“บูลด็อก” อดีตหมานักสู้สู่หมาบ้าน...น่าเลี้ยง(มาก)
“บูลด็อก” อดีตหมานักสู้สู่หมาบ้าน...น่าเลี้ยง(มาก)
น้องหมาสายพันธุ์บูลด็อก (bulldog) นับเป็นสุนัขเลี้ยงยอดนิยมในบ้านเราด้วยเช่นกัน ดูเหมือนขณะนี้ประมาณว่าจะอยู่ในลำดับ 5 รองจากลาบราดอร์, รีทรีฟเวอร์, โกลเด้น, รีทรีฟเวอร์, พุดเดิ้ล และยอร์กเชียร์ เทอร์เรีย
เป็นสุนัขในกลุ่ม Non-Sporting Group ที่มีช่วงชีวิตอยู่ได้นาน 9 ถึง 12 ปี รูปร่างตันๆ กำยำ ดูแข็งแรงอย่างนี้ นับเป็นเสน่ห์ เป็นที่โปรดปรานของผู้เลี้ยงพอสมควรทีเดียว บางตำราบอกมีถิ่นกำเนิดที่ประเทศกรีก เพราะในอดีตเป็นสุนัขที่ต่อสู้กับวัว ซึ่งเป็นกีฬาชนิดหนึ่งในยุคนั้น ทว่าต่อมากีฬานี้ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย จึงเกิดการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีเลือดนักสู้ลดลง จนกลายเป็นสุนัขที่กล้าหาญ วางใจได้ ไม่ดุร้ายเหมือนรูปร่าง
บางตำราบอกว่ามีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ จัดอยู่ในกลุ่มมาสติฟ (Mastiff) ที่เชื่อกันว่ามันกลายพันธุ์มาจากพันธุ์ Tibetan Mastiff ที่มีโครงสร้างภายนอกไม่สมประกอบ เพราะเมื่ออดีตมันถูกเลี้ยงอย่างทรมานเพื่อให้ได้มาซึ่งรูปร่างหน้าตาที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้ ก็เพื่อไว้เป็นหมากีฬาต่อสู้กับวัวเช่นกัน
น้องหมาพันธุ์นี้มีน้ำหนัก เพศผู้ประมาณ 25 กิโลกรัม ส่วนเพศเมียประมาณ 18 กิโลกรัม สูงเต็มที่เพียงฟุตเศษเท่านั้น มีลักษณะเด่นคือ หัวกลม ปากและบริเวณใบหน้าย่น ห้อย ขนเกรียนสั้นตรงและเรียบ นิ้วเท้าเวลายืนเหมือนยกขึ้น ขาหน้าตรง เวลายืนแล้วจะกางออกเล็กน้อย หางสั้น โดยมากจะเป็นสีเดียวทั้งตัว แต่มีสีดำที่ใบหน้า ปาก หน้าอก แต่ในเวลานี้นิยมสีน้ำตาลลูกวัว ...
ข้อดีของน้องหมายพันธุ์นี้ คือมีนิสัยอารมณ์สงบนิ่ง อ่อนโยน กล้าหาญ ไม่ก้าวร้าว ไว้ใจได้ รักสะอาด ซื่อสัตย์ รักบ้าน ซึ่งจะตรงข้ามกับรูปลักษณ์ภายนอกของมันโดยสิ้นเชิง ทว่าจะสามารถดูอารมณ์ของมันได้จากสีหน้า แววตา ...และเมื่อพิจารณาดูจากเรือนร่างมะขามข้อเดียวแล้วเจ้าบูลด็อกแล้ว ดูเหมือนบางครั้งจะว่องไวกระฉับกระเฉงอย่างน่าประหลาด ...อีกทั้งนับเป็นสุนัขที่สนใจใส่ใจใน “มนุษย์” มากกว่าสุนัขพันธุ์ใดๆ
ทว่าข้อเสียหรือธรรมชาติของมันคือหายใจแรง ชอบกรน หงุดหงิดงุ่นง่านเวลาเป็นสัด และเช่นเดียวกันหากให้อาหารมาก ได้รับการออกกำลังกายไม่เพียงพอ น้องหมาพันธุ์นี้ก็มีแนวโน้มที่จะอ้วน เพราะความที่เป็นสุนัขพันธุ์หัวใหญ่ เวลาคลอดจำต้องคลอดด้วยการผ่าท้องอยู่บ่อยๆ
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้สนใจที่จะเลี้ยงอาจต้องทำใจไว้ด้วยถึงข้อเสียต่างๆ ของมัน และต้องระวังเรื่องอากาศร้อนเป็นพิเศษ...
หากตัดสินใจได้แล้วไม่เกี่ยงที่จะเลี้ยงก็หาซื้อได้ราคาจำหน่ายระดับสุนัขเลี้ยงทั่วไป เริ่มราว 1 หมื่นบาทขึ้นไป
--------------------