อยากรู้ไหม ทำไมต้อง "ไหว้พระจันทร์" ตำนานนี้มีที่มา | คมชัดลึก

          เทศกาลไหว้พระจันทร์มีชื่อทางการภาษาจีนว่า “จงชิวเจี๋ย” หรือ “ตงชิวโจ็ยะ” ในภาษาแต้จิ๋ว หมายถึง กึ่งกลางฤดูสารท ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของปฏิทินจีนทุกปี   จึงเรียกกันว่าเทศกาล “ปาเย่ว์ปั้น” แปลว่า “กลางเดือนแปด” หรือ “ปาเย่ว์เจี๋ย” หรือ “เทศกาลเดือนแปด”  วันไหว้พระจันทร์นี้ถือเป็นหนึ่งวันสำคัญประจำปีตามธรรมเนียมของชาวจีนอีกวันหนึ่ง ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 21 กันยายน 2564

          เมื่อถึงเทศกาลนี้ชาวจีนจะต้องมีการจัดเตรียมของและ “ขนมไหว้พระจันทร์” เพื่อไหว้ในวันที่มีพระจันทร์เต็มดวงสวยงาม ซึ่งการไหว้พระจันทร์นี้มีตำนานดีๆ ที่มีความหมายกับชาวจีน จนทำให้ชาวจีนยังคงให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้ ได้แก่

 

ตำนานเทพีดวงจันทร์

          ตำนวนนี้เล่าว่าในอดีตกาล มีพระราชาโฮ่วอี้ที่มีชายานามว่าฉางเอ๋อร์ โดยครั้งหนึ่งอยู่ๆ พระอาทิตย์ก็ขึ้นพร้อมกัน 10 ดวง ทำให้ชาวโลกเดือดร้อนกันมาก พระราชาจึงขึ้นไปบนยอดเขาคุนหลุนแล้วใช้ธนูยิงดวงอาทิตย์ให้ดับไป 9 ดวง ทำให้ได้รับการสรรเสริญจนมีผู้คนมาขอเรียนวิชาธนูมากมาย รวมถึงตัวร้ายที่ชื่อ เฝิงเหมิง ซึ่งต่อมาพระราชาได้รับยาอายุวัฒนะจากผู้วิเศษมา ด้วยความริษยาอยากได้เฝิงเหมิงจึงฉวยโอกาสไปบุกชิงยาจากฉางเอ๋อร์ชายาพระราชา แต่เธอไม่ให้และได้กินยานั้นเสียเอง ทำให้นางต้องล่องลอยกลายไปเป็นเทพีสถิตบนดวงจันทร์ เมื่อพระราชากลับมารู้เข้าจึงกำจัดเจ้าตัวร้ายเฝิงเหมิงแล้วทุกข์ระทมโศกเศร้าถึงนางฉางเอ๋อร์ จนถึงวันเพ็ญเดือนแปด ดวงจันทร์งามกระจ่าง โฮ่วอี้จึงจัดเครื่องเซ่นบูชาพระจันทร์รำลึกถึงนางอันเป็นที่รักนั่นเอง

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้องล่าสุด

• "ขนมไหว้พระจันทร์"ความอร่อยแฝงความหมายของวัฒนธรรม
• เอสแอนด์พี ตอกย้ำ ผู้นำตลาด"ขนมไว้พระจันทร์"
• เสริมมงคลไหว้ "สารทจีน" 3 ชุด จุดธูปเท่าไร ไหว้แบบไหนถูกต้อง
• จีนเปิด 10 เส้นทางสายใหม่ ท่องเที่ยว "กำแพงเมืองจีน"
• "ของขวัญจากจีน"สร้าง"สนามกีฬาแห่งชาติ"ขนาดยักษ์ ส่งมอบให้"กัมพูชา"

 

 

ตำนวนกษัตริย์แบ่งขนมให้ดวงจันทร์

          ครั้งหนึ่งในอดีตสมัยพระเจ้าถังเกาจู่ (ครองราชย์ พ.ศ. 1161-1169) มีแม่ทัพนายหนึ่งชื่อหลี่จิ้งชนะศึกกลับมาเฝ้าพระราชาในยามราตรีคืนเพ็ญ พร้อมกับมีพ่อค้าชาวธิเบตนำขนมปิ่งมีลวดลายสวยงามมาถวายพระองค์ พระราชาก็ทรงโสมนัสมากเพราะมีข่าวดี และดำรัสชี้ไปที่พระจันทร์เต็มดวงว่า ต้องชวนพระจันทร์ชิมขนมนี้ด้วย จากนั้นก็แบ่งขนมพระราชทานให้ขุนนางทุกคน จึงเกิดเป็นประเพณีกินขนมในวันพระจันทร์คืนเดือนแปดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

 

 

 

ตำนานแอบส่งสาส์นกู้ชาติ

          อีกตำนานเป็นเรื่องเล่าว่าเมื่อหลายร้อยปีก่อนคนจีนที่อยู่ในประเทศจีน ส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายที่เรียกกันว่า “ชาวฮั่น” ได้โดนชาวมองโกล ซึ่งเป็นคนต่างชาติเข้ายึดครองประเทศ ถูกข่มขู่อยู่อย่างเข็นใจมาตลอด แล้วก็มีผู้นำที่ต่อต้านมองโกลหวังรวบรวมกำลังชาวจีนสู้ราชวงศ์ต่างเผ่า จึงได้คิดอุบายขึ้นมาว่าในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของจีน จะทำการไหว้พระจันทร์ โดยแต่ละบ้านได้ทำขนมไหว้พระจันทร์ขึ้นมา โดยลักษณะของขนมจะมีเปลือกบาง ไส้หนา แล้วยัดจดหมายและข้อความต่างๆ เพื่อนัดหมายกระทำการปฏิวัติกู้ชาติขับไล่มองโกล โดยหลังกินขนมไหว้พระจันทร์แล้ว ทุกบ้านก็ได้คว้าอาวุธเพื่อต่อสู้ขับไล่ชาวมองโกลได้สำเร็จ

 

 

 

 

          หรืออีกนัยหนึ่งเชื่อว่าการไหว้พระจันทร์จะทำให้ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง และมีความสุข ดังนั้นการไหว้พระจันทร์จึงเป็นการแฝงความเชื่อเพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษ และผู้มีบุญคุณต่อแผ่นดิน รวมถึงการสร้างความร่ำรวยและการมีความสุขให้กับครอบครัวนั่นเอง โดยทุกวันนี้คนจีนหรือแม้แต่คนไทยเชื้อสายจีน จึงยังคงรักษาธรรมเนียมการไหว้พระจันทร์มาจนถึงทุกวันนี้

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก https://www.silpa-mag.com, https://www.gotwogether.com,www.pixabay.com