ชวนเช็ค สายตาผิดปกติจาก "เบาหวาน" รีบป้องกันไว้ก่อนตาบอด
คนเป็น "เบาหวาน" จะมีอาการแทรกซ้อนที่สำคัญอย่างหนึ่ง คืออาการทาง"ดวงตา" ที่สำคัญคือเป็นแล้วไม่รู้ว่าป่วยเป็นเบาหวาน ดังนั้นรีบสังเกตและป้องกันไว้ก่อนตาเสื่อมไปจนบอด
ชวนทุกท่านรีบสังเกตอาการผิดปกติของ "ดวงตา" ไม่ว่าจะตามัว ตาฝ้า เพราะเป็นหนึ่งอาการสำคัญของคนเป็นเบาหวาน รวมทั้งต้องรีบป้องกันและแก้ไข เนื่องจากหากปล่อยไว้อาจจะทำให้ตาบอดได้
"เบาหวาน" เป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้มีความผิดปกติในการทำงานของเซลล์ โดยคนที่เป็นเบาหวาน มักจะมีอาการแทรกซ้อนที่สำคัญนั่นคือ จอประสาทตาผิดปกติจากโรคเบาหวาน อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดตาบอดและสายตาพิการ และสิ่งสำคัญคือ ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน ประมาณ 50% ไม่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคเบาหวาน ยิ่งคนที่เป็นเบาหวานนาน 15 ปี มี 2% ที่เกิดตาบอด และ 10% ที่มีสายตาเลือนราง ซึ่งปัจจุบันพบผู้ป่วยที่มีสายตาพิการและตาบอดจากโรคเบาหวานกันมากขึ้น
เบาหวาน ทำให้ตามัวและตาบอดได้อย่างไร เกิดได้จากสาเหตุต่างๆ ได้แก่
1. ตามัวขณะที่มีน้ำตาลในเลือดสูง
เนื่องจากเลนส์ตาเกิดการบวมน้ำ เวลามองภาพไม่สามารถปรับโฟกัสภาพให้ชัดได้ อาการเหล่านี้มักเกิดเพียงชั่วคราว เมื่อควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ การเห็นก็จะกลับดีขึ้นได้
2. ตามัวจากการเกิดต้อกระจก
คนที่เป็นเบาหวานนาน ๆ เลนส์ตาที่แต่เดิมใสจะขุ่นขึ้น เรียกว่า “ต้อกระจก” เกิดจากน้ำตาลในเลือดมีการเปลี่ยนแปลงเป็นสารซอบิตอล และฟรุคโตส สารเหล่านี้จะสะสมที่เลนส์ตาทำให้เลนส์ตาขุ่นบังแสงไม่ให้เข้าสู่นัยน์ตา วิธีรักษา คือ เมื่อต้อกระจกขุ่นมาก จะต้องทำการผ่าตัดเอาเลนส์ที่ขุ่นออกและใส่เลนส์เทียมเข้าไปแทน
3. ตามัวเนื่องจากมีจอประสาทตาผิดปกติ
คนเป็นเบาหวานมามานาน จอประสาทตาจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยระยะแรกหลอดเลือดฝอยที่จอประสาทตามีการโป่งพอง และอาจแตกเห็นเป็นจุดเลือดออกเล็ก ๆ อาจพบไขมันออกมาจากผนังหลอดเลือด เห็นเป็นก้อนสีเหลือง จากไขมันที่รวมตัวใกล้จุดรับภาพที่จอประสาทตาร่วมกับจอประสาทตาบวม ทำให้ตามัวมองภาพไม่ รวมถึงอาจมีเลือดออกภายในลูกตา ทำให้ตามัวลงทันที รวมทั้งจอประสาทตาลอกและตาบอดได้ ยิ่งหากเป็นเบาหวานมานาน 15 ปี มีโอกาสที่จอประสาทตาผิดปกติถึง 50-60%
4. ตาบอดจากต้อหิน
เมื่อเป็นเบาหวานและมีจอประสาทตาผิดปกติ อาจพบว่ามีหลอดเลือดผิดปกติเกิดขึ้นที่บริเวณม่านตา จนไปอุดทางเดินของน้ำภายในลูกตา ทำให้ความดันตาสูง ปวดตา ตามัว ทำให้ประสาทตาฝ่อ และตาบอดได้
ป้องกันแบบไหน ไม่ให้สายตาเสื่อมลง
- หมั่นตรวจสุขภาพตาบ่อยๆ คนเป็นเบาหวานควรได้รับการตรวจสายตา และจอประสาทตาเสม่ำเสมอ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของจอประสาท หลอดเลือดฝอยที่จอประสาทตาและอื่นๆ
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมัน และความดันโลหิต ด้วยการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ 90-130 มิลลิกรัม / เดซิลิตร ระดับไขมันโคเลสเตอรอลต่ำกว่า 200 มิลลิกรัม / เดซิลิตร แระดับไตรกลีเซอไรด์ต่ำกว่า 150 มิลลิกรัม / เดซิลิตร และความดันโลหิตไม่ให้สูงเกินไป คือให้ต่ำกว่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท
- รักษาจอประสาทตาโดยแสงเลเซอร์ กรณีคนเป็นเบาหวานที่มีจอประสาทตาผิดปกติ มีหลอดเลือดโป่งพองจำนวนมาก และมีเลือดออกในจอประสาทตา การใช้แสงเลเซอร์จี้ที่ประสาทตา จะทำให้ส่วนของประสาทตาที่ขาดเลือด ต้องการออกซิเจนลดลง ป้องกันไม่ให้เกิดหลอดเลือดใหม่ที่ผิดปกติได้
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก https://si.mahidol.ac.th ,www.pixabay.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไม่อยากเป็น "โลหิตจาง" ต้องเน้นการกินอาหารบำรุงเลือด
- ผู้หญิงเคยสงสัยไหม ทำไมต้อง "ตรวจภายใน" แล้วเมื่อไรควรไปตรวจ
- สังเกตด่วน 4 "โรคผู้หญิง" ไม่ใช่มะเร็งแต่อันตราย
- สุดยอด "อาหารเช้า" สุขภาพ กินดี อิ่มนาน ไม่อ้วนง่าย
- 4 วิธีกินอาหารแก้ "ท้องผูก" จาก 4 สาเหตุ สูตรแผนจีน