ไลฟ์สไตล์

ชวนเช็ค สายตาผิดปกติจาก "เบาหวาน" รีบป้องกันไว้ก่อนตาบอด

ชวนเช็ค สายตาผิดปกติจาก "เบาหวาน" รีบป้องกันไว้ก่อนตาบอด

29 ก.ย. 2564

คนเป็น "เบาหวาน" จะมีอาการแทรกซ้อนที่สำคัญอย่างหนึ่ง คืออาการทาง"ดวงตา" ที่สำคัญคือเป็นแล้วไม่รู้ว่าป่วยเป็นเบาหวาน ดังนั้นรีบสังเกตและป้องกันไว้ก่อนตาเสื่อมไปจนบอด

          ชวนทุกท่านรีบสังเกตอาการผิดปกติของ "ดวงตา" ไม่ว่าจะตามัว ตาฝ้า เพราะเป็นหนึ่งอาการสำคัญของคนเป็นเบาหวาน รวมทั้งต้องรีบป้องกันและแก้ไข เนื่องจากหากปล่อยไว้อาจจะทำให้ตาบอดได้

 

          "เบาหวาน" เป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้มีความผิดปกติในการทำงานของเซลล์ โดยคนที่เป็นเบาหวาน มักจะมีอาการแทรกซ้อนที่สำคัญนั่นคือ จอประสาทตาผิดปกติจากโรคเบาหวาน อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดตาบอดและสายตาพิการ และสิ่งสำคัญคือ ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน ประมาณ 50% ไม่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคเบาหวาน ยิ่งคนที่เป็นเบาหวานนาน 15 ปี มี 2% ที่เกิดตาบอด และ 10% ที่มีสายตาเลือนราง  ซึ่งปัจจุบันพบผู้ป่วยที่มีสายตาพิการและตาบอดจากโรคเบาหวานกันมากขึ้น

 

 

ชวนเช็ค สายตาผิดปกติจาก \"เบาหวาน\" รีบป้องกันไว้ก่อนตาบอด

 

 

 

เบาหวาน ทำให้ตามัวและตาบอดได้อย่างไร เกิดได้จากสาเหตุต่างๆ ได้แก่

 

1. ตามัวขณะที่มีน้ำตาลในเลือดสูง

          เนื่องจากเลนส์ตาเกิดการบวมน้ำ เวลามองภาพไม่สามารถปรับโฟกัสภาพให้ชัดได้ อาการเหล่านี้มักเกิดเพียงชั่วคราว เมื่อควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ การเห็นก็จะกลับดีขึ้นได้


2. ตามัวจากการเกิดต้อกระจก
          คนที่เป็นเบาหวานนาน ๆ เลนส์ตาที่แต่เดิมใสจะขุ่นขึ้น เรียกว่า “ต้อกระจก” เกิดจากน้ำตาลในเลือดมีการเปลี่ยนแปลงเป็นสารซอบิตอล และฟรุคโตส สารเหล่านี้จะสะสมที่เลนส์ตาทำให้เลนส์ตาขุ่นบังแสงไม่ให้เข้าสู่นัยน์ตา วิธีรักษา คือ เมื่อต้อกระจกขุ่นมาก จะต้องทำการผ่าตัดเอาเลนส์ที่ขุ่นออกและใส่เลนส์เทียมเข้าไปแทน

 

 

ชวนเช็ค สายตาผิดปกติจาก \"เบาหวาน\" รีบป้องกันไว้ก่อนตาบอด

 

 

3. ตามัวเนื่องจากมีจอประสาทตาผิดปกติ
          คนเป็นเบาหวานมามานาน จอประสาทตาจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยระยะแรกหลอดเลือดฝอยที่จอประสาทตามีการโป่งพอง และอาจแตกเห็นเป็นจุดเลือดออกเล็ก ๆ อาจพบไขมันออกมาจากผนังหลอดเลือด เห็นเป็นก้อนสีเหลือง จากไขมันที่รวมตัวใกล้จุดรับภาพที่จอประสาทตาร่วมกับจอประสาทตาบวม ทำให้ตามัวมองภาพไม่ รวมถึงอาจมีเลือดออกภายในลูกตา ทำให้ตามัวลงทันที  รวมทั้งจอประสาทตาลอกและตาบอดได้ ยิ่งหากเป็นเบาหวานมานาน 15 ปี มีโอกาสที่จอประสาทตาผิดปกติถึง 50-60%

 

4. ตาบอดจากต้อหิน
          เมื่อเป็นเบาหวานและมีจอประสาทตาผิดปกติ อาจพบว่ามีหลอดเลือดผิดปกติเกิดขึ้นที่บริเวณม่านตา จนไปอุดทางเดินของน้ำภายในลูกตา ทำให้ความดันตาสูง ปวดตา ตามัว ทำให้ประสาทตาฝ่อ และตาบอดได้

 

 

ชวนเช็ค สายตาผิดปกติจาก \"เบาหวาน\" รีบป้องกันไว้ก่อนตาบอด

 

 

ป้องกันแบบไหน ไม่ให้สายตาเสื่อมลง
 

  • หมั่นตรวจสุขภาพตาบ่อยๆ คนเป็นเบาหวานควรได้รับการตรวจสายตา และจอประสาทตาเสม่ำเสมอ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของจอประสาท หลอดเลือดฝอยที่จอประสาทตาและอื่นๆ  
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมัน และความดันโลหิต ด้วยการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ 90-130 มิลลิกรัม / เดซิลิตร ระดับไขมันโคเลสเตอรอลต่ำกว่า 200 มิลลิกรัม / เดซิลิตร แระดับไตรกลีเซอไรด์ต่ำกว่า 150 มิลลิกรัม / เดซิลิตร  และความดันโลหิตไม่ให้สูงเกินไป คือให้ต่ำกว่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท
  • รักษาจอประสาทตาโดยแสงเลเซอร์  กรณีคนเป็นเบาหวานที่มีจอประสาทตาผิดปกติ มีหลอดเลือดโป่งพองจำนวนมาก และมีเลือดออกในจอประสาทตา การใช้แสงเลเซอร์จี้ที่ประสาทตา จะทำให้ส่วนของประสาทตาที่ขาดเลือด ต้องการออกซิเจนลดลง ป้องกันไม่ให้เกิดหลอดเลือดใหม่ที่ผิดปกติได้

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก https://si.mahidol.ac.th ,www.pixabay.com

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง