8 สัญญาณ “เลิกกับแฟน” อยากรักกับแฟนนานๆ อย่าหาทำ!
ไม่อยาก "เลิกกับแฟน" ต้องเข้าใจ 8 สัญญาณอันตรายที่ส่อแววให้คุณกับคู่รักมีสิทธิ์ที่จะเลิกกัน เผื่อว่ายังพอมีทางแก้ไขได้
แต่ระยะเวลาที่ยาวนานก็ไม่ได้เป็นตัวยืนยันความสัมพันธ์ว่าจะมั่นคงยืนยาวเสมอไป เพราะหากในระยะเวลาที่คบกันทั้งสองฝ่ายไม่มีความพยายามในการปรับตัวเข้าหากันที่มากพอ หรือมีเรื่องบางเรื่องที่มาค้นพบในภายหลังว่าเข้ากันไม่ได้ แม้จะคบกันมายาวถึง 9 ปี ความสัมพันธ์ก็จบลงได้เหมือนกัน
เรามาเช็ก 8 สัญญาณ อันตรายส่อแววมีโอกาสทำให้ "เลิกกับแฟน"
- ไม่เป็นตัวของตัวเอง
เมื่อคบใครสักคนเราคงอยากที่จะได้รับสบายใจเวลาอยู่กับเขา อยากที่จะสามารถแสดงตัวตนที่แท้จริงทั้งข้อดีข้อเสียของเราให้เขาได้รู้ ไม่ต้องเสแสร้งหรือพยายามเป็นคนอื่นตลอดเพราะแม้มันจะทำให้เขาประทับใจ แต่มันกลับไม่ใช่ผลดีในระยะยาว เพราะความรู้สึกที่มั่นคงต้องเริ่มจากต่างฝ่ายต้องต่างรับตัวจริงของกันและกันให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็มีโอกาส "เลิกกับแฟน" ได้
- หนีปัญหา
เมื่อคู่รักมีปัญหาแล้วไม่พูดคุย ไม่เคลียร์ใจ หรือพูดคุยแต่ไม่ปรับปรุงตัว และปล่อยปัญหาทิ้งไว้จนเรื่องราวสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ สามารถเป็นหนึ่งในสาเหตุที่นำไปสู่การกดทับทางความรู้สึก และก่อให้เกิดเป็นความโกรธที่รอวันที่รอวันที่จะปะทุออกมาได้ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เช่นนี้ เมื่อมีปัญหา คู่รักควรที่จะเปิดใจคุยกัน และ หาทางแก้ปัญหาร่วมกัน
3. เจ้าชู้คุยไปเรื่อย
การนอกใจแฟน รักสนุก คุยกับคนอื่นไปเรื่อยทั้ง ๆ ที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว ถือเป็นการทำลายความไว้ใจของอีกฝ่ายอย่างมาก และเมื่อความไว้ใจได้ถูกพังแล้ว "เลิกกับแฟน" เมื่อไหร่ถ้าอีกฝ่ายรักตัวเองมากพอโอกาสการกลับมาคืนดีจึงน้อยเอามาก ๆ
4. อีกฝ่ายไม่พัฒนาตัวเอง
การที่คู่รักจะอยู่ด้วยกันได้ จำเป็นอย่างมากที่ทั้งคู่มีความคิดและทัศนคติที่ไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงหากเจอปัญหา ต่างฝ่ายก็ควรที่พร้อมจะพัฒนาตัวเองเพื่อให้ก้าวข้ามปัญหาไปด้วยกัน หากฝ่ายหนึ่งเป็นการทำงาน รักอนาคต ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ แต่อีกฝ่ายที่รักการเที่ยวเล่น ดูหนังฟังเพลง จิบเบียร์ ก็อาจทำให้ฝ่ายที่ตั้งใจสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองมองว่าอีกฝ่ายปล่อยตัวเองเรื่อยเปื่อยมากเกินไป ไม่พัฒนาตัวเอง แม้เคยคุยกันแล้ว จนในที่สุดไลฟ์สไตล์ที่ไปกันคนละทางจะส่งผลให้ "เลิกกับแฟน"
5. ไม่รักษาคำพูด
การรักษาคำพูดถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆๆๆ ในการประคับประคองความสัมพันธ์ เพราะหากผิดคำพูดบ่อย ๆ ก็แสดงให้เห็นได้ว่าอีกกฝ่ายพร้อมที่จะให้เราเชื่อคำพูดลม ๆ แล้ง ๆ อยู่ฝ่ายเดียว จนในที่สุดต้องจบปัญหาด้วยการ "เลิกกับแฟน"
6. ไม่เอาใจใส่กัน
การมีแฟนทั้งทีเราก็ต้องหาให้ดีกว่าอยู่คนเดียวจริงไหม ถ้าหากมีแฟนแล้วแต่ไม่สบายก็ต้องอยู่ดูแลตัวเองคนเดียว ไปกินอาหารก็ต้องตามใจแต่ร้านที่เขาอยากไป หรือแม้แต่เวลาพูดคุยก็ได้คุยแต่สิ่งที่อีกฝ่ายอยากคุย เรื่องแบบนี้ต้องให้และรับเท่า ๆ กันทั้งสองฝ่าย ดังนั้นถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้มากเกินไปก็จะมีส่วนให้เขาเหนื่อยและไม่ทนในที่สุด
7. หึงหวงมากเกินไป
การหึงและหวง ในมุมหนึ่งมันคือสิ่งที่ดีเพราะมันทำให้เราได้รู้ว่าอีกฝ่ายมียังแคร์เราอยู่ แต่การหึงหวงแบบหน้ามืดตามัวถึงขั้นที่ว่าฝ่ายหนึ่งยืนกับเพื่อนอีกฝ่ายหนึ่งก็ถึงกับชวนทะเลาะได้นั้นมีสาเหตุมาจากการ “ไม่เชื่อใจ” และหากมากเกินไปอาจทำให้อีกฝ่ายอึดอัดได้
8. มองไม่เห็นอนาคตร่วมกัน
ข้อนี้ก็สอดคล้องกับทัศคติเหมือนกัน หากต่างฝ่ายมีแนวคิดชีวิตที่ต่างกัน ฝ่ายหนึ่งอยากมีลูก แต่อีกฝ่ายไม่อยากมี ฝ่ายหนึ่งชอบทำบุญเข้าวัด แต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจในเรื่องธรรมะเลย และถ้าเรื่องพวกนี้มันเกินความสามารถที่ต่างฝ่ายจะปรับจูนเข้ากัน การเลิกราอาจเป็นคำตอบเพื่อให้ต่างฝ่ายได้ไปเจอคนที่มีเข็มทิศชีวิตไปในทางเดียวกัน ไม่ "เลิกกับแฟน" กลางคัน