
หมอหวน จับเส้นตำรับ หมอตำแย ศาสตร์โบราณของแท้ไม่ง้อยา
หมอหวน จับเส้นตำรับ หมอตำแย ศาสตร์โบราณของแท้ไม่ง้อยา คอลัมน์... หมอยาทางเลือก
วันนี้คอลัมน์ “หมอยาทางเลือก” ยังคงวนเวียนอยู่กับศาสตร์การนวดจับเส้น แต่พิเศษคือเรื่องราวของพ่อหมอท่านหนึ่งที่โด่งดังในสายนวดแผนไทย ท่านคือ อ.หวน สังข์พราหมณ์ แห่งบ้านบางขันหมาก อ.เมือง จ.ลพบุรี
ได้มีโอกาสพูดคุยถึงประวัติความเป็นมา และความเชี่ยวชาญทางการนวดที่เลื่องลือว่าท่านเป็นแพทย์ทางเลือก แก้อาการป่วยโดยตรงด้วยการจับเส้น และไม่ใช้ยา ซึ่งพ่อหมอหวนเล่าไว้มากมาย ดังนี้
++
เส้นทางหมอมือดี
หมอหวนเกิดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2484 ในครอบครัวที่บ้านมีอาชีพทำนาทั่วไป ท่านเป็นบุตรคนที่ 5 ของ นายขอม และ นางอู้ต สังข์พราหมณ์
แต่ด้วยเหตุที่มารดาเป็นหมอตำแยอยู่แล้ว เมื่อคุณแม่ไปทำคลอดที่แห่งหนตำบลใด ก็จะต้องติดตามไปด้วย โดยมีหน้าที่ช่วยเตรียมยาและคอยส่งอุปกรณ์ในการทำคลอด
แต่ในอาชีพหมอตำแยนั้น ไม่เพียงทำคลอด ทักษะต่างๆ ยังต้องนำมาใช้ผสมผสานกันไป อย่างการนวด หมอหวนเล่าว่าตอนที่เป็นผู้ช่วยหมอตำแยตั้งแต่เด็ก ก็ได้เห็นว่าบรรดาคนท้องและคนทั่วไป ที่มีอาการปวดตัวหรือปวดตามเส้นก็จะมาหาคุณแม่ที่บ้าน และคุณแม่ก็จะบีบนวด จับเส้นให้อยู่เสมอเป็นปกติ
“ตั้งแต่เด็กมาอายุราว 7-8 ขวบ ก็ถูกบีบบังคับมาบ้างนะ (ฮา) แต่อาจารย์ก็ได้ความรู้มาทีละเล็กทีละน้อย จนต่อมาพอเราทำได้เราก็สงสารคนที่เขาเจ็บป่วย ก็ทำให้เราได้นวดคนมาเรื่อยๆ”
ทำให้ได้ซึมซับวิชามาด้วยโดยอัตโนมัติ ซึ่งต่อมาคนในหมู่บ้านที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ก็มักจะเรียกใช้ให้นวดให้ แม้แต่หลวงพ่อที่่วัดก็เรียกใช้ให้นวดอยู่บ่อย
หมอหวนเรียนจบเพียงชั้น ป.4 ที่ ร.ร.โพธิ์ระหัต ที่บ้านเกิด แต่ด้วยประสบการณ์แบบลงมือปฏิบัติด้วยตนเองมายาวนาน ทำให้เรื่องราวของหมอหวนได้รับการพูดปากต่อปากว่าเป็นหมอนวดมือดี มีผู้คนแห่แหนมากันมากมาย
อย่างไรก็ดี ท่านก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตนเอง เมื่อโตเป็นหนุ่ม จึงได้ออกเสาะแสวงหาวิชาการนวดกับบุคคลที่มีชื่อเสียงทางการนวดจับเส้นมากมาย ทั้งผู้เฒ่าผู้แก่หลายคน ซึ่งช่วงแรกจะได้ร่ำเรียนกับบรรดาหมอตำแยก่อน จากนั้นจึงได้เรียนนวดแบบราชสำนัก และเชลยศักดิ์ ที่ จ.สระบุรี
พอเรียนแล้วได้ใช้ประกอบอาชีพพร้อมกับได้พิจารณาดูว่าการนวดแบบไหนได้ผล จึงได้คัดเอาส่วนดีของแต่ละอาจารย์มาใช้เป็นวิชาประจำตัวและใช้ประกอบอาชีพจนถึงปัจจุบัน
++
ทักษะจับเส้น
ทุกวันนี้ หมอหวนทั้งนวดและเปิดสอนนวด-จับเส้น ชนิดที่มีคนขอเข้ามาเป็นลูกศิษย์ลูกหามิได้ขาด มีผู้คนจากกรุงเทพฯ ที่เดินทางมารักษาที่ลพบุรี ก็ติดอกติดใจ ติดต่อขอให้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อนวดรักษาอยู่เนืองๆ
โดยเฉพาะหากถามว่านวดแบบหมอตำแยมีความพิเศษอย่างไร หมอหวนในวัย 79 ได้อธิบายให้ฟังด้วยน้ำเสียงแจ่มใสว่า การนวดแบบนี้มีมานาน เป็นของเก่าแก่
“คือเป็นต้นตำรับนวดแบบไทยเราไม่ต้องไปกินยา ไม่ต้องไปทายาบรรดานวดสปา นวดอย่างอื่น อาจารย์ไม่เอา แต่นี่นวดตำรับหมอตำแยมันของเก่า เรานวดแล้วได้ผล ก็ต้องอนุรักษ์ของตรงนี้ไว้มันถึงจะยืดยาวต่อไป ที่คนมาเรียนเราให้ตรงนี้ ศาสตร์อื่นเราไม่สอน เพราะศาสตร์อื่นเป็นการพาณิชย์ แต่ของอาจารย์มันจะได้ผลชัดเจนกับโรคต่างๆ นะ”
นอกจากนี้หมอหวนยังเดินสายไปนวดรักษา จับเส้น และเปิดสอนผู้ที่อยากมีวิชานวดจับเส้นตามที่ต่างๆ โดยมาจะพำนักอยู่ตามวัด ทั้งนี้ที่ต้องเปิดสอนเพราะลำพังตัวเองคงจะไม่สามารถดูแลคนป่วยได้ทั่วถึง เพราะหมอหวนเล่าว่าช่วงพีคๆ มีผู้คนเข้ามาให้รักษาวันหนึ่ง 7-8 ราย ฟังดูเหมือนไม่มาก แต่วิธีการของหมอนั้นเข้มข้นจริงจัง จำนวนขนาดนี้จึงนับว่าหนักหนาเอาการ
“7-8 คน ตีหนึ่งตีสองกว่าจะจบ เราทำไม่ไหว จึงต้องปั้นลูกศิษย์ขึ้นมาใหม่ หมอถ่ายทอดวิชามานี่มีลูกศิษย์ราวๆ 6,000-7,000 คนแล้วนะ”
ปัจจุบันวิชาที่หมอหวนเปิดสอนจะเน้นการจับเส้นโดยตรง เพราะเรื่องนวดหรือการนวดทั่วไปธรรมดาๆ ผลออกมาได้น้อย แต่ถ้าเราจับเส้นด้วย จะรักษาได้ผลมากกว่า
“นวดจับเส้น ถ้าเราปวดตรงไหน เราไม่ต้องกดที่เจ็บหรอก แต่เรากดที่อื่นมันถึงที่เจ็บ อยู่กับว่าเราให้น้ำหนักเท่าไร เวลาเท่าไร ก็หายได้ เขาถึงเรียกว่าศาสตร์อาจารย์หวน จับเส้น”
++
ครูโดยแท้
อาจารย์หวนผ่านการเรียนการนวดไทยและนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพ จากสมาคมแพทย์แผนไทย จ.สระบุรี ทั้งยังได้ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้ช่วยแพทย์แผนไทย จากศูนยฝึกอบรมเวชศักดิ์คลินิกการแพทย์แผนไทย
ไม่ต้องพูดถึงรางวงรางวัลมากมายที่ได้รับ เพราะดีกรีใดเลยจะเทียบเท่าคำเล่าลือและเสียงการันตีจากผู้ที่เคยให้หมอหวนนวดจับเส้นให้ตลอดดจนลูกศิษย์ลูกหาที่ว่ากันว่า เมื่อร่ำเรียนแล้วออกมาประกอบอาชีพหาเลี้ยงตัวเองได้เป็นอย่างดี
ใครสนใจเข้าไปดูได้ในเฟซบุ๊กของท่านคือเพจ “อาจารย์พ่อหวน สังข์พราหมณ์” จะมีการบอกเล่าเรื่องราวที่ท่านที่ได้เปิดสอนเกี่ยวกับโรคเส้นศาสตร์โบราณมากมาย
เช่น ปวดสะบัก คอตกหมอน ไหล่ติดยกแขนไม่ขึ้น หมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาท ทำให้ปวดขาชาลงเท้า นิ้วเท้า นิ้วล็อก ปวดเข่า ปวดเอวข้างเดียวลงขาชา ปวดสะโพกลงเข่า ปวดขาด้านข้าง ปวดสลักเพชร ปวดเอวลงขา ชา ปวดสะโพก ปวดขาหนีบ ปวดลูกหนูไข่ดัน
ทุกวันนี้ท่านก็ยังคงประสิทธิ์ประสาทความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจอยู่ตลอด แอบกระซิบว่าตอนนี้อาจารย์หวนพำนักอยู่ในกรุงเทพฯ นี่เอง ที่ 165 ศูนย์พัฒนาแพทย์แผนไทย วัดทุ่งลานนา ถ.เฉลิมพระเกียรติ ซอย 28 เขตประเวศ กทม.
หรือถ้าใครอยากอบรมเป็นอาชีพ เร็วๆ นี่้จะมีกำหนดการเปิดอบรมการนวดกดจุดแบบศาสตร์โบราณ โดยศาสตร์อาจารย์พ่อหวนขึ้นในระหว่างวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์ 2563
งานนี้บอกเลยใครสนใจทั้งนวดและอบรมสามารถติดต่อไปได้เลยที่เบอร์ 09-6151-4989 ณฐวัฒน์ สังข์พราหมณ์ (บุตรชายอาจารย์พ่อหวน สังข์พราหมณ์)
บอกเลยอาจารย์พ่อหวนใจดีมากๆ เรียกได้ว่าต้องการที่จะถ่ายทอดวิชาสุดๆ ด้วยใจหวังอยากให้มีคนได้ความรู้ออกไปช่วยผู้คนอีกมากๆ ส่วนที่ทำทุกวันนี้ถามว่าได้อะไร อาจารยฺ์พ่อหวนบอกว่าแค่ได้เห็นผู้เจ็บป่วยหายจากอาการก็มีความสุขมากมายแล้ว