ชวนสรงน้ำพระประจำวันเกิด สักการะพระพุทธรูปโบราณ เสริมมงคล "สงกรานต์ 2565"
วธ.ร่วมกับ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ จัดกิจกรรมประเพณีวันสงกรานต์ ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “ร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทย สงกรานต์วิถีใหม่ รับผิดชอบต่อครอบครัวและสังคม” เชิญชวนสรงน้ำพระพุทธรูปประจำวันเกิด สักการะพระพุทธรูปโบราณ 10 องค์ สวดมนต์ขอพร เสริมสิริมงคล
วธ. ร่วมกับศูนย์การค้าสยามพารากอน จัดกิจกรรมประเพณี "สงกรานต์ 2565" ภายใต้แนวคิด “ร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทย สงกรานต์วิถีใหม่ รับผิดชอบต่อครอบครัวและสังคม” ระหว่างวันที่ 12-17 เมษายน 2565 มีกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป พระพุทธรูปประจำวันเกิด และจัดแสดงพระพุทธรูปมงคลโบราณศิลปะสมัยล้านนา อยุธยา และรัตนโกสินทร์ 10 องค์ ได้แก่ พระพุทธสิหิงค์จำลอง,พระพุทธรูปสมาธิใต้ร่มโพธิ์เหนือมารผจญ, พระชัยเมืองนครราชสีมา, พระอมิตายุส, พระพุทธรูปแก้วมารวิชัย, พระพุทธรูปห้ามสมุทร, พระพุทธรูปทรงเครื่องห้ามญาติ (ปางประทานอภัย), พระพุทธรูปห้ามแก่นจันทน์, พระพุทธรูปป่าเลไลย์ และพระพุทธรูปปางโปรดมหิสสรเทพบุตร ให้ประชาชนได้สักการะ สวดมนต์ขอพร เพื่อเสริมสิริมงคล ให้สุขสมหวัง ปลอดโรคภัย มีสุขภาพแข็งแรงและชีวิตยืนยาว
พระพุทธสิหิงค์จำลอง
- แบบศิลปะ ศิลปะรัตนโกสินทร์
- อายุสมัย ปลายพุทธศตวรรษที่ 24 - ต้นพุทธศตวรรษที่ 25 (ประมาณ 150 ปีมาแล้ว)
- ประวัติ เป็นของอยู่ในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์มาแต่เดิม
คติการสร้างพระพุทธสิหิงค์จำลองคงเนื่องมาจาก “นิทานพระพุทธสิหิงค์” ซึ่งแต่โดยพระโพธิรังสี พระภิกษุชาวเชียงใหม่ กล่าวถึงพระเจ้ามหาพรหม เมื่ออัญเชิญพระพุทธสิงหิงค์ไปประดิษฐานที่เมืองเชียงรายแล้ว โปรดให้จำลองพระพุทธสิหิงค์ด้วยทองคำขนาดเท่ากับองค์เดิมและประดิษฐานในวิหารเดียวกับพระพุทธสิหิงค์องค์จริง ในสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อพระพุทธสิหิงค์ยังประดิษฐานที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ก็มีพระพุทธสิหิงค์จำลองประดิษฐานคู่กันด้วย
พระพุทธรูปสมาธิใต้ร่มโพธิ์เหนือมารผจญ
- แบบศิลปะ ศิลปะอยุธยา
- อายุสมัย พุทธศตวรรษที่ 21-22 (ประมาณ 400- 500 ปีมาแล้ว)
- ประวัติ เดิมอยู่ที่วัดบวรนิเวศ เป็นของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
พระพุทธรูปสมาธิ ประทับนั่งขัดสมาธิราบบนฐานบัวใต้ต้นโพธิ์ ที่ฐานประดับรูปกองทัพพญาวัสวดีมารกำลังยกทัพมาจากเบื้องซ้ายและพ่ายแพ้กลับไปทางเบื้องขวาของพระพุทธองค์ ที่ฐานด้านหน้ามีช่องสำหรับติดตั้งประติมากรรมแม่พระธรณีบีบมวยผมหลั่งน้ำที่พระพุทธองค์ทรงกระทำบารมีไว้ท่วมกองทัพมารจนพ่ายแพ้ไป โดยปกติพระพุทธรูปปางมารวิชัยซึ่งแสดงพุทธประวัติตอนชนะมาร พระหัตถ์ขวาจะอยู่ในอิริยาบถ “ภูมิสปรรศมุทรา-ท่าสัมผัสแผ่นดิน” ชี้นิ้วพระหัตถ์ลงแผ่นดินเพื่อให้แผ่นดินเป็นพยานก่อนการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระชัยเมืองนครราชสีมา
- แบบศิลปะ ศิลปะอยุธยา
- อายุสมัย พุทธศตวรรษที่ 22-23 (ประมาณ 300-400 ปีมาแล้ว)
- ประวัติ ย้ายมาจากห้องกลางกระทรวงมหาดไทย
พระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับนั่งสมาธิราบบนฐานเตี้ย มีจารึกอักษรขอม ภาษาบาลี ที่องค์พระโดยรอบ อาทิ บนผ้าสังฆาฏิด้านหลัง จารึกอักขระ 5 ตัว คือ นะ โม พุท ธา ยะ คาถาย่อนามพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ที่ทรงอุบัติในภัททกัปหรือกัปปัจจุบันนี้ ได้แก่ พระกกุสันธะ พระโกนาคมนะ พระกัสสปะ พระโคดม และพระศรีอารยเมตไตรย ที่เรียกว่าพระชัย เพราะมีความหมายว่า ชัยชนะ เนื่องด้วยแต่เดิมมีความมุ่งหมายเพื่ออัญเชิญไปในกองทัพยามออกศึกสงครามเพื่อชัยชนะ
พระอมิตายุส
- แบบศิลปะ ศิลปะล้านนา
- อายุสมัย ราวพุทธศตวรรษที่ 21 (500 ปีมาแล้ว)
- ประวัติ กรมพระราชพิธี ส่งมาจากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2474
พระพุทธรูปทรงเครื่องปางสมาธิ พระหัตถ์ทั้งสองข้างวางหงายซ้อนกันบนพระเพลา บนพระหัตถ์ขวามีวัตถุคล้ายภาชนะปิดด้วยฝารูปทรงเปลว พระอมิตายุส นามหนึ่งของพระอมิตาภพุทธเจ้า โดยปรากฏในรูป พระโพธิสัตว์ผู้เป็นอมตะ และเป็นผู้ประทานอายุยืน เป็นรูปเคารพที่นิยมนับถือมากในหมู่ชาวพุทธวัชรยาน โดยมักประกอบพิธีบูชา สวดมนต์ขอพร เพื่อให้มีชีวิตยืนยาว มีสุขภาพแข็งแรง
พระพุทธรูปแก้วมารวิชัย
- แบบศิลปะ ศิลปะรัตนโกสินทร์
- อายุสมัย พุทธศตวรรษที่ 24 (ประมาณ 200 ปีมาแล้ว)
- ประวัติ ขุดได้จากกรุในพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส เมื่อเดือนเมษายน พุทธศักราช 2507
พระพุทธรูปปางมารวิชัยทำจากแก้วสีเขียวฟ้าสมัยโบราณนิยมนำหินสีที่มีมูลค่าสูงและมีความแข็งใสเหมือนกับแก้วมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปเพื่อบรรจุไว้ในกรุพระเจดีย์ต่างๆ ในเวลาต่อมาเมื่อหินที่มีเนื้อใสสะอาดหายาก และมีการนำเข้าแก้วที่หลอมจากทรายขาวมาหล่อเป็นพระพุทธรูปด้วยเช่นกัน
พระพุทธรูปห้ามสมุทร
- แบบศิลปะ ศิลปะอยุธยา
- อายุสมัย พุทธศตวรรษที่ 21 (ประมาณ 500 ปีมาแล้ว)
- ประวัติ ของหลวงพระราชทานมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2469
พระพุทธรูปยกพระหัตถ์ทั้งสองตั้งขึ้นเสมอพระอุระและหันฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองออกด้านนอก แสดงปางห้ามสมุทร พุทธประวัติตอนแสดงอิทธิฤทธิ์ห้ามมิให้แม่น้ำเนรัญชราท่วมหลากมาถึงบริเวณที่พระองค์ประทับได้ เป็นเหตุให้อุรุเวลกัสสปหัวหน้าเหล่าชฎิลทั้ง 500 ยอมฟังพระธรรมเทศนาจนสิ้นทิฐิมานะ เลิกวิถีปฏิบัติเดิม และขออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
พระพุทธรูปทรงเครื่องห้ามญาติ (ปางประทานอภัย)
- แบบศิลปะ ศิลปะอยุธยา
- อายุสมัย พุทธศตวรรษที่ 21-22 (ประมาณ 400-500 ปีมาแล้ว)
- ประวัติ ขุนสกลคณารักษ์ สมุห์บัญชีในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ มอบให้
พระพุทธปฏิมาทรงยกพระหัตถ์ขวา พระหัตถ์ซ้ายทอดลงข้างพระวรกาย ตามคติเดิมของการสร้างพระพุทธรูปแต่เดิมของอินเดีย พระพุทธรูปที่แสดงพระหัตถ์ในท่านี้เรียกตามภาษาสันสกฤตว่า “อภยมุทรา” ภาษาไทยนำมาใช้ว่า “ปางประทานอภัย” เพื่อสื่อความหมายถึง “ความไม่มีภัยทั้งปวง” หรือ "ไม่หวั่นเกรงภัยใดๆ” อันมีความหมายถึงการปกป้องอันตราย ต่อมาจึงได้กำหนดพระพุทธรูปอิริยาบถนี้แสดงพุทธประวัติตอนเสด็จไปทรงห้ามบรรดาเหล่ากษัตริย์จากตระกูลศากยวงศ์ พระญาติฝ่ายพุทธบิดา และพระญาติฝ่ายพุทธมารดาจากตระกูลโกลิยวงศ์ มิให้วิวาทจากกรณีแย่งน้ำในแม่น้ำโรหิณีเพื่อทำเกษตรกรรม
พระพุทธรูปห้ามแก่นจันทน์
- แบบศิลปะ ศิลปะรัตนโกสินทร์
- อายุสมัย พุทธศตวรรษที่ 24 (ประมาณ 200 ปีมาแล้ว)
- ประวัติ ขุดได้จากกรุในพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส เมื่อเดือนเมษายน พุทธศักราช 2507
ตำนานพระแก่นจันทร์กล่าวว่า เมื่อพระพุทธองค์เสด็จลงมาจากดาวดึงส์และได้ไปโปรดพระเจ้า ปเสนทิโกศล ด้วยพระพุทธานุภาพบันดาลให้พระพุทธรูปแก่นจันทน์แดงที่พระเจ้าปเสนทิโกศลโปรดให้สร้างขึ้นแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เลื่อนหลีกไปจากพุทธอาสน์พระพุทธเจ้าจึงทรงยกฝ่าพระหัตถ์ซ้ายขึ้นเป็นกิริยาทรงห้ามตำนานนี้ประสงค์จะอ้างว่าพระพุทธรูปแก่นจันทน์องค์นั้นเป็นต้นแบบของการสร้างพระพุทธรูปในภายหลัง หรืออีกนัยหนึ่งก็เพื่อว่า พระพุทธรูปมีขึ้นโดยพุทธานุญาตและเหมือนพระพุทธองค์ เพราะตัวอย่างสร้างขึ้นแต่ในครั้งพุทธกาล
พระพุทธรูปป่าเลไลย์
- แบบศิลปะ ศิลปะรัตนโกสินทร์
- อายุสมัย พุทธศตวรรษที่ 24 (ประมาณ 200 ปีมาแล้ว)
- ประวัติ ขุดได้จากกรุในพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส เมื่อเดือนเมษายน พุทธศักราช 2504
พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นตามพระพุทธประวัติที่กล่าวถึงอุเบกขาบารมี เมื่อคราวภิกษุเมืองโกสัมพี เกิดแตกความสามัคคีกัน แม้พระพุทธองค์จะห้ามปรามอย่างไรก็ไม่เชื่อฟัง จึงทรงเสด็จจาริกไปอยู่ตามลำพังพระองค์เดียวในป่าที่ชื่อว่าปาลิไลยกะ โดยมีช้างปาลิไลยกะถวายตนเป็นอุปัฏฐาก และพญาวานรมีกุศลจิตนำรวงผึ้งติดกิ่งไม้มาถวายพระพุทธองค์พระหัตถ์ซ้ายจึงวางหงายวางบนพระเพลาเป็นกริยาทรงรับ
พระพุทธรูปปางโปรดมหิสสรเทพบุตร
- แบบศิลปะ ศิลปะรัตนโกสินทร์
- อายุสมัย พุทธศตวรรษที่ 24 (ประมาณ 200 ปีมาแล้ว)
- ประวัติ สมบัติเดิมของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ประติมากรรมรูปพระพุทธเจ้าขนาดเล็กประสานอยู่ที่พระเพลา (ปางถวายเนตร) อยู่บนเศียรของมหิสสรเทวะ หรือ มหิสสรเทพบุตร (เทพผู้เป็นใหญ่หมายถึงพระมเหศวรหรือพระอิศวร) เรื่องของมหิสสรเทวะ ที่ปรากฏในวรรณกรรมพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท มีความโดยย่อว่า มหิสสรเทวะมีทิฐิมานะ ท้าประลองกับพระพุทธเจ้า เนื่องจากไม่พอใจเหล่าเทวดาที่ไปเคารพพระพุทธเจ้า โดยการจำแลงและซ่อนกายไว้ แต่พระพุทธองค์ก็ทรงทราบด้วยญาณทันทีว่าซ่อนกายอยู่ที่ใด ถึงคราพระพุทธองค์ซ่อนกายบ้าง มหิสสรเทวะหาไม่พบ จึงยอมจำนน ปรากฏว่าพระพุทธเจ้าซ่อนกายอยู่ใกล้พระนลาฏของมหิสสรเทวะ จากนั้นพระองค์ทรงตรัสเทศนาโปรดมหิสสรเทวะจนบรรลุธรรมและตั้งปณิธานขอเป็นสัพพัญญูของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการสาธิตการทำน้ำอบไทย น้ำปรุงและร้อยพวงมาลัย ทั้งนี้ วธ.ขอเชิญชวนประชาชนแต่งกายชุดสุภาพด้วยผ้าไทย ผ้าพื้นเมืองหรือชุดไทยย้อนยุค เข้าร่วมกิจกรรมสงกรานต์ เพื่อร่วมสืบสานคุณค่าและสาระอันดีงามของประเพณีสงกรานต์ เช่น การทำความสะอาดบ้านเรือน วัด ทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระพุทธรูป ฟังเทศน์ รดน้ำดำหัวขอพรผู้สูงอายุ