ไลฟ์สไตล์

ใครมี “ดวงตาที่สาม” เห็นผี มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์บอก

ใครมี “ดวงตาที่สาม” เห็นผี มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์บอก

07 ก.ย. 2564

เรื่องของ “คนเห็นผี” หรือมี “ดวงตาที่ 3” เชื่อกันว่าเป็นเรื่องลี้ลับ ออกแนวไสยศาสตร์ แต่สำหรับวิทยาศาสตร์มีข้อมูลเปิดเหตุผลที่ทำให้คนเห็นผีหรือวิญญาณได้ อยากรู้ไปดูเลย

     มีข้อมูลจาก BBC ที่เคยเปิดข้อมูลจากการที่นักวิทยาศาสตร์ในต่างประเทศได้ทำการศึกษาค้นคว้าเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ พร้อมอธิบายเรื่องของการที่คนเห็นผีจากปัจจัยต่างๆ นั่นคือ

ความผิดปกติจากการนอน

     การที่คนเรานอนแล้วรู้สึกว่าเหมือนถูกผีอำ มีคนกดทับเวลานอน  ขยับตัวหรือขยับร่างกายไม่ได้ แถมยังมีหูแว่วได้ยินเสียงผีอีกต่างหาก เหล่านี้นักวิทยาศาสตร์บอกว่าเกิดจากการนอนที่ผิดปกติ หรือการเห็นภาพหลอนที่เหมือนจริง เรียกว่ามี "ความฝันขณะตื่น" (Waking dream )  ซึ่งเป็นภาวะของการเคลิ้มในขณะที่สมองกำลังตื่นอยู่แต่ร่างกายยังหลับ ทำให้ไม่ตอบสนองกัน  ภาวะความฝันขณะตื่นนี้ทำให้คนมองเห็นสิ่งที่กลัวในจิตใจ  จึงทำให้รู้สึกหรือเห็นว่ามีผีมาหา มายืน มานั่งกดทับบนร่างกายจนพูดไม่ออก นอกจากนี้ภาวะแบบนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้จากการอดนอน และความผิดปกติทางอารมณ์หรือสมองได้ด้วย  

 

ใครมี “ดวงตาที่สาม” เห็นผี มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์บอก

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

การขาดออกซิเจน

     หมายถึงการขาดออกซิเจนในสมอง จนทำให้ประสาทสัมผัสและการรับรู้ผิดปกติไปจากความเป็นจริง รวมทั้งยังทำให้มองเห็นภาพหลอนได้  การขาดออกซิเจนนี้เกิดได้ทั้งจากการเข้าไปอยู่ในสถานที่ไม่คุ้นเคย ที่อับเก่าถูกทิ้งร้าง มีเชื้อโรค เชื้อรา สถานที่คับแคบ จนทำให้เกิดการขาดออกซิเจนในสมองขึ้นชั่วขณะ จนเห็นภาพหลอน เห็นผี เห็นวิญญาณได้นั่นเอง

 

 

ใครมี “ดวงตาที่สาม” เห็นผี มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์บอก

 

 

อาการกลัวผีรุนแรง

     เป็นอาการที่เกิดจากความกลัวที่ฝังลึกในจิตใจ จนทำให้เกิดอาการทางร่างกายรุนแรงไปด้วย (Phasmophobia) เป็นสาเหตุให้เห็นอะไรเป็นภูตผีปีศาจได้หมด  รวมถึงอาการแพนิก ที่ทำให้คนคนนั้นมีความกลัว ตื่นตระหนกหวาดกลัวจนควบคุมไม่ได้ ยิ่งคนที่กลัวอยู่แล้ว ต้องไปอยู่ในสถานที่ที่น่ากลัววังเวง ก็ยิ่งจะทำให้มองเห็นภาพหลอน ได้ยินเสียงหลอน เห็นอะไรก็คิดจินตนาการว่าเป็นผีไปหมดได้

 

 

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

     หากใครเคยรู้สึกว่าไปที่ไหน หรืออยู่ตรงไหนแล้วรู้สึกเย็นผิดปกติ หนาวๆ ขนลุกซู่ มีภาพหลอน จนทำให้รู้สึกว่ามีพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่  นักวิทยาศาสตร์บอกว่าความรู้สึกเย็นๆ เยือกๆ นั้นอาจเกิดจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าชั่วคราว ที่อาจเกิดขึ้นจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้ารอบตัว ที่ส่งผลต่อสถานที่นั้น  หรือเป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่บังเอิญเกิดขึ้นตามธรรมชาติ

 

ได้รับก๊าซพิษจนหลอน  

     ก๊าซหรือสารพิษที่ว่านี้คือ คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ  ซึ่งหากร่างกายสูดดมเข้าไปได้รับสารนี้เข้าไปจนเป็นพิษ จะส่งผลต่อระบบประสาท สมองและร่างกาย ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว หายใจติดขัด สับสน จนเกิดอาการทางประสาท เห็นภาพหลอน เห็นผี หรือหูแว่วได้  

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.bbc.com, https://anywhere.learn.co.th  ภาพจาก https://unsplash.com

 

 

ใครมี “ดวงตาที่สาม” เห็นผี มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์บอก