
เมืองอวิชชา
มีโยมที่เคารพนับถือกันได้ถวายคำแนะนำว่า...ขออย่าให้แสดงทัศนะใดๆ เกี่ยวกับการชุมนุมประท้วง เพราะเป็นของการเมือง จะทำให้คนที่มีเวลาน้อยไม่เข้าใจ และจะทำให้ไม่ดำรงอยู่ในความยุติธรรม จะพลอยเสียศรัทธาไปเสียเปล่าๆ...ซึ่งก็รับฟังด้วยดีและอนุโมทนาในความปรารถนาดีท
เรื่องความยุติธรรมนั้นจะต้องเกิดจากกระบวนทัศน์หลายประการ คือ
อตีตังสญาณ มีญาณระลึกถึงอดีตทั้งของตนและคนอื่น ในที่นี้คือมีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ทั้งภายในประเทศ และประวัตศาสตร์โลก
ปัจจุบันนังสญาณ มีญาณรู้ปัจจุบัน คือ ได้ติดตามสถานการณ์ปัจจุบันอย่างละเอียด ลึกซึ้ง ถูกต้อง
อนาคตสญาณ มีญาณรู้อนาคตว่าจะเกิดสิ่งนั้นสิ่งนี้ต่อบุคคล บ้านเมือง โลก ก็คือการนำเอาประวัติศาสตร์ บวก เหตุการณ์ปัจจุบัน แล้วนำผลรวมมาพิจารณา เกิดเป็นพยากรณ์ และให้เป็น เอกังสพยากรณ์ ทำนายนิ้วเดียวแบบโกณฑัญญะทำนายมหาปุริสลักษณะของสิทธัตถะกุมาร อคติ ต้องมีใจปราศจากอคติอันเป็นโมหจิต ถ้ามีอคติแล้วพูด เขียนก็จะเข้าลักษณะ ตาบอดคลำช้าง ในอคติ ๔ ประการนั้น มีอคติกิเลสตัวใดตัวหนึ่งก็ต้องมีอีก ๓ ตัวเสมอ
สถานภาพ คือ ความน่าเชื่อถือ ได้แก่ อายุ ความรู้ ชาติตระกูล ยศศักดิ์ ประสบการณ์ อันเป็นที่ศรัทธา และธรรมวุฒิ คือ ความเป็นผู้ดำรงอยู่ในคุณธรรม
การสำรวจกระบวนทัศน์ในตนเอง เพื่อนำเสนอความคิดเห็นต่อสังคมผ่านสื่อต่างๆ นั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งและต้องตั้งอยู่ในจังหวะจะโคน ต้องดูตาม้าตาเรือซึ่งก็ได้แก่สัปปุริสธรรม สัมฤทธิผลจะเกิดขึ้นแก่สังคมอันก่อให้เกิดสติปัญญา อันเป็นสัมมาทิฐิ แต่ถ้าปราศจากกระบวนทัศน์และสัปปุริสธรรมความสูญเปล่าอันเป็นความล้มเหลวก็จะเกิดขึ้นแก่ตัวผู้แสดงวิสัยทัศน์ถึงแม้จะพูด เขียน ผ่านสื่อได้ทุกวันก็ไร้ประโยชน์จึงขอยืนยันต่อผู้ปรารถนาดีทุกท่านว่าจะไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด
"พระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ)"