7 เคล็ดลับแก้ "เมาค้าง" ทำแบบนี้สิหายแฮงค์และสร่างเร็ว
ตื่นเช้ามาสายดื่มหนัก มักจะมีอาการแฮงค์หรือ “เมาค้าง” ทำให้เกือบทั้งวันนั้นมีอาการมึน “เวียนหัว” คลื่นไส้ ทำงานไม่ได้ ฉะนั้นเราจึงนำเทคนิคแก้อาการเมาค้างทำให้ร่างกายสดชื่น มาบอกต่อ
เมาค้าง เกิดขึ้นจากอะไร
สาเหตุเกิดจากเมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายเราแล้วจะเปลี่ยนไปอยู่ในรูปของ อะซิตัล แอลดีไฮด์ (Acetal aldehyde) และมีการสะสมจนส่งผลเกิดการเป็นพิษต่อเซลล์ ทำให้ระบบประสาทและสมอง ระบบการย่อยและระบบการดูดซึมอาหาร การนอนหลับ ผิดปกติ ร่วมกับมีอาการเวียนศรีษะเหมือนบ้านหมุน อารมณ์หงุดหงิด ไม่มีสมาธิในการทำงาน ทำให้คนเมาค้างเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
วิธีแก้เมาค้าง
จากงานวิจัยมากมาย ยังไม่พบว่ามียาลดการเมาใดๆ หรือยาสูตรสำเร็จแบบไหนแก้อาการเมาค้างได้ผล 100% สิ่งที่ดีที่สุดคือควรดื่มแต่น้อย แต่อย่างไรก็ตามยังพอมีวิธีที่นิยมใช้กันเพื่อบรรเทาอาการเมาค้าง นั่นคือ
1. ดื่มน้ำมาก หรือน้ำอุ่น ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซ้ำอีก หรือที่เรียกกันว่า “ถอน” เพราะจะยิ่งทำให้มีอาการมากขึ้น โดยวิธีแรกที่แนะนำคือการดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำอุ่นบ่อยๆ ครั้งละ 1-2 แก้ว เพื่อให้ร่างกายปวดปัสสาวะ และน้ำจะพาสารตกค้างจากแอลกอฮอล์ออกมากับปัสสาวะ หรืออาจดื่มชาอื่นๆ ก็ได้เพราะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะอ่อนๆ นอกจากนี้การอาบน้ำบ่อยๆ ก็ช่วยให้อาการเมาค้างดีขึ้นเช่นกัน แต่แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า หรือกิจกรรมที่ทำให้เสียเหงื่อเพิ่ม
2. กินอาหารอ่อนย่อยง่ายและอาหารร้อน (ซดน้ำ) หนึ่งวิธีแก้แฮงค์คือกินอาหารอ่อน อาหารร้อนที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้มปลาหรือโจ๊กปลา รวมถึงอาหารร้อนจำพวกซุป เช่น เกาเหลา ต้มเลือดหมู ก๋วยเตี๋ยว มาม่า ก็สามารถช่วยให้บรรเทาอาการเมาค้างให้ทุเลาลง นอกจากนี้การออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดิน ก็ทำให้อาการดีขึ้นและฟื้นตัวได้เร็วเช่นกัน
3.กินอาหารรสเปรี้ยว หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว รวมถึงการดื่มน้ำผักและผลไม้ปั่นก็ช่วยได้ ส่วนผลไม้รสเปรี้ยวที่แนะนำ เช่น มะม่วงดิบ หรือมะขามเปียก มะดัน ส้ม จะช่วยแก้อาการเมาค้างได้ แต่หลังจากเมาค้างไม่ควรรับประทานทุเรียน เพราะมีซัลเฟอร์หรือกำมะถันสูง สารนี้จะทำให้แอลกอฮอล์ดูดซึมในร่างกายได้เร็ว ทำให้ร้อนในถึงขั้นเสียชีวิตได้นั่นเอง
4. เครื่องดื่ม และเกลือแร่ แก้เมาค้าง ปัจจุบันมีขายทั่วไปทั้งร้านสะดวกซื้อและร้านขายยา ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้คนที่กินรู้สึกบรรเทาอาการมึนๆ เวียนๆ ได้ เนื่องจากเครื่องดื่มเหล่านี้มีการเพิ่มสารอาหารต่างๆ ที่ร่างกายขาดแคลนไป ส่วนเครื่องดื่มที่ช่วยแก้อาการเมาค้าง ได้แก่ น้ำผลไม้สด น้ำขิง ชามินต์ น้ำหวาน เกลือแร่ ที่จะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ลงได้ รวมถึงเครื่องดื่มที่มีวิตามินวิตามินบีหรือซี ที่ช่วยลดอาการแฮงค์ ก็ช่วยทำให้อาการทุเลาลงได้เช่นกัน
5. กินวิตามินอาหารเสริม เช่น การกินวิตามินบีรวม วิตามินซี แมกนีเซียม และกรดอะมิโนแอล-ซีสเทอีน (L-Cysteine) ก็จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นได้มากขึ้น
6. หากมีอาการปวดหัว หรือมีอาการตัวร้อนร่วมด้วย สามารถกินยาแก้ปวดกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ได้ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟ่น หรือยาตัวอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน แต่ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนซื้อยา เพื่อซักถามประวัติการแพ้ยาอย่างละเอียดก่อน
7. กินกาแฟ ไม่ช่วยให้หายได้ การกินกาแฟนั้น อาจไม่ได้ช่วยทำให้อาการเมาค้างดีขึ้น แต่อาจช่วยทำให้เราตื่นตัวแค่ชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งหากร่างกายยังพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ นอนน้อย เมื่อหมดฤทธิ์ของกาแฟ ก็จะทำให้รู้สึกเพลียหนักมากกว่าเดิมหากร่างกายยังฝืนทำงานต่อ
เตรียมตัวก่อนดื่มยังไง...ไม่ให้แฮงค์
ก่อนไปดื่มสิ่งที่สำคัญคือการเตรียมตัวไม่ให้แฮงค์ หรือใครรู้ตัวว่าเมาค้างง่าย ลองทำตามนี้จะช่วยได้นั่นคือ
- อย่าปล่อยให้ท้องว่างก่อนไปดื่ม ควรกินข้าวหรืออาหารเบาๆ รองท้องก่อน เพราะถ้าท้องว่าง จะทำให้เมาง่ายและน้ำตาลในกระแสเลือดตกรวดเร็ว หรือหากไม่ได้กินอะไรรองท้องไป ก็ต้องสั่งกลับแกล้มเพื่อให้มีอะไรตกถึงท้องบ้าง
- อย่าดื่มแอลกอฮอล์ทีละมากๆ หรือเข้มข้นมากจนเกินไป แนะนำให้ผสมกับเครื่องดื่มหรือ มิกเซอร์ และค่อยๆ ดื่ม
- ดื่มน้ำตาม 1-2 แก้ว ทุกชั่วโมง เพื่อไม่ให้ระดับแอลกฮอล์ในเลือดเข้มข้นจนเกินไป และทดแทนน้ำที่เสียไปกับปัสสาวะ ระหว่างดื่มแอลกอฮอล์
- กินวิตามินรวม หรือกรดอะมิโนแอล-ซีสเทอีน (L-Cysteine) ก่อนไปดริ้ง อาจช่วยลดการอักเสบของตับ จากการที่เซลล์ตับถูกแอลกอฮอล์ทำร้ายได้
สุดท้ายคือไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป เพราะนอกจากส่งผลกระทบต่อสมองแล้ว ยังส่งผลเสียต่อตับ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไขมันสะสมที่ตับ และทำให้สารพิษสะสมในตับ จนป่วยเป็นโรคตับอักเสบ ตับแข็งหรืออื่นๆ ได้ ฉะนั้นหากรักชีวิตให้สุขภาพดียืนยาวก็เบาๆ ลดละการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ดีที่สุดจ้า
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก https://www.samitivejhospitals.com, https://www.sanook.com,www.pexels.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 12 กลยุทธ์จัดอาหารให้ผู้สูงอายุ สุขภาพดี
- 5 วิธี บำรุงไส้ เพื่อ "ลดน้ำหนัก" ได้สำเร็จ
- "ยาสตรี" ไม่ช่วยกระชับมดลูก และมีข้อห้าม ต้องรู้ทันระวังก่อนกิน
- ผู้หญิงเคยสงสัยไหม ทำไมต้อง "ตรวจภายใน" แล้วเมื่อไรควรไปตรวจ
- "แน่นท้อง" ท้องอืดเป็นประจำ ระวังนิ่วในถุงน้ำดี