Lifestyle

5 ทริคช่วยตัดสินใจ ฝ่าน้ำท่วมแบบไหนให้ปลอดภัย พร้อม "วิธีดูแลรถ" หลังลุยน้ำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ขับรถช่วงหน้าฝน หรือไปในที่ที่มีน้ำท่วมขัง ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ผู้ใช้รถต้องประมินสถานการณ์ ก่อนจะตัดสินใจ ว่าจะไปต่อ หรือพอแค่นี้ มาฝากกัน เพื่อวิธีถนอมรักษารถคู่ใจ ให้อยู่กับเราไปนาน ๆ

การขับรถขณะที่น้ำท่วมขัง หรือมีฝนที่เทลงมาอย่างต่อเนื่อง นับเป็นวิกฤติที่ผู้ใช้รถใช้ถนน ไม่อยากพบเจอเลย แต่เมื่อจำเป็นต้องเดินทางในขณะนั้น เราควรรู้เทคนิควิธีการ ที่จะไม่ให้เครื่องยนต์ และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ของรถยนต์ เกิดความเสียหาย 

 

5 ทริคช่วยตัดสินใจ ฝ่าน้ำท่วมแบบไหนให้ปลอดภัย พร้อม "วิธีดูแลรถ" หลังลุยน้ำ

 

เมื่อต้องขับฝ่าน้ำท่วม  มีข้อควรปฏิบัติ เพื่อลดความเสี่ยงรถพังมีดังนี้

1. สิ่งแรกที่ทำคือ รีบปิดแอร์ทันที เพราะในขณะที่เรากำลังขับฝ่าน้ำท่วม พัดลมแอร์จะทำงาน ทำให้ใบพัดหมุนดูดน้ำ และตีจนน้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง ซึ่งอาจทำให้น้ำเข้าห้องเครื่อง หรือเข้าระบบไฟฟ้าได้ รวมทั้งอาจพัดไปโดนเศษขยะต่าง ๆ จนทำให้ ใบพัดแตก หรือหักได้อีกด้วย

 

5 ทริคช่วยตัดสินใจ ฝ่าน้ำท่วมแบบไหนให้ปลอดภัย พร้อม "วิธีดูแลรถ" หลังลุยน้ำ

 

2. ใช้เกียร์ต่ำขณะขับฝ่าน้ำท่วม ให้รักษาความเร็วเอาไว้อย่างสม่ำเสมอ โดยใช้แค่เกียร์ 1 หรือ 2 เท่านั้น สำหรับเกียร์ธรรมดา ส่วนเกียร์ออโต้ให้ใช้เกียร์ L หรือ 1 ซึ่งเป็นเกียร์ต่ำสุดของรถแต่ละรุ่น และควรรักษารอบเครื่องเอาไว้ประมาณ 1,500 – 2,000 รอบ เพราะหากรอบต่ำเกินไป เครื่องอาจดับได้ และหากรอบเครื่องสูงเกินไปอาจดูดน้ำเข้าห้องเครื่องได้

 

3. อย่าเร่งรอบเครื่องสูง ๆ เพราะจะทำให้มีอุณหภูมิห้องเครื่องสูงขึ้น และเมื่อความร้อนสูง  พัดลมระบายความร้อนก็จะทำงาน ทำให้ใบพัดหมุน ผลเสียที่ตามมาก็จะเหมือนกับในข้อแรก และไม่ต้องไปกังวลเรื่องน้ำเข้าท่อ ถึงแม้น้ำจะท่วมท่อไอเสียก็ตาม เพราะรอบเดินเบามีแรงดันมากพอที่จะดันน้ำออกมาจากท่อได้ 

 

5 ทริคช่วยตัดสินใจ ฝ่าน้ำท่วมแบบไหนให้ปลอดภัย พร้อม "วิธีดูแลรถ" หลังลุยน้ำ

 

4. เมื่อขับรถสวนกัน ควรลดความเร็วลง เพราะรถที่สวนเลนมาจะมีระดับคลื่นที่ดันผ่านมากับคลื่นที่เราดันไป ทำให้เกิดแรงปะทะระหว่างทั้ง 2 คลื่น และคลื่นน้ำที่ชนกันจะก่อให้เกิดแรงกระทบ พร้อมกับระดับน้ำที่สูงขึ้น จะทำให้น้ำท่วมห้องเครื่องได้

5. ระบบเบรกทั้งหมดจมอยู่ในน้ำ ประสิทธิภาพในการทำงานจึงลดต่ำลงมาก จึงควรเว้นระยะให้ห่างจากคันหน้ามากกว่าปกติ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น จะได้มีระยะเบรกที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ หากขับรถพ้นช่วงน้ำท่วมแล้ว ให้ทำการย้ำเบรกบ่อยๆ หรือเหยียบเบรกเป็นช่วง ๆ ถี่ ๆ เพื่อไล่น้ำออกจากระบบ และผ้าเบรกจะได้แห้งไวขึ้น  

 

5 ทริคช่วยตัดสินใจ ฝ่าน้ำท่วมแบบไหนให้ปลอดภัย พร้อม "วิธีดูแลรถ" หลังลุยน้ำ

สิ่งสำคัญ หากรถดับขณะขับกลางน้ำท่วม ให้พยายามย้ายรถไปอยู่ในที่ที่น้ำไม่ท่วม และอย่าสตาร์ทเครื่องยนต์เด็ดขาด เพราะน้ำที่ค้างอยู่จะยิ่งเข้าระบบ อาจทำให้เครื่องมีปัญหามากกว่าเดิม

มีข้อควรระวัง หลังจากที่ขับฝ่าน้ำท่วมมาได้แล้ว หรือถึงจุดหมายปลายทางแล้ว อย่าเพิ่งรีบดับเครื่องยนต์ ให้วอร์มเครื่องไปอีกสักพัก เพราะอาจมีน้ำตกค้างอยู่ในหม้อพักท่อ และถ้าเห็นว่ามีไอ หรือควันออกมาจากท่อไอเสีย อย่าได้ตกใจไป เพราะมันคือน้ำที่ระเหยออกมานั่นเอง ซึ่งหากคุณไม่ทำแบบนี้ อาจทำให้ท่อทั้งเส้นผุกร่อนเร็วกว่าปกติ

 

5 ทริคช่วยตัดสินใจ ฝ่าน้ำท่วมแบบไหนให้ปลอดภัย พร้อม "วิธีดูแลรถ" หลังลุยน้ำ

 

นอกจากนี้ควรที่จะนำรถไปล้าง เน้นฉีดน้ำแรงๆ เข้าไปบริเวณใต้ท้องรถ และซุ้มล้อ เพราะมันอาจมีเศษทราย เศษขยะ ฯลฯ ติดอยู่ภายในนั้นได้

ทั้งนี้ หากใครที่ไม่ได้ออกไปลุยน้ำกับใครที่ไหน แต่จอดในที่ที่รถต้องโดนน้ำท่วมแน่ ๆ ให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ + หรือ – ออกหนึ่งขั้ว หรือจะถอดออกทั้ง 2 ขั้วเลยก็ได้ ระบบไฟฟ้าจะได้ไม่ทำงาน ถือว่าผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ในระดับหนึ่ง

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง