ร้อนตัวหอบพระคืนหลวงพ่อพิมพ์คล้ายพระนาดูน | คมชัดลึก

หลังจากคนร้ายแฝงตัวอยู่ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น และโจรกรรมโบราณวัตถุจำนวนมากถึง 91 รายการ แบ่งเป็นพระพิมพ์ดินเผาจากกรุพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม จำนวน 55 รายการ พระพิมพ์ดินเผาจากเมืองฟ้าแดดสงยาง จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 12 รายการ พระพุทธรูปสำริดสมัยทวาราวดีประทับยืน ปางเสด็จจากดาวดึงส์ จำนวน 11 รายการ เทวรูปสำริดสมัยลพบุรี จำนวน 7 รายการ พระโพธิสัตว์สำริดสมัยลพบุรี จำนวน 5 รายการ และแผ่นทองคำจากกรุพระธาตุนาดูน จำนวน 2 รายการ ซึ่งแต่ละรายการมีอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี เหตุเกิดในคืนวันที่ 4 ต่อเนื่องวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยกองบังคับการตำรวจภูธรขอนแก่น และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้ตั้งทีมสืบสวนเพื่อติดตามคนร้าย รวม 2 ชุด แต่ยังไม่สามารถติดตามคนร้ายได้นั้น

     เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 17 ธ.ค.พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล สารวัตรเวร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ รับแจ้งจากพระมหาพรพจน์ จันทสโร พระวัดกลางพระอารามหลวง ซึ่งเป็นพระประริยัตินิเทศว่า มีคนนำเอาพระเก่า ทั้งพระเครื่อง พระกรุ พระรูปปั้นกว่า 200 ชิ้นมาถวายให้กับวัด โดยหนึ่งในนั้นมีพระพิมพ์สูงประมาณ 20 ซม.กว้าง 10 ซม. ซึ่งลักษณะคล้ายกับพระพิมพ์สมัยทวาราวดีเมืองฟ้าแดดสงยางจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ถูกขโมยไปจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจังหวัดขอนแก่น จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางเข้าไปตรวจสอบทันที

 ตรวจสอบพบว่าพระที่นำมาถวายมีจำนวนมาก โดยมีทั้งพระเก่าแก่ พระกรุ บางองค์มีความเก่าแก่ ซึ่งหาดูได้ยาก และยังมีพระรูปปั้น ซึ่งมีลักษณ์คล้ายพระเมืองฟ้าแดดสงยาง เจ้าหน้าที่จึงได้อายัดไว้ตรวจสอบ พร้อมทั้งประสานไปยังผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาตรวจสอบว่าใช่พระที่ถูกขโมยไปจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจังหวัดขอนแก่นหรือไม่

 พระมหาพรพจน์ จันทสโร ซึ่งเป็นพระที่รับการถวายพระทั้งหมด เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีผู้ชายคนหนึ่งอายุ ประมาณ 40-45 ปี โดยอ้างว่าชื่อนายบัญชา เนียนไทสง ได้นำเอาพระจำนวนดังกล่าวมาถวายให้กับวัด โดยอ้างว่าตนเองและครอบครัวอยู่ไม่เป็นสุข ร้อนเนื้อ ร้อนตัว เดือดเนื้อร้อนใจ อีกทั้งยังมีหมอดูทักและแนะนำว่าให้นำพระที่มีอยู่ทั้งหมดไปถวายวัด ไม่เช่นนั้นจะมีอันเป็นไปจนถึงขั้นเสียชีวิต จึงได้นำพระมาถวายดังกล่าว

 พระมหาพรพจน์ กล่าวอีกว่า ภายหลังบริจาคจึงนำพระที่ถวายมาดู ซึ่งก็พบว่ามีพระองค์หนึ่ง ซึ่งมีลักษณ์คล้ายกับพระเมืองฟ้าแดดสงยางที่ถูกขโมยไปจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ จังหวัดขอนแก่นตามที่เป็นข่าว จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ และจากการสอบถามลูกศิษย์วัดก็ทราบว่าชายที่นำพระมาถวายนั้นถือได้ว่าเป็นเซียนพระคนหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีบ้านอยู่ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์

 พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล สารวัตรเวร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังตรวจสอบก็พบว่าพระดังกล่าวคล้ายกับพระที่หายไปจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจังหวัดกาฬสินธุ์ ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องอายัดไว้ก่อน จากนั้นจะประสานไปยังผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เข้ามาตรวจสอบว่าเป็นพระที่ถูกขโมยไปจริงหรือไป ซึ่งคาดว่าน่าจะทราบความจริงในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามหากเป็นพระที่ถูกขโมยไปจริงๆเจ้าหน้าที่จะต้องติดตามตัวผู้ที่นำพระมาถวายมาสอบสวนต่อไป

 แหล่งข่าวที่เป็นผู้เชี่ยวชาญพระพิมพ์กรุนาดูน เปิดเผยว่าจากการติดตามข่าวการโจรกรรมโบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น ตนในฐานะคนในพื้นที่ จ.มหาสารคามที่ศึกษาเรื่องพระธาตุกรุนาดูนมานาน และเดินทางมาชมโบราณวัตถุที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่นบ่อยครั้งพบว่าพระธาตุกรุนาดูนที่ทางพิพิธภัณฑ์ นำออกมาโชว์ให้ประชาชนเข้าไปชมในอาคารจัดแสดงนั้นมีทั้งของแท้และของที่ทำเลียนแบบขึ้นมา หรือที่เรียกว่าพิมพ์ย้อนยุค ซึ่งเนื้อมวลสารที่มีความเก่าแก่นั้นจะทำขึ้นมาใหม่อย่างไรก็ดูรู้ ฉะนั้นต้องให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญตรวจสอบเท่านั้นเท่านั้น จึงตั้งข้อสงสัยว่าพระกรุนาดูนของแท้น่าจะถูกเก็บไว้ในคลังจัดเก็บโบราณวัตถุ หรือถูกโจรกรรมไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงอาจมีการจัดฉากโจรกรรมขึ้นอีกเพื่อที่จะกลบเกลื่อนของแท้ที่หายไป ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่าเป็นผลประโยชน์จากคนบางกลุ่ม เนื่องจากพระกรุนาดูนมีความเก่าแก่มากกว่าพระในชุดเบญจภาคี 5 สี จึงเป็นที่ต้องการของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมาก รวมทั้งมีใบสั่งจากประเทศฮ่องกง จึงเป็นเรื่องที่น่าตั้งข้อสังเกต

 แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า เหตุโจรกรรมครั้งนี้ถือว่าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น หละหลวม ซึ่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทุกแห่งจะมีระบบรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี  และตู้ที่จัดแสดงหลังจากล็อคกุญแจเสร็จจะต้องมีเชือกแปะครั่งติดไว้ เพื่อตรวจสอบว่ามีการเปิดตู้หรือไม่ แต่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่นกลับใช้เหมือนดินเผามาแปะไว้  และการเปิดตู้แต่ละครั้งจะต้องมีลายเซ็น อธิบดีกรมศิลปากร หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม หรือผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

 นอกจากนี้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจะต้องมีสัญญาณเตือนภัยติดตั้งอยู่ด่านหน้าพิพิธภัณฑ์ และที่สถานีตำรวจ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้กลับไม่มีสัญญาณใดๆดังขึ้นเลย และโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไม่รู้เลยว่าเป็นของแท้หรือของปลอม ดังนั้นเจ้าหน้าที่เองควรจะมีการตรวจสอบทุกปี จะได้รู้ว่ารุ่นไหนหายไปบ้าง

"การลงมือก่อเหตุในครั้งนี้คนร้ายจะต้องมีประสบการณ์ มีข้อมูลเป็นอย่างดี และจะต้องมีคนภายในหรือบุคคลที่เคยทำงานอยู่ในพิพิธภัณฑ์ร่วมด้วย การลงมือโจรกรรมพระกรุนาดูน และวัตถุโบราณอื่นๆ คนร้ายทำงานตามใบสั่งแน่นอน อาจจะอยู่ที่ต่างประเทศ หรือในกรุงเทพฯ  หรือบุคคลในพิพิธภัณฑ์เอง  เพราะการโจรกรรมครั้งนี้ผิดธรรมชาติมีอะไรน่าสงสัยหลายอย่าง คนร้ายไม่น่าที่จะลงมือได้ง่ายขนาดนี้"แหล่งข่าวกล่าว 

 ผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวอีกว่าหลังจากที่พระกรุนาดูนถูกโจรกรรมไปทำให้กระแสราคาพระกรุนาดูน พุ่งขึ้นทันที และป็นที่ต้องการอย่างมากในขณะนี้ โดยเฉพาะรุ่นหน้าปกพิมพ์ใหญ่ ราคาจากเดิม 7 แสน ขณะนี้ขึ้นไปถึง 1 ล้านบาท ปางลีลาเดิม 5 แสน เป็น 7 แสนบาท พิมพ์ปาฏิหาริย์ประทานพร พิมพ์เสด็จดาวดึง  พิมพ์นั่งเมือง พิมพ์ปกคู่ ราคาเดิม 1 แสน เป็น 2-3 แสนบาท

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. ชาว อ.นาดูน ในนามมูลนิธิพระธาตุนาดูน จะรวมตัวกัน จากนั้นจะเคลื่อนขบวนเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม จากนั้นจะเดินทางมาชุมนุมที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น และตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามเอาโบราณวัตถุกลับคืนมาโดยเร็ว ขณะที่ พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รองผบช.ภาค4 และโฆษกสำนักงานตำรวจภาค4 นัดแถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ในเวลา10.00น.ในวันเดียวกัน