รู้จักยัง.."จำปาดะ" ผลไม้ดังถิ่นใต้...ไม่ธรรมดา
"จำปาดะ"เป็น "ผลไม้"ที่หารับประทานได้ยากมาก ๆ เนื่องจากให้ผลเพียงปีละครั้งประมาณ พ.ค.- ก.ค.และจะหาได้เฉพาะทาง"ภาคใต้"เท่านั้น นอกจากรสชาติอร่อยแล้ว มี"สรรพคุณ" มากมาย
"จำปาดะ" (Chempedak) เป็น"ผลไม้"ตระกูลเดียวกับขนุน รสหวาน มีกลิ่นเฉพาะตัว
คนส่วนใหญ่มักสับสนเมื่อเห็น"ขนุน"และ"จำปาดะ" พร้อมกันเนื่องจากมีลักษณะภายนอกของ"ผลไม้"สองชนิดนี้ค่อนข้างคล้ายกัน "จำปาดะ"ออกผลปีละ 1 ครั้งในช่วงฤดูฝน
ถิ่นกำเนิดอยู่ในคาบสมุทรมาลายู อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไนและเกาะนิวกินี
สำหรับประเทศไทย เป็นผลไม้ท้องถิ่นขึ้นชื่อของภาคใต้ ปลูกมากในจังหวัดสตูลและจังหวัดสงขลา
"จำปาดะ"มี 2 สายพันธุ์หลัก
1.จำปาดะขนุน เนื้อนิ่มเหลว เมื่อสุกงอมจะมีรสหวานจัด มีกลิ่นจัด ยวงมักไม่เต็มผล แกะยวงออกจากเปลือกค่อนข้างยาก ติดผลได้ตลอดทั้งปี ขนาดผลใหญ่กว่า"จำปาดะบ้าน"
2.จำปะดะบ้าน เนื้อเหลว รสหวานจัดและมีกลิ่นแรงเช่นเดียวกัน มียวงเต็มผล เปลือกหนา แต่ฉีกหรือแกะออกจากยวงได้ง่าย
ทั้งสองสายพันธุ์สามารถแยกเป็นพันธุ์มีเมล็ดและไร้เมล็ด นอกจากนี้สายพันธุ์ย่อยสามารถแยกได้ตามพื้นที่การปลูก มีลักษณะเด่นและรสชาติแตกต่างกันไป
"ขนุน"กับ"จําปาดะ"ต่างกันอย่างไร
ขนาดของผล"จำปาดะ"จะเล็กกว่า"ขนุน"
เปลือก"จำปาดะ"จะบางและปอกง่ายกว่าขนุน และไม่มียวงมีใยเหนียวหนืดเป็นยางมาคั่นระหว่างเมล็ดเหมือนขนุน
กลิ่น"จำปาดะ"กลิ่นจะแรงกว่าขนุน
เนื้อจำปาดะจะมีเนื้อนิ่มเละ ไม่แข็งกรอบเหมือนขนุน
เนื้อจำปาดะจะเหนียวเคี้ยวไม่ค่อยขาด ไม่เหมือนขนุนที่เคี้ยวง่าย
รสชาติจำปาดะจะมีรสหวานจัด มีน้ำเยอะและหวานกว่าขนุน
สรรพคุณ"จำปาดะ"
ช่วยบำรุงร่างกาย
มีวิตามินเอสูง จึงช่วยบำรุงและรักษาสายตาได้เป็นอย่างดี
เส้นใย"จำปาดะ"สามารถช่วยขับไขมันและสารพิษออกไปจากร่างกายได้
เปลือกไม้ของ"จำปาดะ"มีสรรพคุณที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและช่วยรักษาโรคมาลาเรียได้
เนื้อผลสุกของ"จำปาดะ" ใช้เป็นยาระบายอ่อน ๆ
เนื้อผลอ่อนของ"จำปาดะ"ช่วยแก้อาการท้องเสีย
เมล็ดจำปาดะช่วยขับน้ำนมในสตรีหลังคลอดและช่วยบำรุงร่างกายได้
ในมาเลเซียมีการใช้รากของจำปาดะเป็นส่วนผสมของยาสมุนไพรแบบดั้งเดิมที่ใช้สำหรับหญิงที่เพิ่งคลอดบุตร
รับประทาน"จำปาดะ"กันอย่างไร
ผลสุกนิยมรับประทานสดเป็นผลไม้ มีรสหวานจัด หอม
สำหรับทางภาคใต้จะนิยมนำไปทำเป็น"จําปาดะทอด" โดยใช้เนื้อพร้อมเมล็ดไปคลุกกับแป้ง น้ำตาล ไข่ นม งา แล้วนำไปทอดน้ำมัน
ใช้ทำเป็นขนมหวานหรือใช้ทำเป็นข้าวตอกน้ำกะทิจำปาดะ แกงบวดจำปาดะ
เมล็ดใช้ทำเป็นอาหารคาว อาทิ นำมาใส่แกงพุงปลา แกงคั่วกะทิ หรือจะรับประทานร่วมกับขนมจีน
ผลอ่อนใช้ปรุงเป็นอาหาร
เมล็ดสามารถนำไปต้มหรือนำไปเผาไฟรับประทานได้
ใบอ่อน"จำปาดะ"ใช้เป็นผักจิ้มหรือใช้รับประทานร่วมกับส้มตำได้