ไลฟ์สไตล์

ป้องกัน "ลูกหาย" เริ่มได้จากที่บ้าน พ่อแม่และคนรอบตัวต้องระวังที่สุด

ป้องกัน "ลูกหาย" เริ่มได้จากที่บ้าน พ่อแม่และคนรอบตัวต้องระวังที่สุด

07 ก.ย. 2564

จากข่าว "น้องจีน่า" ที่หายไป ทั้งที่น้องอยู่กับพ่อแม่ที่บ้าน คงทำให้หลายคนสงสารและไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นไปได้ แต่รู้ไหมว่าข่าว "เด็กหาย" แม้อยู่ในบ้าน ยังมีอีกมากมายกว่าที่คิด

     สุดเศร้าเมื่อได้ยินข่าว "น้องจีน่า" เด็กวัย 1 ขวบกว่าหายไปจากในบ้าน สร้างความหดหู่และสงสารกันทั่วบ้านเมือง หลายคนไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กจึงหายไปได้ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เด็กโต แถมยังอยู่ที่บ้านอีกต่างหาก เราจึงขอนำข้อมูลจากคุณหมอมาบอกต่อ เพื่อเตือนใจให้ความรู้และช่วยกันดูแลไม่ให้เด็กหายไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้กันอีก

     ผศ.นพ.วรวุฒิ เชยประเสริฐ  กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เจ้าของเพจเลี้ยงลูกตามใจหมอได้ให้ข้อมูลน่าสนใจ พร้อมคำแนะนำต่างๆ เรื่องของเด็กหายไว้ว่า  ในแต่ละปีมูลนิธิกระจกเงารับแจ้งเด็กหายถึง 200-400 คนต่อปี  นี่คือเฉพาะกลุ่มที่เด็กหายไปจากบ้านโดยตามไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร  

สาเหตุที่เด็กเล็กหาย เพราะผู้ใหญ่คลาดสายตา

     นอกเหนือจากนี้ส่วนหนึ่งที่ไม่ได้มีข้อมูลมาถึงมูลนิธิกระจกเงา ก็คือมี ‘เด็กเล็ก’ ที่หายไปจากบ้าน แล้วมาพบอีกครั้งก็คือ “เสียชีวิต” แล้ว โดยส่วนหนึ่งที่พบเห็นตามหน้าข่าวก็คือ การจมน้ำตาย โดยประวัติที่พบบ่อยๆ ส่วนใหญ่มาจากการที่ไม่มีผู้ใหญ่คอยประกบเด็กให้อยู่ในสายตา  ผู้ใหญ่อาจจะเดินออกจากบ้าน หรือไปทำธุระส่วนตัวด้วยความประมาท และอาจจะคิดว่าเด็กหรือลูกหลับอยู่  ไปแป้บเดียวไม่เป็นไร โดยเฉพาะหากลูกหรือเด็กอยู่ในห้องที่ปิดได้ ก็ยิ่งจะชะล่าใจเป็นพิเศษ 

 

ป้องกัน \"ลูกหาย\" เริ่มได้จากที่บ้าน พ่อแม่และคนรอบตัวต้องระวังที่สุด

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

     แต่หารู้ไม่ว่า...เมื่อเวลาพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ไม่อยู่แค่ไม่กี่นาที เมื่อลูกตื่นขึ้นมาไม่เจอใคร รู้ไหมว่าเด็กจะเริ่มเดินหา เปิดหรือผลักประตูออกจากบ้านมาได้ จนทำให้ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันต่อจากนั้นมากมาย  ทั้งลูกตกบ้านจากที่สูง ลูกจมแหล่งน้ำใกล้บ้าน ทั้ง ห้วย หนอง คลอง บึง แม้กระทั่งแหล่งน้ำในบ้านอย่างตุ่ม หรือถังในห้องน้ำ ก็มีข่าวเด็กจมน้ำนานๆ ครั้งออกมาให้เห็น

     นี่เป็นสาเหตุที่คุณหมอออกมาเตือนเสมอว่า เด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบ ควรอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอดเวลา(หากทำได้) แม้ตัวเลขอายุของเด็กจะไม่มีเขียนไว้ชัดเจน แต่อ้างอิงตามตัวเลขของประเทศสหรัฐอเมริกาที่เขาจะยอมให้เด็กอยู่คนเดียวได้หากจำเป็นในอายุประมาณนี้  และยิ่งหากเป็นเด็กเล็กห้ามคลาดสายตาโดยเด็ดขาด เพราะไม่กี่วินาทีที่คลาดสายตา อาจเปลี่ยนชีวิตเด็กและพ่อแม่ไปตลอดกาลได้

 

ป้องกัน “เด็กหาย” เริ่มได้จากที่บ้าน

     หลายคนเมื่อได้ยินคำว่าเด็กหาย ก็มักจะคิดถึงแก๊งลักพาตัวเด็ก ที่มาตีสนิท ล่อลวง ขนม เงิน ของเล่น เกม แล้วพาชวนไปที่อื่น หรือลูกสะบัดมือพ่อแม่จนพลัดหลงทางกันในที่สาธารณะ จนทำให้มิจฉาชีพพาลูกไปทำมิดีมิร้าย หรือพาไปขอทาน   ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการที่พาลูกออกไปข้างนอก แต่ข่าวล่าสุดไม่ใช่เหตุนั้น เพราะแม้ลูกจะอยู่บ้านก็ยังลูกหายไปได้  ฉะนั้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุลูกหายจากที่บ้าน  เราจึงขอเสนอคำแนะนำเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกหาย ไว้ดังนี้

 

 

ป้องกัน \"ลูกหาย\" เริ่มได้จากที่บ้าน พ่อแม่และคนรอบตัวต้องระวังที่สุด

 

 

 

 

  1. ต้องมีผู้ใหญ่อยู่กับเด็กหรือลูกตลอดเวลา ห้ามคลาดสายตา ห้ามประมาทเด็ดขาดแม้สักวินาที เพราะเด็กเล็กยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และไม่รู้ว่าสิ่งไหนเป็นอันตราย แค่หน้าจมลงไปในชามน้ำเตี้ยๆ ก็เสียชีวิตได้แล้ว  รวมถึงห้ามฝากลูกกับเด็กคนอื่นที่ยังไม่โตพอ (แม้เด็กโตก็ยังฝากอย่างวางใจไม่ได้ เพราะห่วงเล่น) รวมถึงฝากลูกให้คนอื่นดูแล หากจำเป็นต้องเป็นที่ไว้ใจได้เท่านั้น ฉะนั้นแม้ว่าจะอยู่ในบ้าน หรือหน้าบ้าน ไม่ว่าจะที่ไหนพ่อแม่ก็ต้องอยู่ใกล้ๆ ลูก และดูแลลูกตลอดเวลาเสมอ   
  2. ต้องให้ลูกอยู่ในสายตาพ่อแม่ตลอดเวลา เพราะแค่พ่อแม่ละสายตาจากลูกมาดูโทรศัพท์มือถือ ลูกก็หายไปได้แล้ว
  3. กั้นบริเวณให้ลูกอยู่เฉพาะที่ เช่น มีที่กั้นบันได กั้นประตู มีราวกั้นเฉพาะในส่วนที่ลูกอยู่ เพื่อเวลาที่พ่อแม่ต้องไปธุระ เข้าห้องน้ำ ลูกจะไม่สามารถออกนอกพื้นที่จนหายไปหรือเกิดอันตรายได้
  4. ปิดรั้ว ปิดประตูหน้าบ้านให้สนิท ล็อกประตูไว้เสมอ เผื่อลูกวัยที่เดินได้จะเผลอเดินออกไป หรือหากลูกนั่งเล่นอยู่ แต่เมื่อมีคนอื่นขับรถผ่านมาเห็น ก็อาจจะเข้ามาอุ้มขึ้นรถ พาลูกหายไปได้ในพริบตา  
  5. ปิดประตูห้องที่ลูกนอน ห้องนั่งเล่นที่เลี้ยงลูก รวมถึงห้องอื่นๆ ในบ้านที่ลูกอาจจะเปิดออกไปได้ เพราะหลายบ้านมีประตูหลังบ้าน ที่ลูกอาจจะเดินหรือคลานออกไป รวมถึงอาจมีคนแอบเข้ามาได้เพราะไม่ได้ล็อก ปิดประตูห้องน้ำไม่ให้ลูกเข้าไปได้ ป้องกันลูกเกิดอุบัติเหตุ ลื่น หรือเข้าไปจมน้ำในถัง ในอ่างอาบน้ำหรืออื่นๆ  บางบ้านอยู่ใกล้แหล่งน้ำ มีทางเดินไปบ่อน้ำ  สระ ห้องครัว หรือที่จอดรถที่เด็กอาจเดินสะเปะสะปะออกไปจนเป็นอันตรายได้ด้วย

 

     สุดท้ายคือหากคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนประสบเหตุลูกหายแล้ว ให้แจ้งตำรวจได้ทันที ไม่ต้องเชื่อที่ใครบอกว่าต้องรอหายครบ 24 ชั่วโมงก่อนจึงแจ้งได้  โดยอาจจะโทร.ขอความช่วยเหลือจากศูนย์ฉุกเฉิน สวพ.91 โทรศูนย์ประชาบดี 1300 และ ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา 1900-190-199 ได้ทันที