ไลฟ์สไตล์

"ถั่วแขก" สรรพคุณเสริมธาตุเหล็ก แก้ดับร้อน สร้างเม็ดเลือด

"ถั่วแขก" สรรพคุณเสริมธาตุเหล็ก แก้ดับร้อน สร้างเม็ดเลือด

28 ส.ค. 2564

เมนูเด็ด ผัด"ถั่วแขก"ช่วยบำรุ่งร่างกาย สรรพคุณแก้ดับร้อน รักษาอาการบวมน้ำ แถมมีธาตุเหล็กสูง ช่วยสร้างเม็ดเลือด

หลายคนคงชื่นชอบรับประทานถั่ว เพราะประโยชน์ของถั่วทางวงการแพทย์แล้ว ล้วนแต่มีสรรพคุณเสริมสร้างร่างกายแทบทั้งสิ้น สรุปแล้วคือการรับประทานถั่ว ไม่ว่าจะเป็นชนิดไหน หรือแบบใด ก็ให้ประโยชน์กับร่างกายแทบทั้งสิ้น 

 

\"ถั่วแขก\" สรรพคุณเสริมธาตุเหล็ก แก้ดับร้อน สร้างเม็ดเลือด

 

ฉะนั้น ในวันนี้ จึงขอแนะนำ "ถั่วแขก" ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหู แต่เจ้าถั่วแขกชนิดนี้ สามารถนำมาทาน โดยนำมาต้ม หรือนำไปปรุงแต่งเป็นอาหารได้หลายเมนู โดยเจ้าถั่วแขกนี้ เป็นพืชตระกูลถั่วที่มีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุสูง นิยมรับประทานทั้งถั่วสด และถั่วแห้ง รวมถึงแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ถั่วต่างๆ อาทิ ถั่วกระป่อง และถั่วอบแห้ง รวมถึงอาหารเสริมในรูปแบบผงชงดื่มหรือเม็ดรับประทาน


"ถั่วแขก" หรือ ถั่วแขกพุ่ม หลายคนอาจนึกว่า มีต้นกำเนิดแถว ๆ อินเดีย แต่แท้จริงแล้ว มีถิ่นกำเนิดบริเวณหุบเขา Tehuacan ประเทศแม็กซิโก 

 

กระทั่งมีการแพร่หลายเข้ามาแถบอเมริกากลาง ซึ่งประมาณปี ค.ศ. 1594 ได้ถูกนำเข้ามาปลูกในประเทศอังกฤษ ต่อมาประมาณศตวรรษที่ 16 จึงถูกนำเข้ามาปลูกในแถบประเทศในยุโรป โดยชาวสเปน และโปตุเกส แล้วแพร่กระจายในประเทศต่าง ๆ ในเขตร้อนชื้น และเขตอบอุ่น 


"ถั่วแขก" จัดได้ว่าเป็นพืชล้มลุก อายุ 2-3 ปี มีทั้งพันธุ์ที่เป็นไม้ยืนต้นเป็นทรงพุ่ม กึ่งเลื้อย และไม้เลื้อย ลำต้นแข็ง แตกกิ่งก้านน้อย โดยพันธุ์ยืนเป็นทรงพุ่มมีลักษณะลำต้นเป็นข้อสั้นๆ 4-8 ข้อ ลำต้นสูงประมาณ 25-30 เซนติเมตร พันธุ์กึ่งเลื้อย มีลำต้นสูงประมาณ 60-120 เซนติเมตร ส่วนพันธุ์เลื้อยมีลำต้นสูงประมาณ 1.8-3 เมตร ส่วนระบบรากประกอบด้วยรากแก้ว และรากแขนงที่หยั่งลึกประมาณ 20-25 เซนติเมตร 

 

ใบของ "ถั่วแขก" จะแทงออกบริเวณข้อของลำต้น แต่ละใบมีใบย่อย 3 ใบ ลักษณะใบย่อยแตกต่างกันตามสายพันธุ์ โดยทั่วไปมักมีฐานใบกว้าง ปลายใบแหลม แผ่นใบ และขอบใบเรียบ และมีขนปกคลุม แผ่นใบด้านบนมีสีเขียวเข้ม แผ่นใบด้านล่างมีสีเขียวจางๆ

 

\"ถั่วแขก\" สรรพคุณเสริมธาตุเหล็ก แก้ดับร้อน สร้างเม็ดเลือด

 

ส่วนดอกจะเป็นช่อ บริเวณซอกใบที่ปลายยอด ประกอบด้วยดอกย่อยที่มีสีหลากหลายตามสายพันธุ์ อาทิ สีเหลือง สีขาว และสีชมพู ดอกย่อยแต่ละดอกมีก้านดอกสั้น ประกอบด้วยกลีบเลี้ยงสีเขียวที่ฐานกลีบเชื่อมติดกันเป็นกรวยล้อมรอบกลีบดอก ถัดมาเป็นกลีบดอก จำนวน 5 กลีบ ดอกจะบานจากดอกโคนสู่ไปสู่ปลายช่อ ทั้งนี้ ดอกถั่วแขกจัดเป็นดอกสมบูรณ์เพศที่ผสมเกสรได้ในดอกตัวเอง ทำให้ติดฝักได้ครบตามจำนวนดอกที่ออก ดอกจะร่วงภายใน 2-3 หลังบาน

 

สำหรับ ฝักและเมล็ด มีลักษณะคล้ายกับฝักถั่วเขียว แต่มีขนาดสั้นกล่าว ฝักมีลักษณะทรงกระบอกกลม และเรียวยาว ผิวฝักเรียบ และอาจโค้งเล็กน้อย ขนาดฝักประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 8-20 เซนติเมตร ฝักอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ภายในฝักมีเมล็ดจำนวนมาก เรียงเป็นแถวตามแนวยาวของฝัก เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปไต มีหลายสีตามสายพันธุ์ อาทิ สีดำ สีขาว สีเหลืองครีม สีชมพู สีเขียว สีแดงม่วง หรือสีน้ำตาล ใน 1 ฝัก จะมีเมล็ดประมาณ 5-8 เมล็ด 


ประโยชน์ของ "ถั่วแขก"
-เมล็ดถั่วแขกนำมาต้มรับประทาน ทำซุปถั่วแขก หรือใช้ผสมในขนมหวาน
-นำเมล็ดมาบดทำแป้งใช้ทำวุ้นเส้น
-เมล็ดถั่วแขกแปรรูป เป็นอาหารสำเร็จรูป หรืออาหารเสริมในรูปแบบเม็ดหรือผง อาทิ ซุปถั่วแขกในกระป๋อง
 

 

สรรพคุณ"ถั่วแขก"
-มีธาตุเหล็กสูง ช่วยสร้างเม็ดเลือก 
-ช่วยบำรุงร่างกาย 
-ช่วยแก้ดับร้อน 
-ช่วยขับปัสสาวะ 
-ช่วยรักษาอาการบวมน้ำ 

 

\"ถั่วแขก\" สรรพคุณเสริมธาตุเหล็ก แก้ดับร้อน สร้างเม็ดเลือด

 

นอกจากนี้ เมล็ดของพืชสกุลถั่วยังมีสรรพคุณช่วยลดไขมันในเส้นเลือด กระตุ้นการนำไขมันที่สะสมมาใช้ ทำให้ร่างกายผอมลง ช่วยลดความอ้วนได้

 

 


ขอบคุณข้อมูล / puechkaset.com