"นิ้ง" โศภิดา มี "ป๋าดัน" สวยไม่สวย น้อมรับพร้อมพัฒนาตัวเอง
เปิดหมดใจ!! "นิ้ง"โศภิดา กาญจนรินทร์ เจ้าของมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018
เป็นธรรมดาโลกที่มากไปด้วยผู้คนและความคิด เรื่องชอบไม่ชอบ โดยเฉพาะมุมมองด้าน “ความงาม” ล้วนต่างจิตต่างใจ งานนี้คนที่แบกรับกระแสไว้มากที่สุด เห็นจะเป็น “นิ้ง”โศภิดา กาญจนรินทร์ เจ้าของมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 จริงอยู่ “มงกุฎป้ายแดง” บนศีรษะสร้างความสุข ความภาคภูมิใจชั่วข้ามคืน หากก็นำมาซึ่งแรงกดดันต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้ง “ปลื้ม” และ “ไม่ปลื้ม”??!!
ฟังความตั้งใจของสาววัย 23 ปี ดีกรีนักเรียนนอกด้านการเงินจากยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ เนวาด้า ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เธอสนใจเรื่องประกวดนางงาม ฝันถึงมงลงหัวแล้วยืนโบกมือสวยๆ มาตั้งแต่เด็กๆ แต่เพราะรู้ตัวว่า “ไม่ใช่คนสวยจัด!” ซ้ำคนในครอบครัวก็เห็นอย่างนั้น คุณพ่อ พ.อ.นพ. ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตนายแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎ และคุณแม่ รัตน์ประภา อดีตพยาบาล เลยยื่นคำขาดถ้าอยากไปประกวดนางงาม คุณแม่ขอร้องเรียนให้จบก่อนนะลูกสาว!!
ทันทีที่มงลงลูกสาวคนโต คุณพ่อธวัชชัย อมยิ้มก่อนเปรยเบาๆ มีลูก 3 คน น้องนิ้งเป็นคนขี้อาย เป็นเด็กไม่สวย แต่ตอนรับมงกุฎจำไม่ได้ แปลกใจลูกสาวสวยขึ้น เขาเป็นเด็กดีมีความพยายามมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การประกวด พยายามเต็มที่
“นิ้ง” โศภิดา ยืดอกรับตอนเด็กๆ เรียนหนังสือไม่เก่ง แต่ด้วยความพยายามและมุ่งมั่น ผลก็คือสามารถไต่ระดับความเฉลียวฉลาดมาอยู่ระดับท็อปได้ ที่สำคัญสร้างความภาคภูมิใจให้ตัวเองและครอบครัวด้วยการคว้ารางวัลเหรียญทองนักเรียนดีเด่นจากอดีตผู้นำสหรัฐฯ “บารัค โอบาม่า” ที่ต่อให้เป็นนักเรียนอเมริกันยังยากเลย!! ความมั่นใจดีดขึ้นเรื่อยๆ หอบปริญญาเกียรตินิยมอันดับ 2 กลับมาก็ใช้ความรู้ความสามารถเข้าทำงานตำแหน่งผู้จัดการวาณิชย์ธนกิจ ที่ธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ ก่อนแสดงความชัดเจนในชีวิตอีกครั้งด้วยการตัดสินใจ “ลาออก” จากงานที่มั่นคง มีโอกาสก้าวหน้าสูง มารับหน้าที่ตัวแทนสาวไทยสู้ศึกมิสยูนิเวิร์สเต็มตัว เพราะเห็นว่าอายุยังน้อย ยังมีโอกาสทำอะไรได้อีกเยอะ พร้อมรับปากจะพัฒนาตัวเอง อะไรขาดอะไรเกินจะรีบเสริมเติมแต่ง
“สิ่งที่อยากทำต่อจากนี้ ต้องปรึกษากองประกวดก่อนว่ามีปัญหาอะไรที่เราต้องเล็งเห็นประเด็นนั้นก่อน ส่วนตัวนิ้งสนใจเรื่องมูลนิธิช่วยผู้พิการ รวมถึงเรื่องส่งเสริมการศึกษาให้เด็กๆ และเยาวชน เพราะนิ้งเคยเป็นเด็กเรียนไม่เก่งมาก่อน แล้วได้กำลังใจ จนได้เหรียญทองจากบารัก โอบามา ทำให้เรามีไฟ ประสบความสำเร็จเรื่องการศึกษา จึงอยากลงทุนเรื่องนี้ อยากสนับสนุนน้องๆ หรือให้รางวัลน้องๆ ตามโรงเรียนต่างๆ เด็กไทยสามารถพัฒนาตัวเองได้ และเป็นเหมือนนิ้งได้” นั่นคือความตั้งใจอยากใช้โอกาสที่ได้ทำงานเพื่อสังคม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความตั้งใจส่วนหนึ่งมาจากแรงหนุนของผู้เป็นพ่อ พ.อ.นพ. ธวัชชัย ที่ต้องยกให้เป็น “ป๋าดัน” คอยเป็นแฟนนางงาม คอยเชียร์ ติดตาม และเช็กกระแสในโลกโซเชียลตลอดๆ พร้อมมักสอนลูกสาวเสมอว่าอย่าคิดว่าเป็นนางงามแล้วจะได้อะไร ต้องคิดว่าเราเป็นนางงามแล้วคิดจะทำอะไรให้สังคมและประเทศชาติ จะได้ไม่มีความกดดัน เพราะเมื่อเราคิดจะทำอะไรให้คนอื่นจะทำให้เกิดความมุ่งมั่น
แต่กระนั้นก็เถอะ ชั่วโมงนี้กับตำแหน่งที่ถูกจับตามองแทบทุกฝีก้าว ภารกิจเร่งด่วนต้องรีบ “สลายแรงกดดัน” จากรอบด้านให้ได้ แล้วกลับไปฟิตหุ่น ซ้อมเดินให้มาก และฝึกตอบคำถามให้เปะปัง!
“การที่เราเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เราจะต้องรับแรงกดดันให้ได้ เชื่อว่าประสบการณ์ของนิ้ง แรงกดดันตอนที่นิ้งอยู่อเมริกาคือตัวตนของนิ้งจะสามารถรับแรงกดดันได้ เราสามารถใช้ตรงนี้ไปสู้กับต่างชาติได้” ขอให้มั่นใจ “ฉันทำได้” เจ้าตัวบอกอย่างนั้น
Go Go ไปสู่จักรวาล...