อาสาสมัครทีเอ็มบีจากสำนักงานใหญ่ ได้พัฒนาโปรแกรมออนไลน์ ที่จะช่วยบริหารจัดการหรือจับคู่ความถนัดของอาสาสมัครและความต้องการของเยาวชนผู้พิการทางสายตาให้แมตช์กันได้ที่ Volunteer Matching รวมทั้งจัดทำคลิปวีดีโอแนะแนวการเป็นอาสาสมัคร เพื่อพัฒนาศักยภาพทางการศึกษา และยกระดับคุณภาพชีวิตผู้พิการทางสายตาได้อย่างยั่งยืน
ภายใต้โครงการ “จิตอาสาเพื่อน้องผู้พิการทางสายตา” โดยร่วมกับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ซึ่งเป็น 1 ใน 37 กิจกรรมเปลี่ยนชุมชนเพื่อความยั่งยืนทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด TMB Make THE Difference
บุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า “โครงการจิตอาสาเพื่อน้องผู้พิการทางสายตา เป็นกิจกรรมของไฟ-ฟ้า โดยมูลนิธิทีเอ็มบี ที่จัดทำขึ้น 37 โครงการทั่วประเทศ เพื่อจุดประกายให้คนในชุมชนออกมาร่วมกัน “เปลี่ยน”
ซึ่งเกิดจากแนวคิด Make THE Difference โดยเริ่มจากศึกษาปัญหา ช่วยกันคิด วิเคราะห์ ลงมือทำ โดยส่งเสริมอาสาสมัครทีเอ็มบีในการทำงานเพื่อสังคมร่วมกับชุมชน ในขณะที่สังคมมีการเชื่อมต่อกับโลกดิจิทัลอย่างกว้างขวาง แบงก์นำดิจิทัลส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
"ครั้งนี้เรานำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ต่อสังคม ระบบออนไลน์ที่จะช่วยจับคู่ความต้องการของเยาวชนผู้พิการทางสายตา และความถนัดของอาสาสมัคร รวมทั้งเวลาที่จะมาเจอกันได้อย่างรวดเร็ว เพื่อพัฒนาการเรียนแก่เยาวชนผู้พิการทางสายตาอย่างยั่งยืน" "บุญทักษ์" กล่าว
มนตรี ถิรศักดิ์ธนา อาสาสมัครทีเอ็มบี หัวหน้าทีมคิดค้นโปรแกรมออนไลน์ Volunteer Matching เปิดเผยว่า "เด็ก" ที่พิการทางสายตาสามารถเรียนรู้ได้เหมือนคนทั่วไป แต่ด้วยข้อจำกัดของจำนวนครูที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้เสียโอกาส จึงได้คิดโปรแกรม Volunteer Matching ใช้งานง่าย เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกแห่ง เป็นกลไกในการสื่อสารและจับคู่ ความต้องการทั้งผู้ให้และผู้รับ คือเด็กพิการทางสายตา สามารถลงข้อมูลต้องการอาสาสมัครวิชาไหน วัน/เวลาที่สะดวก เช่นเดียวกับอาสาสมัครที่ลงข้อมูลความถนัด เวลาสะดวก ซึ่งถ้าข้อมูลแมตช์กันได้ ก็สามารถกดยืนยันได้ทันที นอกจากนี้ยังได้จัดทำคลิปวีดีโอแนะแนวการเป็นอาสาสมัคร
ดร.มัลลิกา บุณยคุปต์ จิตอาสาที่ช่วยผลักดันน้องปวินท์ ผู้พิการไทยคนแรกที่สอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าโปรแกรม Volunteer Matching ว่า โปรแกรมนี้จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์สูงสุด โดยอาสาสมัครที่ดีจะต้องรู้จักการแบ่งเวลา เตรียมเวลา ทุ่มเทแรงกายและแรงใจ
เพราะเชื่อว่า การให้โอกาสทางการศึกษาจะช่วยให้บุคคลนั้นมีการพัฒนาชีวิตไปในทางที่ดีขึ้นค่ะ ด้วยความที่เราเห็นถึงความตั้งใจ ความทุ่มเทของน้อง เราก็หาช่องทางทุกอย่าง ที่จะช่วยลดอุปสรรคต่างๆ ก่อนที่น้องปวินท์ จะเข้าจุฬาฯ ก็ไปรับมาอ่านหนังสือของวิศวะ เตรียมความพร้อมสำหรับเปิดเรียน
ปวินท์ เปี่ยมไทย นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชั้นปี 2 กล่าวว่าเขาผ่านถึงจุดนี้ได้ เพราะพี่ๆ อาสาสมัครที่ช่วยเหลือกันมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องช่วยอ่านหนังสือซึ่งสำคัญมาก พอมีพี่ๆ อาสาสมัครช่วยอ่านให้ก็ได้ทบทวนและเรียนทันเพื่อนๆ
"ผมเชื่อว่าการศึกษาด้านนี้ จะมีผลดีต่อสังคมมนุษยชาติเรา อยากจะสร้างเทคโนโลยีหรือสิ่งใหม่ๆ ที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น สิ่งที่เราคาดหวังคือ การให้โอกาสทางการศึกษา เพื่อคนพิการทางสายตา จะได้มีอาชีพที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่คนขายสลากกินแบ่งอย่างที่เห็นกัน" ปวินท์ กล่าว
น้องเต๋า-ศิวนาถ มณีแดง นักเรียนผู้พิการทางสายตาชั้นม.6 โรงเรียนเซนต์คาเบรียล บอกว่าเขาอยากจะเป็นทูต ตอนนี้เรียนภาษาจีนอยู่ การพูด การฟัง ไม่เกินความสามารถของเรา ตั้งเป้าว่าต้องได้เกรด 4 ถ้าไม่ได้ก็ต้องใกล้เคียง แค่มองไม่เห็นตัวหนังสือ แต่ถ้ามีคนอ่านให้ก่อน ก็เรียนได้ทันเพื่อนๆ ในคลาส
ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ผู้พิการไทยคนแรกที่เข้ารับราชการ กล่าวเสริมว่า ตอนที่เป็นนักเรียน ช่วงปิดเทอม ไม่เคยได้หยุดเหมือนคนอื่น ต้องไปแปะประกาศหาอาสาสมัครตามมหาวิทยาลัยต่างๆ หาพี่ๆ ช่วยอ่านหนังสือ หรือบอกหนังสือให้จด ต้องทำหนังสืออักษรเบรลล์เอง เตรียมหนังสือเสียงสำหรับใช้ในเทอมต่อไป
ซึ่งต้องใช้เวลามาก คิดว่าโปรแกรมออนไลน์จะช่วยเปิดโอกาสให้อาสาสมัครเข้าถึงนักเรียนผู้พิการทางสายตา หรือนักเรียนผู้พิการทางสายตาเข้าถึงอาสาสมัครได้ทั่วถึง และสะดวกสบายมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการศึกษาให้ผู้พิการทางสายตา
ขณะที่ ขรรค์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า อาสาสมัครเป็นส่วนสำคัญของเด็กผู้พิการทางสายตา เพราะเด็กที่นี่ พอถึงชั้นมัธยม จะไปเรียนร่วมกับนักเรียนปกติ เช่นที่โรงเรียนเซนต์ฟรัง โรงเรียนสันติราษฎร์ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ฯลฯ เมื่อต้องไปเรียนกับคนสายตาดี ที่มีการแข่งขันสูง คนที่จะพาผู้พิการทางสายตาไปสู่ดวงดาวได้ ก็คือพี่ๆอาสาสมัครนั่นเอง