Apple Watch กับฟีเจอร์สุดพิเศษ "ระบบการติดตามสุขภาพอัจฉริยะ"
จริง ๆ แล้ว Apple Watch มีคุณสมบัติที่ใช้แทนมือถือได้หลายอย่าง หนึ่งในระบบที่โดดเด่นของนาฬิการุ่นนี้คือ "ระบบการติดตามสุขภาพอัจฉริยะ" ที่ทำให้ผู้ใช้รู้ค่าสถิติร่างกายของตัวเองในด้านต่าง ๆ
เมื่อไม่นานมานี้ Apple ได้เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นล่าสุดกับ Apple Watch Series 6 (Apple Watch รุ่นที่ 6) ซึ่งบทความนี้จะไม่ได้มาพูดถึงนาฬิการุ่นนี้เปลี่ยนไปจากรุ่นเก่าอย่างไร แต่จะมาบอกเล่าถึงคุณสมบัติพิเศษที่มากับเครื่องนั่นคือ คุณสมบัติตรวจสุขภาพแบบเรียลไทม์ (real-time) เพราะได้มีการยืนยันจากงานวิจัยแล้วว่าการดูแลสุขภาพ ไม่เพียงทำให้เราไกลจากการป่วย ไม่สบาย แต่ยังทำให้เรามีความสุขกับชีวิตมากขึ้น จริง ๆ แล้ว Apple Watch มีคุณสมบัติที่ใช้แทนมือถือได้หลายอย่าง แต่หนึ่งในระบบที่โดดเด่นของนาฬิการุ่นนี้คือ “ระบบการติดตามสุขภาพอัจฉริยะ” ที่ทำให้ผู้ใส่รู้ค่าสถิติร่างกายของตัวเองในด้านต่าง ๆ เช่น
คุณสมบัติแรก “Vo2 max” หรือ ค่าออกซิเจนที่ร่างกายใช้ได้สูงสุดในช่วงที่ออกกำลังกาย ขณะที่ วิ่ง เต้น ปีนเขา ขี่จักรยาน ฯลฯ ค่านี้แสดงถึงความแข็งแรงของปอดและหัวใจเพื่อดูภาพรวมความแข็งแรงของร่างกาย โดยทั่วไปแล้วค่านี้จะวัดกับกลุ่มนักกีฬา แต่เมื่อ Apple ได้นำระบบนี้มาใส่ไว้ในนาฬิกาอัจฉริยะ ทำให้คนธรรมดาอย่างเราสามารถรู้ระดับความฟิตของร่างกายตัวเองได้ด้วย ส่วนการอ่านค่าก็เพียงดูว่าตัวเลขที่แสดงผลออกมาสูงหรือไม่ เพราะยิ่งเลขสูงเท่าไหร่ยิ่งแสดงว่าเรามีความฟิตเท่านั้น
คุณสมบัติที่สอง “IRN & ECG” หรือ ระบบที่วัดเกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งก่อนที่ระบบจะเปิดใช้ได้ ต้องผ่านมาตรฐานอย. ของไทยเราก่อน ซึ่ง Apple ก็ได้ผ่านมาตรฐาน อย. ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
***IRN*** หรือ ระบบการจับจังหวะการเต้นที่ผิดปกติของหัวใจ ระบบนี้จะทำงานอัตโนมัติ จากเซนเซอร์ที่ติดอยู่หลังนาฬิกาอยู่บนหลังข้อมือเรา ซึ่งหากนาฬิกาจับได้ว่าอัตราการเต้นของหัวใจเราเต้นผิดปกติ 5 ครั้งภายในเวลาประมาณ 65 นาทีก็จะส่งการแจ้งเตือนให้เราได้รับรู้
***ECG*** หรือ ระบบการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การวัดค่านี้ไม่ได้ทำงานโดยอัตโนมัติ เราจะสามารถวัดได้ในเวลาที่ต้องการ ซึ่งค่าที่จะวัดได้มี 4 รูปแบบ
1. Sinus Rhythm หรือ ไซนัสรึธึม ค่านี้แสดงว่าหัวใจเราเต้นเป็นปกติดี
2. AFib หรือ เอฟิบ ค่านี้แสดงว่าหัวใจ เต้นไม่ปกติ
3. Low or High Heart Rate หรือ การแสดงค่าว่าหัวใจเต้น ช้า หรือ เร็วเกินไป
4. Inconclusive / Poor Recording หรือ อ่านค่าไม่ได้ อาจเกิดจากปัจจัยทางเทคนิค เช่น เราสวมนาฬิกาหลวมเกินไป หรือ นาฬิกาของเราไม่สะอาดจนแถบแม่เหล็กอ่านค่าจากร่างกายเราไม่ได้
ค่าหัวใจที่ได้มาจากสองระบบที่กล่าวมานี้เราสามารถให้คุณหมอนำไป วิเคราะห์ วินิจฉัยอาการผิดปกติของหัวใจเราต่อไปได้ รวมทั้งยังช่วยให้เรารู้จักการดูแลสุขภาพของเราให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
คุณสมบัติเด่นข้อที่สาม Apple Sleep Tracking หรือ ระบบติดตามการนอนหลับ ระบบนี้จะสามารถช่วยจัดการชีวิตของเราให้เป็นระบบได้ดีขึ้น ช่วยให้เข้าใจต้นตอของความเหนื่อยล้า และด้วยความเข้าใจนี้จะสามารถจัดระบบการนอนได้ดี ส่งผลให้แต่ละวันของเราสดชื่นมากยิ่งขึ้น สามารถใช้ร่างกายได้อย่างเต็มสรรถภาพขึ้นไปอีก ส่วนวิธีการใช้งาน เราสามารถตั้งเป้าหมายชั่วโมงการนอนไว้บนนาฬิกา และดูผลในเช้าวันถัดมาหรือติดตามสถิติในรอบเดือนว่าได้นอนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ เพื่อที่จะช่วยให้เราได้จัดระบบการนอนตัวเองได้ดียิ่งขึ้น มากไปกว่านั้นยังวิเคราะห์ต่อไปถึงปัจจัยที่ทำให้เรานอนไม่หลับได้และกลับไปแก้ปัญหาตรงจุด
และสี่ซึ่งเป็นข้อสุดท้ายคือระบบ Hand Washing Stop Watch หรือ ระบบจับเวลาล้างมือ ต้องบอกอย่างนี้ว่า การล้างมือให้ถูกวิธีถือเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามแต่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราห่างไกลจากเชื้อโรค โดยเฉพาะช่วงนี้ที่การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดกระจายตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงโรคอื่น ๆ ที่เรารู้จักกันดี อย่าง เช่น โรคติดเชื้อในกระเพาะ อาหาร การล้างมือไม่สะอาดยังเสี่ยงต่อการไปแพร่เชื้อที่ติดมากับมือไปสู่คนอื่นอีกด้วย ดังนั้นหากเวลาที่เราล้างมือแต่ละครั้ง ล้างได้ถึง 20 วินาที เราจะป้องกันตัวเองและคนอื่นจากเชื้อโรคได้ เพราะแบบนี้ระบบการจับเวลาล้างมือจึงมีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันของพวกเรา
ระบบทั้งหมดนี้เป็นเพียงลูกเล่นความทันสมัยอย่างหนึ่ง ที่ Apple watch ทำได้เท่านั้น เพราะนาฬิกาอัจฉริยะนี้ยังทำได้อีกหลายอย่างแทน smartphone เช่น ฟังเพลง รับโทรศัพท์ เช็คแจ้งเตือน LINE, Facebook หรือแอพอื่น ๆ ที่เราติดตาม แต่เพราะเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวของทุกคน เราต่างทำงานหนักเพื่อให้เราและคนที่เรารักมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ทำงานหนักอาจจะไร้ความหมายถ้าหากเราลืมดูแลสุขภาพของตัวเองไป คมชัดลึกจึงไม่อยากให้ผู้อ่านละเลยเรื่องการดูแลสุขภาพ และหวังว่าบทความนี้จะทำให้ผู้อ่านหันมาใส่ใจดูแลตัวเองกันไม่มากขึ้นก็น้อย
ภาพประกอบจาก : https://www.apple.com/th/
https://www.apple.com