"แน่นท้อง" ท้องอืดเป็นประจำ ระวังนิ่วในถุงน้ำดี
หากใครมีอาการ “ท้องอืด” ท้องเฟ้อ แน่นท้องอยู่บ่อยๆ ทุกครั้ง โดยเฉพาะตอนหลังอาหาร ให้ระวังโรค “นิ่วในถุงน้ำดี”
หนึ่งในอาการปวดท้องที่เป็นสัญญาณเตือนของ "โรคนิ่วในถุงน้ำดี" คืออาการท้องอืด แน่นท้อง ท้องเฟ้อ หลังอาหาร ที่ทำให้หลายคนคิดว่าเป็นแค่โรคกระเพาะ อาหารไม่ย่อยทั่วไปจนทำให้อาการรุนแรงได้ ฉะนั้นจึงแนะนำให้ทำความรู้จักกับโรคนิ่วในถุงน้ำดี และการสังเกตอาการปวดท้องของตัวเองไว้ เพื่อจะได้หาหมอให้ทันเวลา
โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรค “นิ่วในถุงน้ำดี” ไว้ว่า โรคนี้สามารถเกิดได้กับทุกคน ทุกเพศทุกวัย แต่จะมีคนบางกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น เช่น คนที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้หญิงที่มีลูกแล้ว ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน ทาลัสซีเมีย โลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก เป็นต้น
สาเหตุของ โรคนิ่วในถุงน้ำดี (Gallstones) เกิดจากการตกผลึกของหินปูน (แคลเซียม) หรือคอเลสเตอรอลที่มีอยู่ในน้ำดี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเชื่อว่าการตกผลึกของสารเหล่านี้ เกี่ยวกับการติดเชื้อของทางเดินน้ำดี และความไม่สมดุลของส่วนประกอบน้ำดี การตกผลึกนี้อาจทำให้เกิดเป็นก้อนนิ่วเพียงก้อนเดียว หรือก้อนเล็กๆ หลายก้อนก็ได้
“สัญญาณเตือน” นิ่วในถุงน้ำดี
อาการของโรคนิ่วในถุงน้ำดี นี้แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือประเภทที่ไม่มีอาการเลย กับประเภทที่มีอาการ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการ จะตรวจเจอโดยบังเอิญจากการไปตรวจสุขภาพประจำปีที่มีการตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง ส่วนในกลุ่มที่มีอาการก็จะมีอาการตั้งแต่น้อยไปมาก เช่น
- ท้องอืด แน่นท้อง โดยเฉพาะเวลาหลังทานอาหารมัน ซึ่งอาการแบบนี้อาจเกิดจากโรคระบบทางเดินอาหารอื่น เช่นโรคลำไส้หรือโรคกระเพาะก็ได้
- ปวดเสียดท้อง หรือปวดท้องบริเวณใต้ชายโครงขวา หรือลิ้นปี่ มักจะเป็นหลังทานอาหารมัน แต่จะเป็นนานอยู่หลายชั่วโมง บางทีอาจร้าวไปสะบักขวา หรือหลังได้ด้วย
- ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน จะปวดท้องบริเวณชายโครงขวามากขึ้น กดแล้วเจ็บ อาจมีไข้ หรืออาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
- มีอาการดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง ที่เกิดจากนิ่วไปขวางทางท่อน้ำดี
ดังนั้น หากเริ่มมีอาการปวดท้องที่เข้าข่ายนิ่วในถุงน้ำดีเมื่อไหร่ ต้องรีบไปพบแพทย์ด่วน
รีบรักษาก่อนอาการรุนแรง
โรคนิ่วในถุงน้ำดี สามารถรักษาได้ และยิ่งรักษาได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดี ปัจจุบันนิยมรักษาด้วยการผ่าตัดส่องกล้องผ่านหน้าท้อง ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ช่วยให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลง ลดอาการเจ็บแผล และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยกว่าการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบเปิดแผล ทำให้คนป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเอง
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก https://www.paolohospital.com, https://www.verywellhealth.com, https://www.pexels.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เยอะมาก ภาพ "นิ่วในถุงน้ำดี" ของผู้ป่วยรายหนึ่ง หมอเตือนสาเหตุเกิด-อาการบ่งชี้
- 12 กลยุทธ์จัดอาหารให้ผู้สูงอายุ สุขภาพดี
- เช็ก 7 อาการอันตรายของ "โรคหลอดเลือดหัวใจ"
- “เท้าแบน” อยู่หรือเปล่า ถ้าเป็นอย่าปล่อยไว้ รีบแก้ไขและรักษาตัว
- อย่าให้ "รองช้ำ" ทำชีวิตทุกวันช้ำใจ