1 ตุลาคม "วันผู้สูงอายุ" สากล ระวังความปลอดภัย ไม่ใช้เสื้อผ้าเก่ามาเช็ดเท้า
1 ตุลาคมของทุกปี คือ"วันผู้สูงอายุสากล" ชวนทุกคนร่วมรณรงค์ ดูแลความ"ปลอดภัย"ให้ผู้สูงวัย ป้องกันหกล้ม ซึ่งกรมควบคุมโรคก็ได้เตือนเรื่องไม่ให้นำเสื้อผ้าเก่ามาทำเป็นผ้าเช็ดเท้าด้วย
ในโอกาสวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันผู้สูงอายุสากล (International Day of Older Persons) จึงเชิญชวนให้ทุกท่านตระหนักถึงสุขภาพและความปลอดภัยของผู้สูงวัยในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องอุบัติเหตุต่างๆ และในโอกาสนี้ เราจึงได้นำคำเตือนเกี่ยวกับอุบัติเหตุและสุขภาพจาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มาแนะนำให้ความรู้กันต่อค่ะ
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เผยข้อมูลที่น่าห่วงของผู้สูงอายุไทย ว่ามีสถิติการหกล้มปีละประมาณ 3 ล้านราย เข้ารักษาตัวเฉลี่ยชั่วโมงละ 7 ราย สาเหตุหลักเกิดจากการสะดุดล้ม โดยย้ำเตือนให้ทุกบ้านเลี่ยง “ใช้เสื้อผ้าเป็นที่เช็ดเท้า” พร้อมแนะนำไม่ให้ผู้สูงอายุยืนใส่กางเกง หรือผ้าถุง ไม่ใส่รองเท้าเก่าจนพื้นสึกบาง ไม่ใช้คันร่มแทนไม้เท้า เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงทำให้หกล้ม รวมถึงแนะนำให้ผู้สูงวัยควรประเมินความเสี่ยงการหกล้มอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน
โดยเมื่อไม่นานมานี้ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2563 พบว่ามีจำนวนกว่า 11.6 ล้านคน สิ่งที่เป็นห่วงในประชากรวัยนี้คือเรื่องการพลัดตกหกล้ม แต่ละปีประมาณ 3 ล้านราย หกล้มบาดเจ็บ 6 แสนราย ต้องเข้ารักษาตัวในรพ.มากกว่า 60,000 รายต่อปี หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 7 ราย มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 4 ราย และเป็นเหตุให้ผู้สูงอายุเกิดความพิการ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและจิตใจ ทำให้หวาดกลัวการหกล้ม สาเหตุที่สำคัญคือมีภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยที่พบมากถึง 35% ทำให้การทรงตัวไม่ดีเหมือนวัยอื่นๆ รวมทั้งการมีโรคประจำตัวด้วย
มีข้อมูลพบว่า การพลัดตกหกล้มกว่า 80% เกิดภายในบ้าน จุดเสี่ยงนอกจากจะเป็นที่ห้องน้ำ ห้องนอนแล้ว ยังมีเรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้ามอีก 4 เรื่องที่หลายคนอาจไม่ได้คิดถึง นั่นคือ
1. ไม่ควรนำเสื้อผ้ามาเป็นที่เช็ดเท้า เพราะอาจทำให้สะดุดล้มได้ และ “ผ้าเช็ดเท้า” ควรเป็นแผ่นผ้าหนาผืนเดียวกัน
2. การเปลี่ยนใส่ผ้า ผู้สูงอายุควรนั่งเปลี่ยนบนเก้าอี้ที่มั่นคง ไม่ควรยืนเปลี่ยน อาจทำให้การทรงตัวไม่ดี เซหรือล้มง่าย
3. ไม่ใช้คันร่มแทนไม้เท้า เพราะไม่สามารถรับน้ำหนักตัวได้
4. รองเท้า ต้องมีพื้นหนาและมีดอกยางกันลื่น ไม่ควรใส่รองเท้าจนพื้นสึกบาง เพราะจะทำให้ลื่นง่าย
ทางด้านนายแพทย์สุทัศน์ โชตนะพันธ์ ผู้อำนวยการกองป้องกันการบาดเจ็บ กล่าวว่า ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงและป้องกันการพลัดตกหกล้มได้ ด้วยการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน เช่น การยกลูกน้ำหนัก ขวดน้ำ การใช้ยางยืด ครั้งละ 30-50 นาที หรือไม่น้อยกว่า 150 นาทีต่อสัปดาห์ จะทำให้มีมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การทรงตัวดีขึ้น รวมทั้งคำแนะนำในการใช้ยา
หลีกเลี่ยงการใช้ยาไม่จำเป็น
- ควรสวมเสื้อผ้าพอดีตัว ความยาวกางเกงไม่เลยข้อเท้า
- ควรใส่รองเท้าหุ้มส้น พื้นที่มีดอกยางไม่ลื่น
- ผู้ที่มีความบกพร่องในการเดินหรือการทรงตัว ควรใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน เช่น โครงเหล็กช่วยเดิน ไม้เท้า
- ควรเลี่ยงการเดินขึ้น-ลง บันไดและ
- แจ้งญาติหรือผู้ดูแลทุกครั้งที่ล้ม
และที่สำคัญผู้สูงอายุควรไปตรวจประเมินความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มปีละ 1 ครั้ง โดยสามารถเข้ารับบริการที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง เพื่อทราบความเสี่ยงของตนเอง จะได้ป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
ซึ่งขณะนี้กองป้องกันการบาดเจ็บได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย จัดทำคลิปการออกกำลังกายแบบแรงต้านสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะเผยแพร่ทาง Youtube สามารถติดตามเข้าชมและปฏิบัติตามได้ที่ https://ddc.moph.go.th/dip และจัดทำไลน์แอดบริการข้อมูลข่าวสารความรู้ต่างๆ ที่จำเป็น ผู้สูงอายุสามารถสมัครเป็นเพื่อนได้ที่ @DIPGunlom (แอดไลน์ดีไอพีกันล้ม) หรือติดตามใน Facebook กองการป้องกันการบาดเจ็บ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 0 2590 3955 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก https://ddc.moph.go.th, https://www.theunion.com, https://www.irishtimes.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 12 กลยุทธ์จัดอาหารให้ผู้สูงอายุ สุขภาพดี
- ชวนเช็ค สายตาผิดปกติจาก "เบาหวาน" รีบป้องกันไว้ก่อนตาบอด
- 4 วิธีกินอาหารแก้ "ท้องผูก" จาก 4 สาเหตุ สูตรแผนจีน
- กิน “สมุนไพร” บรรเทาเลือดจะไปลมจะมาในวัยทอง
- ชวนสกัดโรคเรื้อรัง บริหารสมอง ป้องกัน "อัลไซเมอร์"