กิน"ทุเรียน"ตามหมอแนะ
อธิบดีกรมอนามัยเผย“ทุเรียน” ไม่ช่วยลดความอ้วน มีเส้นใยช่วยระบายแต่ก็ให้พลังงานสูงมาก 1 เม็ดให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรี กิน 4 เม็ดเทียบเท่าข้าวมันไก่ 2 จาน
มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย ว่าการกินทุเรียนช่วยฆ่าเชื้อได้เนื่องจากกำมะถันในทุเรียนเปรียบเสมือนยาปฏิชีวนะอ่อนๆ ช่วยถ่ายพยาธิ ช่วยเผาผลาญ ช่วยลดความอ้วน มีสารแอนตี้ออกซเด้นซ์และวิตามินอีสูง จะช่วยป้องกันและรักษา มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม ลดไขมัน ลดคลอเรสเตอรอล ต้านความแก่ วิธีกินทุเรียน เริ่มกินหลังตื่นนอนตอนเช้า ช่วงเวลา5.00-7.00 น กินครั้งละไม่เกิน 2-3 พู เท่ากับ 4-6 เม็ด หรือเกือบครึ่งลูกกินได้ทุกพันธุ์หลังจากนั้นก็ให้ ดื่มน้ำอุ่นตาม คำแนะนำควร งดอาหารเช้าของวันนั้นๆ และกินติดต่อกันเป็นเวลา 2 วัน เพราะความร้อนจากสารกำมะถันและเส้นใยในทุเรียนจะไปชวยชะล้างสิ่งสกปรกต่างๆภายในลำไส้และยังช่วยให้ร่างกายสดชื่นอีกด้วย อาจกิน 2 พูแทนข้าวมื้อเย็นได้
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึง ข้อเท็จจริงคือทุเรียนมีสารต่างๆ เหมือนกับผลไม้ทั่วๆ ไป มีเส้นใยช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้ แต่ไม่สามารถกินเพื่อลดความอ้วนได้ เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีพลังงานสูง โดยเฉลี่ย 1 เม็ด จะมีค่าพลังงานอยู่ที่ 130 กิโลแคลอรี่ ถ้ากิน 4-6 เม็ดจะให้พลังงาน 520-780กิโลแคลอรี่ หรือเท่ากับการกินข้าวมันไก่จานใหญ่ๆ ถึง 2 จาน หรือเท่ากับการกินอาหาร 2 มื้อ
"ที่บอกว่ากินทุเรียนช่วยลดน้ำหนักเป็นเรื่องไม่จริง แต่ถ้าจะกินเพื่อหวังผลให้ระบบขับถ่ายดีคิดว่าควรกินผลไม้ชนิดอื่นที่ให้พลังงานน้อยดีกว่า นอกจากนี้ สารกำมะถันที่อยู่ในทุเรียนนั้นจุดเด่นคือทำให้ทุเรียนมีกลิ่นแรง แต่ไม่มีหลักฐานทางวิชาการยืนยันว่าสามารถต้านการอักเสบ หรือฆ่าเชื้อได้ รวมถึงไม่ได้ช่วยเรื่องการลดความอ้วน"นพ.วชิระกล่าว
นพ.วชิระ กล่าวอีกว่า การกินทุเรียนนั้นสามารถกินได้หากเป็นวัยหนุ่ม สาว คนที่ไม่มีโรคประจำตัวกินแล้วก็ควรหาวิธีเผาผลาญพลังงานออกอย่างถูกต้อง เช่น ออกกำลังกาย ดังนั้นถ้าจะกินควรกินระหว่างวันพอที่จะมีเวลาในการออกกำลังกายไม่ควรกินช่วงก่อนนอน ส่วนผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ควรหลีกเลี่ยง
ที่สำคัญ คือ ไม่ควรรับกินร่วมกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ช่วงนี้เป็นหน้าร้อน อีกทั้งยังมีบุปเฟ่ต์ทุเรียนด้วยดังนั้นขอให้ระวังเรื่องการกินขอให้กินในปริมาณที่พอเหมาะ ดูศักยภาพร่างกายตัวเองว่ามีโรคอะไรหรือไม่ แต่หลักการสำคัญในการกินอาหารที่ดีคือกินให้หลากหลาย