หนุ่ม กรรชัยฮีโร่ (ไม่) จำเป็น | คมชัดลึก

 

 

          ภาพติดตาคนไทยยุคหนึ่งสำหรับ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” คือ แบดบอยผู้เจ้าชู้คนหนึ่งของวงการบันเทิงไทย แต่วันนี้ภาพจำของคนไทยต่อตัวเขาได้แปรเปลี่ยนไป

 

          จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม บทบาทล่าสุดกับการเป็นตัวกลางในการเคลียร์ปัญหาเงินชดใช้แก่ญาติผู้เสียชีวิตในคดี “แพรวา-รถตู้” ที่ตามกันมา 9 ปี ได้ทำให้ หนุ่ม กรรชัย ในวัย 50 (ที่ไม่อยากเชื่อสายตา) ได้กลายเป็นดารา พิธีกร ผู้ประกาศ ผู้เป็นที่พึ่งของคนตกทุกข์ได้ยากอย่างจับใจคนไทยไม่เบา

 

 

 

 

 

          ดาราแบดบอย

          กรรชัย หรือชื่อจริงคือ “ภูดิท กำเนิดพลอย” เริ่มต้นในวงการบันเทิงมาราว 28 ปีก่อน หล่อเหลาไม่แพ้รุ่นคุณพ่อหรือ ประกอบ กำเนิดพลอย อดีตดาราที่คนไทยยุคหนึ่งชื่นชอบเช่นกัน

          เราเห็นเขามาในหลากหลายบทบาท แต่การแสดงคือเส้นทางสายแรก โดยละคร “เขาวานให้หนูเป็นสายลับ” ปี 2534 คือเรื่องแรกของเขา เรื่องนี้กรรชัยแม้เป็นพระรอง แต่ก็แจ้งเกิดอย่างสวยงามกับบทบาท “ผู้หมวดเผด็จ”

          คนเรา มักมีความสามารถสักอย่างที่เหมือนเป็นลายเซ็น น่าเสียดายที่ช่วงแรก หนุ่ม กรรชัย แม้จะมีผลงานละครเรื่อยมาแทบทุกช่อง แต่เขากลับขึ้นชื่อเต็งหนึ่งเรื่องความเจ้าชู้มากกว่า

          ยุคหนึ่งในหน้าข่าวบันเทิงไทย ข่าวคราวของ หนุ่ม กรรชัย ทำนองเปลี่ยนรัก สลับซ่อน ที่ปรากฏรายวัน แทบจะบดบังความสามารถทางการแสดงของเขาไปหมดสิ้น ทั้งดาราสาวและเซเลบแถวหน้า

          ที่ร้อนแรงที่สุดและดูเหมือนเกือบเป็นจุดแตกหัก รักสะบั้น ระหว่าง กรรชัย กับแฟนสาวที่คบหากันมานาน และทนความเจ้าชู้ของฝ่ายชาย ฝ่าด่านชัยจนมีทายาทด้วยกันในวันนี้ คือเหตุการณ์ “ศึกชิงรัก-ชิงรถมินิคูเปอร์”

 

 

 

 

 

          คนไทยจำได้ดี เพราะช่วงนั้นเรื่องนี้เป็นหัวข้อสนทนาเม้าท์มอย กรรชัยไปที่ไหนจะต้องเจอแซวเรื่องนี้ไม่จบสิ้น เป็นภาพลักษณ์ที่เจ้าตัวเองไม่รู้จะภูมิใจดีหรือไม่เหมือนกัน

 

          เส้นทางเปลี่ยน

          อย่างที่บอกว่า หนุ่ม กรรชัย ผ่านมาหมดทุกรูปแบบ นอกจากละครร่วม 75 เรื่อง นับแต่ปี 2534-2553 เขาก็ผันตัวเองเข้าสู่งานสายพิธีกรรายการโทรทัศน์

 

          ย้อนไปปี 2553 หนุ่มตัดสินใจวางมือจากการแสดง และหันไปร่วมกับแฟนสาว (หรือแม่ของลูกในขณะนี้)  “เมย์ เฟื่องอารมย์” หรือ ปทิดา กำเนิดพลอย ในวันนี้ ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาสองแห่ง

          ที่แรกคือ บริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด เพื่อผลิตละคร และรายการวาไรตี้ ที่ผ่านมาทำละครส่งทางช่อง 8 (อาร์เอส) มา 6-7 เรื่องตั้งแต่ปี 2555-2559 โดยได้ศรีภรรยาเป็นผู้จัด

          อีกบริษัทคือ บริษัท อะมะเตะระสุ จำกัด โดยร่วมทุนกับ บริษัท เซิร์ช เอ็กซ์ จำกัด ของเพื่อนสนิท จอนนี่ แอนโฟเน่ (หุ้นส่วนผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เซิร์ซ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) ผลิตรายการเกมโชว์ “ดาวินชี่ เกมถอดรหัส” และ "ดาวินชี่ เด็กถอดรหัส” ช่วงปี 2559, 2560 ตามลำดับ และยังคงได้รับเสียงตอบรับมาจนทุกวันนี้

 

 

 

          อย่างไรก็ดี ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น ฝ่ายตัวของหนุ่มเองก็ได้เป็นพิธีกรมากมายหลายรายการ รวมถึงรายการของตัวเองด้วย โดยทั้งหมดเป็นรายการวาไรตี้บันเทิง

          แต่ถ้าเป็นสายข่าว สายจ้อแล้ว นอกจากรายการ “เมืองไทยวาไรตี้” ทางช่อง 5 ที่มีเนื้อหาทางสังคมทั่วไปแล้วก็คงเป็นรายการ “บอก 9 เล่าสิบ" ทางช่อง 9 ที่หนุ่มจ้อร่วมกับ “มดดำ” คชาภา ตันเจริญ สายจ้อตัวจริงอีกคน

          รายการนี้ออกอากาศปี 2553 ร่วมผลิตโดย บริษัท อินไซท์ อินโฟ จํากัด และ บริษัท ดีคืนดีวัน จํากัด ได้รับเสียงตอบรับในระดับดีไม่น้อยเช่นกัน

          หลังจากนั้นยังมีรายการ “ปากโป้ง” ช่อง 8 ในปี 2555 อีกด้วย

 

          จ้อน้ำดี?

          วันนี้หลายรายการยังอยู่ หลายรายจากไปตามสภาพ แต่ดูเหมือนว่าเส้นทางสายคุยข่าว หรือ “ทอล์กข่าว” จะเป็นทางของหนุ่ม กรรชัย

          ในสายข่าว นอกเหนือจากเป็นพิธีกรข้ามช่องที่ไทยรัฐทีวีกับรายการ “ข่าวใส่ไข่” จะว่าไปหากพูดถึงรายการ “ปากโป้ง” ช่อง 8 ที่หนุ่มเป็นทั้งโปรดิวเซอร์และพิธีกร ก็ถือเป็นรายการที่เขาตั้งใจให้เป็นเวทีสาธารณะ เพื่อให้คนที่ตกอยู่ในประเด็นข่าวได้มีพื้นที่ชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่ต่างจากรายการโหนกระแสที่กำลังเปรี้ยงปร้างตอนนี้

 

 

 

          แม้ปากโป้งลาจอไปแล้วช่วงปี 2560 แต่กลางปีเดียวกัน หนุ่ม และ บริษัทดีคืนดีวัน กลับได้พื้นที่ใหม่ ที่ช่อง 3 SD กับรายการ “โหนกระแส” บ่ายจันทร์-ศุกร์ และยังต่อยอดเป็น “โหนกระแสแต่เช้า” ทุกวันอาทิตย์ ช่อง 3 HD

          หากจำกันได้ รายการโหนกระแส เปิดตัวไม่กี่วันก็สร้างปรากฏการณ์ทอล์กออฟเดอะทาวน์ และยังคงสร้างมาตลอด

          เสน่ห์ของรายการนี้ ต้องให้เครดิตหนุ่มเจ้าของรายการนั่นแหละ ที่เขาตีโจทย์รายการทอล์กได้อย่างตรงจุดว่าต้องตรงไปตรงมา ง่าย และเป็นกลาง

          “ไม่ใช่อยู่ดีๆ ผมจะถามเลย เพราะผู้ชมบางคนก็ไม่ได้รู้เรื่องมาก่อน ผมไม่ใช่นักข่าว ผมแค่ทำหน้าที่แทนคนดูที่เขาอยากจะรู้ โดยการเอาคำถามง่ายๆ ที่เขาอยากจะถามมาถามแขกรับเชิญ” (ข่าวโพสต์ทูเดย์ 12 มี.ค.2560)

          อย่างที่เห็น ในการทำหน้าที่ของหนุ่ม กรรชัย เขาบาลานซ์ทั้งสองฝ่าย เปิดพื้นที่ให้คู่ขัดแย้งได้แจง ได้พูด และเปิดหมดทั้งฝ่ายพระเอก หรือฝ่ายผู้ร้ายในสายตาคนไทย บ่งชี้ถึงความเป็นกลางของรายการ

          เหนืออื่นใด คือการจับเอาเรื่องราวที่อยู่ในกระแสขึ้นมาพูดคุย และเมื่อเรื่องราวล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาทุกข์ร้อนของคนในสังคม รายการจึงได้กลายเป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยเหลือผู้คนไปด้วย

          และมันได้ทำให้ภาพของ หนุ่ม กรรชัย กลายเป็นที่ไว้วางใจของชาวบ้านไปโดยปริยาย ส่งถึงภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ จนได้เป็นผู้ประกาศข่าวหลักใน “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” ช่อง 3 ตั้งแต่สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา อีกด้วย

 

          ฮีโร่ตัวจริง?

          เคสของคดี “แพรวา รถตู้” หนุ่มเข้ามาเกี่ยวข้องในการเป็นตัวกลางร่วมกับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หลังจากที่ ลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา มารดาของ แพรวา รวินภิรมย์ อรุณวงศ์ ตั้งใจขายที่ดินเพื่อนำเงินมาชดใช้ทุกอย่าง

          ว่ากันว่างานนี้ หนุ่ม ถึงกับรับเอาโฉนดที่ดินมาไว้กับตัวเอง และอาสาที่จะช่วยขายที่ดินผืนนี้ให้ ด้วยหวังช่วยนำเงินมาชดเชยให้แก่ผู้ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็ว

          แต่แม้ว่าหนุ่มจะเร่ขายที่ดินให้ไม่ได้ จนทางครอบครัวแพรวาได้ไปหยิบยืมญาติมาแทน เขาก็ยังได้เป็นตัวแทนในการมอบเช็คเงินสด 41 ล้านบาทเศษ ให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งเพื่อนำไปเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งหมดต่อไป

          ถามว่าทำไมบ้านแพรวาจึงไว้ใจกรรชัย ทั้งที่ไม่ได้เป็นเครือญาติ หรือเกี่ยวข้องกันในทางใด หรือถามว่าทำไมกรรชัย ต้องไปเหนื่อย ไปเป็นธุระให้ จำเป็นแค่ไหน ?

          แม้บางคนอาจคิดได้แค่คำว่า “มีส่วนได้เสีย” แต่เอาจริงๆ คำตอบน่าจะอยู่ที่บทบาทของผู้ชายคนนี้จากที่เล่ามาข้างต้นมากกว่า โดยเฉพาะปรากฏการณ์ผ่านรายการโหนกระแส ต้องบอกว่ากรรชัยทำมาเยอะจริงๆ

          ไม่เพียงการพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏ ในหลายๆ เคส เช่น ลงทุนดื่มน้ำที่แช่บัตรสมาร์ทการ์ด ซึ่งมีคนหัวใสมาชวนชาวบ้านให้เชื่อว่าใช้บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกายจนควักเงินจ่าย

          ยังมีการให้เงินช่วยเหลือครอบครัวน้องบีม ภัทรดา แก้วผ่อง เด็กหญิงพิการที่ถูกทนายโกงเงิน ที่มาร่วมรายการโหนกระแสเพื่อระบายความทุกข์ ราวกับเป็นพ่อพระก็ไม่ปาน

          คนไทยอาจเคยรู้จักพิธีกรเล่าข่าวที่กระตุก กระตุ้นสังคม และยังตอบโจทย์ “ความใคร่รู้แบบไทยๆ” มาหลายคน วันนี้หากจะพูดว่าเรามี กรรชัย กำเนิดพลอย ที่มาทำหน้าที่นี้ได้อย่างดีเยี่ยมอีกคนก็คงได้

          และเมื่อทั้งหมดที่กล่าวมา ดำเนินไปพร้อมๆ กับเรตติ้งรายการที่โตวันโตคืน นี่จึงเป็นเรื่อง “จำเป็นที่สุด” ของรายการโทรทัศน์ยุคนี้พึงมี

 

**************//**************