หมอชี้ "นั่งจนชิน" เสี่ยงเป็นโรคร้าย | คมชัดลึก

     หมอชี้หนุ่มสาวออฟฟิศระวังนั่งผิดท่านานจนเคยชิน ส่งผลเสียต่อโครงสร้างกระดูกสันหลังและระบบประสาท ทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา แนะปรับพฤติกรรม นั่งให้ถูกวิธี พร้อมออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายระยะยาว 

ดร.เสถียร สว่างโลก 

      ดร.เสถียร สว่างโลก หรือ “หมอเปิ่น” ผู้บรรยายความรู้ด้านไคโรแพรคติกคลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์สว่างโลก ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจและใช้วิธีการรักษาสุขภาพด้วยศาสตร์ “ไคโรแพรคติก” เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นศาสตร์ของการจัดปรับข้อกระดูกด้วยมือ เพื่อช่วยให้ข้อกระดูกมีการเคลื่อนตัวได้ดี ไม่ไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท สามารถช่วยแก้ปัญหาพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

    เริ่มจากการ “นั่งทำงาน” อยู่หน้าคอมพิวเตอร์วันละ 7-8 ชั่วโมง หรือก้มหน้าเล่นมือถือ จะพบอาการปวดคอและบ่า รวมถึงการใช้กำลังแขนพิมพ์งาน อาจปวดร้าวไปจนถึงหลังและสะโพก เพราะการจดจ่อหน้าจอจะทำให้เกิดการเกร็งกล้ามเนื้อลำตัว และทิ้งน้ำหนักทั้งหมดไปที่บริเวณสะโพก แก้ไขโดยการนั่งให้สุดเก้าอี้แล้วใช้หมอนรองบริเวณหลังตรงสะโพก ปรับระดับคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา ที่สำคัญทุกๆ 1 ชั่วโมง จะต้องลุกขึ้นเดินไปมา 3-5 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ได้ทำงาน 

     สำหรับสาวๆ ที่ชอบ “นั่งไขว่ห้าง” จะทำให้น้ำหนักลำตัวเทไปที่ก้นข้างใดข้างหนึ่ง ส่งผลให้เกิดอาการปวดบริเวณเอว หลัง และเข่า หรือส่งผลเสียต่อกระดูกเชิงกรานคดผิดรูป จึงควรหลีกเลี่ยงการนั่งท่าดังกล่าว แก้ไขโดยนั่งลำตัวตรง ขาทั้งสองข้างชิดกันพอหลวมๆ และปรับเก้าอี้นั่งให้หัวเข่าอยู่ต่ำกว่าเอวเล็กน้อย

    “นั่งเท้าคาง” มือที่เท้าคางจะไปดันกระดูกบริเวณหน้า ทำให้กรามเบี้ยวไปโดนเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน รวมถึงการได้ยินเสียงวิ๊งๆ ในหูตลอดเวลา วิธีแก้ ให้เปลี่ยนจากการคิดในสมองมาใช้วิธีการจดลงบนสมุด เพราะจะทำให้เราใช้มือเขียนแทนการเท้าคาง หรือหากต้องการพักสายตาให้เอนศีรษะไปที่พนักเก้าอี้แทน นอกจากจะไม่ต้องเท้าคางแล้วยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อคอจากการก้มหน้าทำงานได้ด้วย

   และใครที่ชอบเหน็บกระเป๋าเงินไว้ที่กางเกงด้านหลัง และ “นั่งทับกระเป๋าสตางค์” จะทำให้การรับน้ำหนักลำตัวของก้นทั้งสองข้างไม่เท่ากัน ทำให้กระดูกสันหลังและสะโพกเคลื่อนตัวไปรบกวนเส้นประสาท ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะภายในบริเวณช่วงล่าง ทำให้เกิดโรคต่างๆ อาทิ ท้องผูก กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ระบบสืบพันธุ์เสื่อม  หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นต้น ควรเลี่ยงเอากระเป๋าสตางค์ใส่กางเกงด้านหลัง อาจจะพกเงินและบัตรต่างๆ เท่าที่จำเป็นไว้ในกระเป๋าเสื้อแทน