ระวัง “พิษ” ของมันฝรั่งที่มีรากและเป็นสีเขียว
หากใครเคยซื้อ"มันฝรั่ง"มาแล้วไม่ได้กิน เก็บไว้นานจนมีรากงอกและเป็นสีเขียว ขอเตือนให้ระวัง ไม่งั้นอาจได้รับ"สารพิษ"
เคยมีข่าวดังครั้งหนึ่งที่เด็กในต่างประเทศมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนและปวดท้องพร้อมๆ กันกว่า 70 คน โดยมีสาเหตุมาจากการกินมันฝรั่งต้ม รวมทั้งในเด็กบางคนมีอาการรุนแรงของระบบประสาทส่วนกลางและมีอาการชักกระตุก บางรายมีเลือดปนออกมากับอุจจาระ แต่โชคดีที่รักษาได้ทันและอยู่โรงพยาบาลไม่กี่วันทุกคนก็หาย ซึ่งอาการที่เกิดกับเด็กทั้งหมดนี้เกิดจากการได้รับสาร โซลานีน (Solanine) ตรงส่วนสีเขียวและส่วนที่มีรากงอกออกมา ซึ่งสารนี้มีฤทธิ์เป็นพิษ ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับระบบอวัยวะต่างๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โซลานีน เป็นสารกลุ่ม Steroid Alkaloid เป็นสารรสขมที่มีพิษรุนแรงแม้จะปริมาณเพียงเล็กน้อย พบได้ในมันฝรั่งที่กำลังงอกหรือส่วนที่มีสีเขียว ซึ่งพบว่าหัวมันฝรั่งที่ได้รับแสงจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวและมีสารโซลานีนในประมาณสูง หากรับประทานมันฝรั่งที่มีโซลานีนจะทำให้เกิดอาการต่างๆ หลังจากกินเข้าไปแล้วหลายชั่วโมง ดังนี้
- ปวดหัว
- ตัวร้อน อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น
- ปวดแสบปวดร้อนที่คอ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เบื่ออาหาร
- ปวดท้อง
- ท้องร่วง
- อาจเกิดอาการชัก หรือเห็นภาพหลอน หากมีอาการรุนแรง
ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เคยให้ข้อมูลเรื่องนี้ไว้ว่า มันฝรั่งที่มีหน่อขึ้นนั้นมีอันตรายต่อร่างกายจริง แต่มักไม่ได้ถึงกับทำให้เสียชีวิตทั้งหมด โดยมันฝรั่งที่งอกหน่อหรือลำต้นแทงขึ้นมาจะมีการสร้างสารพิษโซลานีน ดังนั้นจึงห้ามกินหน่อของมันฝรั่ง หรือส่วนเนื้อของมันฝรั่งที่เป็นสีเขียวๆ เพราะหากกินเข้าไปจะเกิดอาการต่างๆ ตามมาได้ แต่หากเผลอกินจนมีอาการก็ไม่ควรพยายามให้อาเจียน แต่ควรรีบไปแพทย์ทันที
ป้องกันหรือลดสารพิษได้ หากพบเจอมันฝรั่งชนิดนี้ทางที่ดีคือทิ้งไป แต่ความจริงแล้วหากต้องการลดปริมาณสารโซลานีนหรือป้องกันไม่ให้เกิดพิษในร่างกายก็ทำได้ ด้วยการนำมันฝรั่งไปทอดน้ำมันร้อนจัด 170°C จะลดปริมาณสารได้ดีโดยให้สารนี้ไปอยู่ในน้ำมันที่ทอดแทน รวมถึงการนำไปต้มให้สุกนานๆ ก็ช่วยได้ แต่ควรจะตัดส่วนหัวที่เป็นรากหรือส่วนที่เป็นสีเขียวนั้นทิ้งไปก่อนนำไปต้ม ไม่ควรนำไปใส่ในไมโครเวฟเพราะความร้อนไม่เพียงพอต่อการทำลายสารโซลานีน นอกจากนี้หากลองกินมันฝรั่งแล้วมีรสขมก็เลิกกินและทิ้งไปทันทีเพราะอาจยังมีพิษเหลืออยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, https://www.nlm.nih.gov, https://en.m.wikipedia.org/wiki/Solanine เพจ jessada.denduangboripant ภาพ https://htgetrid.com/th และ สำนักข่าวไทย