพ.สต. และ5.ห้ามเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ที่เป็นผู้หญิงลงมาให้บริการดูแลรักษานอกเวลาเวรโดยเฉพาะยามวิกาล
ทั้งนี้ ได้กำชับให้สาธารณสุขอำเภอและผู้อำนวยการ รพ.สต. ทุกแห่งช่วยดูแลและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยกรณีมีผู้ป่วยมาขอรับบริการฉุกเฉิน นอกเวลาทำการรวมทั้งจะหารือกับสาธารณสุขอำเภอและผู้อำนวยการ รพ.สต.ทั่วประเทศต่อไป เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการเพิ่มเติม พร้อมจัดระบบที่จะดูแลเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใน รพ.สต.ให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้นต่อไป อาทิ การจัดเจ้าหน้าที่ผู้ชายอยู่เวรนอกเวลาทำการ การติดตั้งกล้องวงจรปิด การจัดให้มีเวรรักษาความปลอดภัยที่เป็นชายนอนเฝ้าสถานที่เป็นประจำ การออกนอกสถานที่ เพื่อให้บริการยามวิกาล และออกชุมชน และที่สำคัญคือการสร้างเครือข่าย อสม.เข้มแข็งเครือข่ายผู้นำชุมชนที่ดี