เที่ยวน้ำตกหรืออุทยานต้องรู้ ทำแบบไหนหนี "น้ำป่า" ให้ทัน
หน้าฝน "แหล่งท่องเที่ยว" น้ำตกตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ ก็จะมีน้ำเต็มและสวยงาม เรียกร้องให้นักท่องเที่ยวออกไปเที่ยวชมกันมาก แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ"น้ำป่าไหลหลาก"ที่มาโดยไม่รู้ตัว
น้ำตกในอุทยานแห่งชาติต่างๆ ในหน้าฝนนั้นช่างสวยงามน่าไปเที่ยวเล่นน้ำ ล่องแก่ง เดินป่า แต่ธรรมชาติสวยงามนั้นก็แฝงไปด้วยอันตราย เพราะหากฝนตกมามากๆ ก็จะทำให้มีน้ำป่าไหลหลากลงมาจนทำให้นักท่องเที่ยวหลายรายเสียชีวิตกันมาแล้ว
ฉะนั้นหากเราอยากไปเที่ยวน้ำตกได้สนุกพร้อมความปลอดภัย ต้องรู้วิธีสังเกตน้ำป่าไหลหลาก ในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และวิธีการเอาชีวิตรอดให้ได้
เตรียมตัวและอุปกรณ์ให้พร้อม
เริ่มเตรียมพร้อมก่อนเดินทางให้ปลอดภัย ควรตรวจสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาแล้วจึงจัดเตรียมสัมภาระต่างๆ ให้เหมาะสม เช่น เตรียมไฟฉาย ติดเชือกเส้นใหญ่และหนาเอาไว้(เผื่อเอาไว้ช่วยชีวิต) ใส่รองเท้าเดินป่าหรือเที่ยวน้ำตกที่แน่นกระชับไม่หลุดง่าย พื้นรองเท้าควรเป็นยางชนิดอ่อน และมีดอกยางซึ่งจะเกาะพื้นหินและพื้นดินได้ดีกว่ารองเท้าพื้นแข็ง โดยเฉพาะหน้าฝนที่พื้นที่ป่าจะลื่นมากกว่าปกติ
นอกจากนี้หากจะเดินป่าหรือเล่นน้ำตก ต้องระวังสัตว์มีพิษต่างๆ ซึ่งถ้าจะตั้งแคมป์ในป่าก็ไม่ควรอยู่ใกล้ลำธารเกินไป เพราะอาจมีน้ำป่าไหล โดยควรเลือกทำเลตั้งแคมป์ที่ปลอดภัยจากระดับน้ำ และเลี่ยงบริเวณที่เคยเป็นร่องน้ำด้วย
สำรวจพื้นที่หาทางหนีทีไล่
เมื่อเดินทางไปถึงหรือก่อนลงเล่นน้ำ ควรสำรวจทางเดิน(หรือวิ่ง)สำหรับขึ้นและทางลง หรือพื้นที่สูงเอาไว้ด้วย เผื่อเวลาฉุกเฉินเกิดน้ำป่าไหลหลากจะได้หนีขึ้นที่สูงได้ทัน และระหว่างเล่นน้ำต้องสังเกตสัญญาณของน้ำป่า ต่างๆ นั่นคือ
วิธีสังเกตน้ำป่าไหลหลาก
1.มีบรรยาการครึ้มฟ้า ครึ้มฝน คล้ายฝนจะตก
2.มีเสียงน้ำดังขึ้นกว่าเดิม หรือดังมากผิดปกติ
3.น้ำตกมีปริมาณหรือระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
4.อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนไปจากปกติ
5.สังเกตพฤติกรรมของสัตว์ป่า หากจะเกิดอันตราย สัตว์ป่ามักจะแตกตื่น และหนีออกมาจากป่าจนผิดสังเกต
6.มีเศษดิน โคลนลงมาตามลาดเขา และมีเศษไม้ กิ่งไม้ เศษดิน กรวด ไหลมากับน้ำ
7.สีของน้ำเปลี่ยน กลายเป็นสีแดง หรือสีแดงขุ่นขึ้น
กรณีหากไม่สามารถหนีขึ้นที่สูง หรือหาที่ยึดเกาะที่มั่นคงได้ หากมาหลายคน ให้ทุกคนพยายามยืนเรียงกันเป็นแถวตอนเรียงเดี่ยว (ไม่ใช่ยืนเรียงหน้ากระดาน) และพยายามรักษาตำแหน่งเดิมของตนเองไว้ เพื่อลดแรงปะทะของน้ำ โอกาสที่น้ำจะพัดพาเราไปกระแทกสิ่งต่างๆ ก็จะลดลง และโอกาสรอดก็จะมีมากขึ้น จากนั้นควรตะโกนให้คนช่วย และหาอุปกรณ์หรือต้นไม้ยึดไว้ไม่ให้ไหลไปกับน้ำ
ในภาวะฉุกเฉินที่ไม่มีทางเลือกอื่นใด การทำเช่นนี้ก็อาจเป็นทางเลือกและทางรอดหนึ่ง แต่ทางที่ดีที่สุดก็คือ การป้องกันและเฝ้าระวังโดยไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงเช่นนี้
ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำเตือนอย่างเคร่งครัด
เมื่อไปเที่ยวในทุกที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่อย่างเคร่งครัด รวมถึงทำตามคำเตือนต่างๆ ของเจ้าหน้าที่เสมอ เช่น ไม่ลงเล่นน้ำในเขตหวงห้าม เล่นน้ำในบริเวณวังน้ำวน หรือกระแสน้ำไหลเชี่ยว ไม่ควรปีนป่ายไปตามริมหน้าผาน้ำตก หรือบนพื้นที่อันตราย เพราะอาจลื่นพลัดตกลงมาได้
นอกจากนี้หากจะ "ล่องแก่ง" ต้องปรึกษาเจ้าหน้าที่ก่อนเล่น ว่าสภาพอากาศและน้ำสามารถล่องได้หรือไม่ ต้องใส่อุปกรณ์ชูชีพ และมีผู้เชี่ยวชาญดูแล ที่สำคัญทุกคนต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำตลอดเวลาที่เล่น
ขอบคุณข้อมูลจาก https://mthai.com/news/14362.html, https://www.facebook.com/raorakpar, https://www2.edtguide.com, https://www.trueplookpanya.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- มาดูวิธีล้างบ้านหลัง "น้ำท่วม" ให้สะอาดปลอดภัยไร้เชื้อโรค
- เมื่อ "น้ำท่วม" บ้าน ต้องทำอย่างไรให้ปลอดภัยทั้งครอบครัว
- เตือน 3 อำเภอ จ.พิษณุโลก 1-2 วันนี้ "สถานการณ์น้ำ" อยู่ในจุดวิกฤต
- เตรียมความพร้อม "โบราณสถาน" รับมือ "พายุเตี้ยนหมู่"
- กรมชลฯ เตือนจ. "พื้นที่รับน้ำ" ระวังน้ำเอ่อผลกระทบระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา