ไลฟ์สไตล์

"หลุยส์ วิตตอง" โชว์คอลเลคชั่นล่าสุด กับผลงานสุดท้ายของ "เวอร์จิล แอบโลห์"

"หลุยส์ วิตตอง" โชว์คอลเลคชั่นล่าสุด กับผลงานสุดท้ายของ "เวอร์จิล แอบโลห์"

04 มิ.ย. 2565

หลุยส์ วิตตอง ส่งตรงรันเวย์จากปารีส เนรมิตแฟชั่นโชว์ สปิน-ออฟ คอลเลคชั่นสุภาพบุรุษฤดูใบไม้ร่วง - ฤดูหนาว 2022 ที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก กับผลงานชิ้นสุดท้ายของ เวอร์จิล อาโบลห์

“หลุยส์ วิตตอง” (Louis Vuitton) จัดแฟชั่นโชว์รูปแบบ Spin-Off (สปิน-ออฟ) คอลเลคชั่นสุภาพบุรุษ ฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2022  ในงาน Louis Vuitton Fall Winter 2022 Men’s Spin-off Show  ที่ The Pinnacle ชั้น 8 ICONSIAM เมื่อวันก่อน

 

\"หลุยส์ วิตตอง\" โชว์คอลเลคชั่นล่าสุด กับผลงานสุดท้ายของ \"เวอร์จิล แอบโลห์\"

 

\"หลุยส์ วิตตอง\" โชว์คอลเลคชั่นล่าสุด กับผลงานสุดท้ายของ \"เวอร์จิล แอบโลห์\"

 

โดยงานนี้นับเป็นการจัดแฟชั่นโชว์ Spin-Off คอลเลคชั่นสุภาพบุรุษเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อนำพาทุกท่านไปสัมผัสกับคอลเลคชั่นหมายเลข 8 ที่หลอมรวมแรงบันดาลใจ และบอกเล่าเรื่องราวของ “เวอร์จิล แอบโลห์” (Virgil Abloh) ตลอด 8 ฤดูกาลในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ “หลุยส์ วิตตอง” ซึ่งคอลเลคชั่นนี้นับเป็นผลงานสุดท้ายจากดีไซเนอร์อัจฉริยะผู้เป็นตำนานก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงในวัยเพียง 41 ปี ด้วยโรคมะเร็งหลอดเลือดหัวใจ

 

เมก้า-สุริยน ศรีอรทัยกุล

 

ศุภลักษณ์ อัมพุช

 

ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์-ณชนก รัตนทารส

 

 

 

 

 

งาน Louis Vuitton Fall Winter 2022 Men’s Spin-off show รูปแบบแฟชั่นโชว์ Spin-Off ถูกเนรมิตเป็นรันเวย์สีฟ้าและบ้านหลังใหญ่หลังคาสีแดงคล้ายอยู่บนทองฟ้าแห่งความฝัน สถานที่ซึ่งทุกความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสามารถเกิดขึ้นได้จริง โดยมีบรรดาเซเลบริตี้และศิลปินดาราแถวหน้าของเมืองไทยมากมายที่ตบเท้ากันมาร่วมชมโชว์ อาทิ ศุภลักษณ์ อัมพุช, เสาวคนธ์ พรพัฒนารักษ์, ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์, ณชนก รัตนทารส, สุริยน-เมก้า ศรีอรทัยกุล, คณชัย เบญจรงคกุล, ทัตวร สุกัณศีล, กฤษฏิ์ จิระเกียรติวัฒนา ฯลฯ รวมทั้งคนดังจาก 8 ประเทศในเอเชียที่บินลัดฟ้ามาร่วมชมโชว์ในครั้งนี้ด้วย อาทิ Park Bo Gum, Josh Heuston, Ishaan Khatter, Desmond Tan, Ahmad Al Ghazali Kohler, Afgansyah Reza, Alvin Chong, Loui Lim, Soobin Hoang Son, BinZ และ LA Aguinaldo

นอกจาก “เวอร์จิล แอบโลห์” จะทรงอิทธิพลในด้านแฟชั่นแล้ว เขายังเป็นคนที่เห็นความสำคัญกับการยอมรับในความหลากหลายและให้ความสำคัญกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ดังนั้นการจัดแฟชั่นโชว์ของ "หลุยส์ วิตตอง" ครั้งแรกในประเทศไทยจึงเป็นการทำงานที่เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญกับสตูดิโอฝั่งปารีสและทีมงานในประเทศไทยเพื่อให้โชว์ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบตามแบบฉบับความคิดสร้างสรรค์ของ “เวอร์จิล แอบโลห์” ที่ผสานรูปแบบความเป็นไทยเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ องค์ประกอบของการทำโชว์ มีทั้งในส่วนของฉากที่ทางสตูดิโอปารีส นำเรื่องราวต่อจากโชว์ที่ปารีสเมื่อเดือนมกราคมมาเล่าต่อจากความเป็น Dreamhouse มาสู่เรื่องราวความคิดสร้างสรรค์ของเวอร์จิล ที่มีอย่างมากมาย แม้ในเวลาที่เขาได้จากไปแล้ว แต่สิ่งเหล่านั้นยังคงวนเวียนอยู่กับทุกคน บ้าน Dreamhouse หลังเดิมได้ถูกนำมาถ่ายทอดสู่ดีไซน์แบบ Upside Down ภายใต้การควบคุมของทีมงานในประเทศไทยอย่างเคร่งครัดจนออกมาเป็นภาพเดียวกับที่ทีมปารีสตั้งใจจะถ่ายออกมาสู่สายตาทุกคนทั่วโลก  ส่วนนายแบบมีการทำ       คาสติ้งออนไลน์เพื่อคัดเลือกแต่ละคนที่เหมาะที่สุดกับการสวมใส่แต่ละลุค ซึ่งยังคงเน้นคอนเซ็ปต์ของเวอร์จิล ที่ต้องการความหลากหลายหรือ Diversity ที่ได้นายแบบถึง 76 คน พร้อมใจมาร่วมเดินในโชว์

 

\"หลุยส์ วิตตอง\" โชว์คอลเลคชั่นล่าสุด กับผลงานสุดท้ายของ \"เวอร์จิล แอบโลห์\"

 

\"หลุยส์ วิตตอง\" โชว์คอลเลคชั่นล่าสุด กับผลงานสุดท้ายของ \"เวอร์จิล แอบโลห์\"

 

ด้านมุมมองทางศิลป์ที่เกี่ยวเนื่องกับโชว์ ที่ทาง "หลุยส์ วิตตอง" ฝั่งคอลเลคชั่นสุภาพบุรุษยังคงตอกย้ำเสมอ คือเรื่องราวของเด็กในวัยเยาว์ ความฝันและจินตนาการ ที่มักนำมาทำเป็นเรื่องราวในแคมเปญเพื่อถ่ายทอดพร้อมคอลเลกชั่น ซึ่งในครั้งนี้สำหรับประเทศไทยนี่เป็นครั้งแรกที่ทางหลุยส์ วิตตองได้คัดเลือกผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทยเพื่อทำงานร่วมกัน โดยได้ ศิวโรจณ์ คงสกุล ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยและเป็นที่รู้จักในเวทีภาพยนตร์สากล เขาเคยเข้าร่วมโครงการ  Cannes Festival Cinéfondation Residence ในปี 2011 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และในปี 2017-2019 ได้เข้าร่วมโครงการ La Fabrique Cinéma, IMDA South East Asian Co-Production Grant และ Hubert Bals Fund เพื่อพัฒนาบทภาพยนตร์ยาวเรื่องที่ 2 ของเขาที่กำลังจะดำเนินการถ่ายทำอยู่เรื่อง “อรุณกาล” (Regretfully at Dawn) มาครั้งนี้เขาคือผู้ถ่ายทอดเรื่องที่รวมเอาความฝันของเด็กธรรมดาคนหนึ่งมาเรียงร้อยไว้ในหนังสั้น 2 นาทีสำหรับฉายก่อนเข้าสู่แฟชั่นโชว์ในประเทศไทย งานชิ้นนี้ทำให้เขาหวนคิดถึงบ้านหลังแรก ครอบครัวในวัยเด็ก มิตรภาพของเพื่อน สิ่งต่างๆรอบตัวที่สวยงาม ก่อนที่เขาจะเดินทางมาเพื่อตามหาความฝัน โดยความทรงจำเหล่านั้นยังคงอยู่ที่เดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของการดีไซน์รูปแบบโชว์ รวมทั้งตรงดั่งคำที่เวอร์จิลเคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่า “You can do it, too”

 

\"หลุยส์ วิตตอง\" โชว์คอลเลคชั่นล่าสุด กับผลงานสุดท้ายของ \"เวอร์จิล แอบโลห์\"

 

\"หลุยส์ วิตตอง\" โชว์คอลเลคชั่นล่าสุด กับผลงานสุดท้ายของ \"เวอร์จิล แอบโลห์\"

 

\"หลุยส์ วิตตอง\" โชว์คอลเลคชั่นล่าสุด กับผลงานสุดท้ายของ \"เวอร์จิล แอบโลห์\"

 

“งานชิ้นนี้ทำให้ผมหวนคิดถึง บ้านหลังแรก ครอบครัวของผมในวัยเด็ก มิตรภาพของเพื่อน สิ่งต่างๆรอบตัวในตอนนั้นสวยงาม ก่อนที่ผมจะเดินทางจากมาเพื่อตามหาความฝัน ทุกอย่างยังอยู่ที่เดิมตรงนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป” ศิวโรจณ์ คงสกุลกล่าว

 

\"หลุยส์ วิตตอง\" โชว์คอลเลคชั่นล่าสุด กับผลงานสุดท้ายของ \"เวอร์จิล แอบโลห์\"

 

\"หลุยส์ วิตตอง\" โชว์คอลเลคชั่นล่าสุด กับผลงานสุดท้ายของ \"เวอร์จิล แอบโลห์\"

 

\"หลุยส์ วิตตอง\" โชว์คอลเลคชั่นล่าสุด กับผลงานสุดท้ายของ \"เวอร์จิล แอบโลห์\"

 

ในโชว์ครั้งนี้เราสามารถสัมผัสได้ว่า "หลุยส์ วิตตอง" ได้มอบแฟชั่นโชว์ครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึง “เวอร์จิล แอบโลห์” แต่ยังคงให้ความสำคัญและความเคารพในรูปแบบความเป็นไทย ซึ่งนับเป็นการปิดฉากโชว์อำลาของดีไซเนอร์ผู้เป็นตำนานนี้ไว้ได้อย่างงดงาม