ผักรู้นอน.."กระเฉด"ประโยชน์ที่คุณอาจมองข้าม
นอกจากความอร่อยแล้ว "ผักกระเฉด" มีสารพัดประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งเราอาจมองข้ามไปโดยเห็นว่าเป็นพืชธรรมดาพื้นๆ
กระเฉด จัดเป็นพืชที่เกิดตามผิวน้ำ ลำต้นเป็นเถากลม เนื้อนิ่ม ลักษณะของใบจะคล้ายกับใบกระถิน โดยใบจะหุบในยามกลางคืน จึงเป็นที่มาของชื่อ "ผักรู้นอน" ระหว่างข้อจะมีปอดเป็นฟองสีขาวหุ้มลำต้นที่เรียกว่า "นมผักกระเฉด" ซึ่งทำหน้าที่ช่วยพยุงให้ผักกระเฉดลอยน้ำได้
และยังมีรากงอกออกมาตามข้อซึ่งจะเรียกว่า "หนวด" ลักษณะของดอกจะเป็นช่อเล็ก ๆ สีเหลือง และผลจะมีลักษณะเป็นฝักโค้งงอเล็กน้อย แบน มีเมล็ดประมาณ 4-10 เมล็ด
"ผักกระเฉด"ขยายพันธุ์ได้ง่าย เพียงแค่หักกิ่ง ด้วยเหตุนี้เอง"กระเฉด"จึงเติบโตได้เร็วจนกลายเป็นวัชพืชได้ด้วย
ประโยชน์ของ"ผักกระเฉด"
- เป็นยาระบายอ่อนๆ คนท้องผูก รับประทานจะช่วยได้
-ช่วยบำรุงร่างกายและดับพิษ
-ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดลงได้
-ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ
-ช่วยถอนพิษต่างๆได้ เช่นอาการเมา หรือพิษจากการเป็นไข้
-ช่วยบำรุงสายตาได้ เพราะในผักกระเฉดประกอบไปด้วยวิตามินเอ
-ถ้าหากนำ"ผักกระเฉด"มาบดแล้วผสมกับเหล้านำมาหยอดบริเวณที่มีอาการปวดฟันจะสามารถบรรเทาลงได้
-ช่วยแก้อาการปวดแสบปวดร้อน
- ช่วยขับลมในกระเพาะ
- ช่วยป้องกันโรคตับได้
-ช่วยขับเสมหะ
-ช่วยรักษาโรคกามโรค
-ช่วยถอนพิษยาเบื่อยาเมา
-ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างเป็นปกติ
-ผักกระเฉดมีธาตุเหล็ก ซึ่งมีความจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงและช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
ข้อควรระวัง การรับประทาน"ผักกระเฉด"ควรทำให้สุกก่อนนำมารับประทาน เพราะมีความเสี่ยงต่อ"พยาธิตัวอ่อน"ที่อาจปะปนเข้ามา รวมไปถึง"ไข่ปลิง"ที่ทนความร้อนได้สูงมาก ต้องต้มด้วยความร้อนสูงถึง 500 องศาเซลเซียสและต้องต้มนานเป็นชั่วโมงถึงจะรับประทานได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ยังอาจมีสารพิษจากยาฆ่าแมลงปลอมปนเข้ามาอีกด้วย ซึ่งสารพิษตัวนี้มีพิษร้ายแรงต่อร่างกายมนุษย์ มีผลต่อระบบประสาทและหัวใจเป็นสารก่อมะเร็งและอาจทำให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานผิดปกติได้ ดังนั้นควรรับประทานด้วยวิธีปรุงสุกจะดีกว่ารับประทานแบบประเภทยำ