5 ตัวช่วย "ลดหวาน" ไกลโรค | คมชัดลึก

การกินอาหารที่มีรสชาติหวาน หรือ มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบมากเกินไป ทำให้ร่างกายได้รับพลังงามากกว่าความต้องการเกินกว่าที่ร่างกายจะสามารถเผาผลาญพลังงาน หรือนำไปใช้ได้ไม่หมด ทำให้สะสมอยู่ในร่างกาย ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา  และยังเป็นสาเหตุ ที่ทำให้ร่างกาย หลั่งสารอินซูลิน ออกมามากเกินความจำเป็น ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นโรคเบาหวาน ในอนาคตได้  นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอื่นตามมา เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เราจะมีวิธีอย่างไรก็จะช่วยให้เราลดความหวานลงได้บ้าง ลองดูวิธีที่เราแนะนำมาปรับให้เหมาะสมกับตัวเองเพื่อลดการติดหวาน จะได้ห่างไกลจากโรคภัย 
 

1.ไม่หักดิบ ลดการซื้อขนมหวาน  

การเริ่มต้นด้วยการ ลดความหวานในอาหารที่เรากินให้น้อยลง  แต่ไม่ใช่การหักดิบ เลิกกินอาหารหวาน หรือไม่กินน้ำตาลเลยในทันที่ เพราะอาจจะส่งผลกระทบกับร่างกาย และ อาจจะทำได้ในระยะเวลาสั้น ๆ อาจจะกลับมามีพฤติกรรมกินของหวานเหมือนเดิม ที่สำคัญ ใครที่มีชอบซื้อขนมหวาน น้ำอัดลม ต้องเลือกซื้อ และควรเลือกแบบลดความหวาน 

 

 

 

2. น้ำเปล่าช่วยได้ 

การดื่มน้ำเปล่าด้วยการจิบบ่อย ๆ อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะจะทำให้รู้สึกหิว ซึ่งจะยิ่งทำให้เพิ่มความยากกินของหวานมากขึ้้น 

 

 

 

3. กินผักใบเขียว กินให้หลากหลาย

การกินผักประเภทผักก้าน ผักใบเขียวให้หลากหลาย อาทิ บร็อคเคอรี่ คะน้า ซึ่งเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง และยังทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลช้าลง  และในหนึ่งมื้ออาหาร ให้ทานอาหารที่หลากหลาย เพราะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน อิ่มนาน ช่วยลดความอยากของหวาน ซึ่งแต่ในแต่ละมื้อ ควรที่จะต้องมีทั้งข้าว โปรตีน ไขมัน  

 

 

 

 

 

4. จดบันทึก อาหารที่กินเข้าไป

การจดบันทึกอาหารที่กินเข้าไป จะช่วยให้เรารู้ว่าในแต่ละวันอาหารที่เราทาน ประกอบด้วยอะไร ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม หรือ ขนมหวาน อะไรบ้าง การจดบันทึกจะช่วยให้เราปรับ

พฤติกรรมการกินได้ง่ายขึ้น 

 

 

 

 

5. ทำกิจกรรมที่ดึงความสนใจจากของหวาน 

หากิจกรรมเช่นออกกำลังกาย ทำงานบ้าน เมื่อรู้สึกโหยน้ำตาล หรือ รู้สึกว่าอยากกินอะไร ซึ่งความรู้สึกนั้นจะอยู่ประมาณ 20-30 นาที หากเราเบี่ยงเบนความสนใจ ไปทำกิจกรรมอื่น จะช่วยให้ความยากของหวานลดลงได้  

 

 

 

ขอบคุณข้อมูล  สสส.