ชิมอาหารพื้นเมืองที่"กาดดอยตุง"
ยก "กาดดอยตุง" มาสู่ใจกลางเมือง สะท้อนทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิต
มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ ห้างเซ็นทรัล จัดงาน “กาดดอยตุง” ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 นำความเป็นดอย มาสู่ใจกลางเมือง สะท้อนทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิต ให้สัมผัสประสบการณ์ความสุขต่อเนื่องจากงาน “สีสันแห่งดอยตุง” ที่ ดิ อีเวนต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม ตั้งแต่วันนี้ ถึง 3 มีนาคม
คุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา เผยว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561-27 มกราคม 2562 ที่ผ่านมาได้จัดงาน “สีสันแห่งดอยตุง 2018 อินดอยเฟสติวัล” ที่บริเวณสำนักงานโครงการฯ ซึ่งจัดมาเป็นปีที่ 5 แล้วภายในงานมีการจัดแสดงทางประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ บนดอยตุง ที่แสดงออกมาทางการร่ายรำ การขับร้อง การจัดแสดงบ้านจำลองชนเผ่า สินค้าพื้นบ้าน โดยมีกาดชนเผ่าซึ่งมีสินค้าของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ วางจำหน่ายในซุ้มไม้ไผ่ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อด้วยราคาที่ย่อมเยา โดยมีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ และชาวต่างชาติไปเยือนจำนวนมาก แต่ยังมีอีกหลายคนที่พลาดโอกาส เราจึงจับมือกับห้างเซ็นทรัลจัดงานนี้ขึ้น โดยยกบรรยากาศบนดอยตุง และนำผลิตภัณฑ์คุณภาพจากดอยสูง มาให้คนเมืองกรุงได้สัมผัส พร้อมอร่อยกับอาหารจากเชฟอินดอย
เครือวัลย์ กาบุญก้ำ
สปาเกตตีไส้อั่ว
ภายในงาน ละลานตาไปด้วยผลิตภัณฑ์จากโครงการพัฒนาดอยตุงฯ อาทิ สินค้าหัตถกรรม สินค้าเกษตร พร้อมร้านอาหารเหนือจาก “ครัวตำหนัก” โดยเชฟคนดัง “ป้าเครือ” เครือวัลย์ กาบุญก้ำ ผู้เป็นต้นเครื่องประกอบอาหาร ถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มาปรุงเมนูไฮไลท์ให้ลิ้มรสอย่าง “สปาเกตตีไส้อั่ว” พร้อมเมนูเด็ด แกงฮังเล, ขนมจีนนํ้าเงี้ยว, เห็ดอ้อนดอย, ไส้อั่ว และนํ้าพริกต่างๆ พร้อมสัมผัสกับประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบล้านนา ที่มีแคร่พร้อมขันโตกไว้บริการ และที่พลาดไม่ได้คือ “ไอศกรีมวานิลลา” ซึ่งมีส่วนผสมของวานิลลาปลูกที่ดอยตุง
แพสชั่นฟรุต จินเจอร์ กรานิต้า-โคลด์ บริว กรานิต้า
นอกจากนี้ยังมี “คาเฟ่ดอยตุง” ที่นำเมนูพิเศษ เมนูของหวาน "พันนาคอตต้า" ที่ปรุงด้วยวานิลลาแท้เช่นกัน รับประทานกับกราไนต์ ที่มีให้เลือก 2 รส "แพสชั่นฟรุต จินเจอร์ กรานิต้า" และ "โคลด์ บริว กรานิต้า" ซึ่งใช้กาแฟดอยตุงในกระบวนการสกัดเย็น แล้วนำมาแช่แข็งให้กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งละเอียดนุ่มลิ้น และยังมีกาแฟดอยตุง แมคคาเดเมีย ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ มาให้ดื่ม และช็อป
ไอศกรีมวานิลลา
นอกจากนี้ยังมีกล้วยไม้สายพันธุ์ต่างๆ รวมไปถึงสินค้าหัตถกรรม เสื้อผ้า ผ้าพันคอ คอลเลกชั่นพิเศษ ผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติ งานเซรามิก หมอน ฯลฯ ทั้งนี้ผู้มาชมงานสามารถร่วมสนุกกับเวิร์กช็อปสไตล์ดอยตุง อาทิ เคล็ดลับการดริฟต์กาแฟ, เพนต์พร้อมปักการ์ดอวยพร และสมุดกระดาษสา, เพนต์เซรามิก และทำพวงกุญแจจากเศษด้ายเหลือใช้ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือ “เวลาเป็นของมีค่า” ที่ทำให้เราได้เห็นความสำคัญของการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ จากพระจริยวัตรอันงดงามของสมเด็จย่า