ไลฟ์สไตล์

เพราะ "ชานมไข่มุก" อร่อยเกินต้าน จึงต้องรู้ว่ากินอย่างไรถึงไกลโรค

เพราะ "ชานมไข่มุก" อร่อยเกินต้าน จึงต้องรู้ว่ากินอย่างไรถึงไกลโรค

10 ธ.ค. 2564

"ชานมไข่มุก" ของหวานยอดนิยม เพราะว่า มีรสชาติหวาน อร่อย ราคาถูก และหาซื้อได้ง่าย แต่ความหวาน และความอร่อย ของชาไข่มุกนั้น มาพร้อมกับโรคร้าย ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ได้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงมีวิธีกินชาไข่มุกอย่างไร ให้ห่างไกลจากโรคร้าย

"ชานมไข่มุก" ที่เราต่างรู้จักดีเป็นเครื่องดื่มหวานเย็นประกอบด้วย น้ำชา นม หรือชาผลไม้ ส่วนไข่มุกทำมาจากเแป้งมันสัมปะหลังและน้ำตาลทรายแดงปั้นเป็นเม็ดเล็กๆ กำเนิดจาก ประเทศไต้หวันในช่วงทศวรรษที่ 1980 และเพื่อให้เข้ากับความอร่อยของยุคสมัย ร้านค้าชานมไข่มุกต่างก็ได้เติมแต่งสูตรเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มท็อปปิ้งอย่าง ครีมชีส เยลลี่ หรือ พุดดิ้ง รวมถึงเพิ่มรสชาติชาใหม่ ๆ อีกด้วย

 

แป้ง นม น้ำตาล แลพท็อปปิ้ง ทำให้รวม ๆ แล้วชานมไข่มุก 1 แก้ว มีพลังงานถึง 240-360 กิโลแคลอรี่ และหาก เด็ก, ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน และ, ผู้ป่วยโรคเบาหวานดื่มมากเกินไปความหวานก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

 

โรคที่เกิดจาก "ชานมไข่มุก"

โรคเบาหวาน - องค์การอนามัยโลกได้กำหนดการบริโภคน้ำตาลในแต่ละวัน ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา ชานมไข่มุกมีส่วนผสมหลักคือ น้ำตาล และแป้ง ในหนึ่งแก้วจะมีน้ำตาล และคาร์โบไฮเดตจากไข่มุก ที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลอีก ทำให้การบริโภคชานมไข่มุกวันล่ะหนึ่งแก้ว มีสิทธิที่จะได้รับน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา และถ้าบริโภคเป็นประจำ จะทำให้ผู้บริโภคนั้นมีสภาวะน้ำหนักเกิน และเป็นโรคเบาหวานได้

 

โรคอ้วน - การบริโภคชานมไข่มุกอย่างต่อเนื่อง เป็นพฤติกรรมหนึ่งที่จะก่อให้เกิดโรคอ้วน คือการมีสภาวะน้ำหนักเกิน การอ้วนลงพุง แขน และขามีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้โรคอ้วนอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจหลอดเลือด และโรคไขข้อเสื่อม เป็นต้น 

 

โรคหลอดเลือด และหัวใจ - ในส่วนประกอบของชานมไข่มุก เต็มไปด้วยน้ำตาล และไขมันชนิดเลว (LDL) ซึ่งจะเพิ่มไตรกลีเซอร์ไรด์ ถ้ารับประทานมากกเกินไป ทำให้ร่างกายกำจัดไตรกลีเซอร์ไรต์ได้ไม่หมด ส่งผลให้เป็นโรคหลอดเลือด และหัวใจได้

วิธีกิน "ชานมไข่มุก" ให้ปลอดโรค!

 

1. เลือกแก้วขนาดที่เล็กที่สุด รับประทานชานมไข่มุกแค่พอประมาณ เพราะ ชาไข่มุกเป็นเครื่องดื่มแคลอรี่สูง ไม่ใช่เป็นอาหารหลัก

 

2. ลดระดับความหวานให้ต่ำที่สุด ชานมไข่มุกรสชาติหวานปกติมักจะมีปริมาณน้ำตาลเยอะอยู่แล้ว ทำให้การบริโภคน้ำตาลในแต่ล่ะวันเกินกว่า 6 ช้อนชาได้ ดังนั้นควรลดระดับน้ำตาลที่ละขั้น จนถึงขั้นไม่หวานเลยจะยิ่งดี

 

3. ลดอาหาร ในวันที่รับประทานชานมไข่มุก ควรลดปริมาณอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ในวันที่รับประทานชานมไข่มุก เพื่อไม่ให้ได้รับปริมาณน้ำตาล และไขมันเลว (LDL) จนมากเกินไป 

เพราะ \"ชานมไข่มุก\" อร่อยเกินต้าน จึงต้องรู้ว่ากินอย่างไรถึงไกลโรค


ขอบคุณ : โรงพยาบาลเพชรเวช