เปิด 5 บทสนทนา แห่งความหลากหลาย "LGBTQIA+" บน ทวิตเตอร์
ทวิตเตอร์ เผย ในปีที่ผ่านบทสนทนาที่เกี่ยวกับเดือนแห่งความภาคภูมิใจของชุมชน "LGBTQIA+" หรือ Pride Month เพิ่มขึ้นถึง 76% 1 ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ Netflix แนวโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง Heartstopper หรือการเฉลิมฉลองโมเม้นต์ในช่วงเวลาที่กล้าหาญ
กรุงเทพฯ 27 มิถุนายน 2565 - ทวิตเตอร์เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านบทสนทนาที่เกี่ยวกับเดือนแห่งความภาคภูมิใจของชุมชน LGBTQIA+ หรือ Pride Month เพิ่มขึ้นถึง 76% 1 โดยผู้คนในชุมชนและผู้ที่สนับสนุนต่างเข้ามาบนทวิตเตอร์เพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุนกันและกัน รวมถึงการพูดคุยในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ Netflix แนวโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง Heartstopper หรือการเฉลิมฉลองโมเม้นต์ในช่วงเวลาที่กล้าหาญ
"ทวิตเตอร์" คือ ภาพสะท้อนของวัฒนธรรมและสิ่งที่มีความสำคัญต่อผู้คนในประเทศนั้น ๆ ผ่านการทวีตนับล้านในทุก ๆ วัน จากรายงานเทรนด์ทวิตเตอร์ในประเทศไทยปี 2564 พบว่ามีเทรนด์และบทสนทนาที่มีความสำคัญอยู่จำนวนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยให้ความสนใจในเรื่องราวของโลกรอบตัวและความปรารถนาที่อยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมในเชิงบวกเพิ่มมากขึ้น
ติดตามกระแสโซเชี่ยลเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/komchadluek/
ละครทีวีแนวซีรีส์วายได้รับความนิยมและเข้าถึงผู้คนเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการเปิดใจยอมรับในเรื่องความหลากหลายทางเพศ และท้าทายต่อสถานภาพของใครหลายๆ คน จากรายงานเทรนด์ทวิตเตอร์ในประเทศไทย ปี 2564 พบว่าบทสนทนาเกี่ยวกับซีรีส์วายเพิ่มสูงขึ้น 400% และยังพบอีกว่าคนไทยกระตือรือร้นในการสร้างความแตกต่างทำให้บทสนทนาเกี่ยวกับ Me and My Country เพิ่มขึ้นถึง 260% ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นบทสนทนาที่เกี่ยวกับสิทธิของชาว LGBTQIA+
ในปีนี้ทวิตเตอร์ขอร่วมฉลอง Pride Month ด้วยแฮชแท็ก #รักก็คือรัก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาชุมชน LGBTQIA+ ได้สร้างความก้าวหน้าในเรื่องต่างๆ ไปมาก แต่ก็ยังพบกับความท้าทายเรื่องของการการโดนกีดกันหรือลดสถานะของผู้คนในชุมชน ดังนั้นแฮชแท็ก #รักก็คือรัก จึงเป็นตัวแทนของการเรียกร้องให้คนในชุมชนได้ใช้พื้นที่บนทวิตเตอร์ในการแสดงออกได้อย่างเปิดเผย
ติดตามกระแสโซเชี่ยลเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/komchadluek/
5 บทสนทนาสำคัญของคนไทยที่ขับเคลื่อนเกี่ยวกับ LGBTQIA+ มีดังนี้
- 1. สร้างการตระหนักรู้
คนไทยให้ความสำคัญกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชาว LGBTQIA+ นอกเหนือจาก #Pride Month แล้ว คนไทยยังมีความพยายามสร้างการตระหนักรับรู้เกี่ยวกับชุมชนนี้และเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ผู้คนเข้ามาบนทวิตเตอร์เพื่อเชื่อมต่อและพูดคุยกันแบบเปิดใจ ทุกวันนี้พวกเขากำลังพยายามที่จะก้าวข้ามอดีตและหวังที่จะทำให้บทสนทนาของพวกเขากลายเป็นเรื่องราวปกติเหมือนกับคนอื่นๆ
เครดิตทวีตจาก: https://twitter.com/mook_olives/status/1533118542404460544
- 2. การให้ความรู้กับคนในชุมชน
ทวิตเตอร์เป็นสถานที่ในการเข้ามาหาข้อมูลเกี่ยวกับ LGBTQIA+ ทั้งบทสนทนาในเรื่องของความหมายของคำศัพท์ยอดฮิตและวิธีการใช้คำศัพท์ซึ่งเป็นการช่วยให้ความรู้กับผู้คนในชุมชนทวิตเตอร์ในวงกว้าง บทสนทนาที่เกี่ยวกับการเคารพในเพศสภาพของผู้อื่นและการพูดคุยกันในเชิงลึกถึงเรื่องของการแบ่งแยกเพศในสังคมไทยเป็นเพียงเรื่องหนึ่งในหลาย ๆ หัวข้อสำคัญที่คนไทยมักจะหยิบยกมาพูดคุยกันอยู่เสมอบนทวิตเตอร์
เครดิตทวีตจาก: https://twitter.com/kimijaee/status/1464171770181681152
- 3. การออกมาเรียกร้องสิทธิ
บทสนทนาบนทวิตเตอร์เกี่ยวกับประเด็นการเรียกร้องให้การสมรสของคนเพศเดียวกันเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและเรื่องความเท่าเทียม ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะในช่วง #PrideMonth เท่านั้น แต่ประเด็นเหล่านี้มีความสำคัญต่อใครหลายๆ คนและเป็นหัวข้อที่มีการพูดคุยและเรียกร้องอย่างต่อเนื่องจากผู้คนที่ต้องการที่จะขับเคลื่อนให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในเชิงบวกตลอดทั้งปี
เครดิตทวีตจาก: https://twitter.com/RedLimeShot/status/1533429556664684544
- 4. แบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัว
ทวิตเตอร์เป็นพื้นที่ที่คนไทยเข้ามาเปิดใจพูดคุยถึงเกี่ยวกับเพศสภาพของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมา เป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับบทสนทนาในทุกเรื่องและรอบด้าน และมีคนพร้อมที่จะรับฟังเสมอ คนไทยมักแบ่งปันประสบการณ์บนทวิตเตอร์ถึงการเปิดเผยเพศสภาพของตัวเองกับคนในครอบครัวและเพื่อน ๆ ตลอดจนปฏิกิริยาที่พวกเขาได้รับหลังจากที่ได้พูดออกไป ในทางกลับกัน บทสนทนาเหล่านั้นกำลังทำหน้าที่ช่วยเหลือและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นในชุมชนให้เกิดความรู้สึกซื่อสัตย์กับเพศสภาพของตัวเอง และกล้าที่จะบอกความจริงกับคนที่ใกล้ชิดกับพวกเขาที่สุด
เครดิตทวีตจาก: https://twitter.com/melon1ps/status/1533780237934219265
- 5. การสนับสนุนซึ่งกันและกันในชุมชน
ผู้คนจากทุกสาขาอาชีพต่างก็เข้ามาร่วมวงในบทสนทนาเหล่านี้และแบ่งปันเรื่องราวทั้งด้านดีและร้าย ทวิตเตอร์เป็นพื้นที่ ๆ ให้การยอมรับถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของคนในชุมชน ให้คำแนะนำรวมถึงให้ความสนับสนุนกันและกัน ทวิตเตอร์จึงกลายเป็นสถานที่ที่ช่วยให้กำลังใจแบบเรียลไทม์ของใครหลายๆ คน
เครดิตทวีตจาก: https://twitter.com/babybearwaldorf/status/1310083349227204608
ควบคุมประสบการณ์การใช้ทวิตเตอร์ด้วยตัวคุณเอง
จุดประสงค์ของ "ทวิตเตอร์" คือการให้บริการบทสนทนาสาธารณะ และข้อบังคับของทวิตเตอร์สร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในบทสนทนาสาธารณะได้โดยปราศจากพฤติกรรมที่จะขัดขวางไม่ให้ผู้คนแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง อาทิ นโยบายเกี่ยวกับพฤติกรรมที่แสดงถึงความเกลียดชังที่ไม่อนุญาตให้ผู้คนส่งเสริมความรุนแรง โจมตีกันโดยตรง หรือข่มเหงผู้อื่นในเรื่องที่เกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ เพศ อัตลักษณ์ทางเพศและอื่นๆ
ไม่นานมานี้ "ทวิตเตอร์" ได้เปิดตัวการรายงานการละเมิดข้อบังคับของทวิตเตอร์แบบใหม่ที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถรายงานเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและไม่พึงประสงค์ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยหลังจากที่ได้ทำการทดสอบระบบในสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่ผ่านมาพบว่าจำนวนของรายงานที่สามารถดำเนินการได้เพิ่มขึ้นกว่า 50% ซึ่ง "ทีมงานของทวิตเตอร์" มีความตั้งใจในการเข้าถึงผู้คนในกลุ่มผู้หญิง กลุ่มคนผิวสี และผู้คนจากชุมชน LGBTQIA+ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการวิจัยและในทุกกระบวนการของการออกแบบระบบการรายงานแบบใหม่ในครั้งนี้
ตัวอย่างของวิธีอันหลากหลายในการควบคุมประสบการณ์การใช้งานทวิตเตอร์ มีดังนี้
- 1.ตั้งค่าบทสนทนา โดยเลือกได้ว่าจะให้ใครสามารถตอบกลับทวีตของคุณได้บ้าง เพื่อให้คุณเข้าไปมีส่วนร่วมในบทสนทนาที่มีความหมายได้มากขึ้น และเพื่อหลีกเลี่ยงการตอบกลับที่ไม่พึงปรารถนา
- 2.ซ่อนข้อความตอบกลับ ที่คุณรู้สึกว่าเป็นการตอบที่ออกนอกประเด็น เป็นสแปม หรือเบี่ยงเบนความสนใจไปจากบทสนทนาของคุณได้
- 3.ซ่อนคำ ประโยค ชื่อผู้ใช้งาน อีโมจิ และแฮชแท็กที่อาจจะเป็นการทำร้ายจิตใจและอาจจะก่อให้เกิดประสบการณ์ที่ไม่สะดวกใจในการใช้ทวิตเตอร์
- 4.ฟีเจอร์การบล็อคแอคเคาท์ จะช่วยจำกัดบางแอคเคาท์ไม่สามารถติดต่อกับบุคคลใดๆ ช่วยป้องกันไม่ให้เห็นทวีตและเป็นผู้ติดตามได้
ในเดือนมิถุนายนนี้ ผู้คนได้มาร่วมกันเฉลิมฉลองพาเหรด #PrideMonth ทั่วทั้งภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นการไปร่วมงานด้วยตัวเองหรือผ่านออนไลน์ แต่อย่าลืมว่าการสนับสนุนชุมชน LGBTQIA+ นั้นเกิดขึ้นได้ในทุก ๆ เดือน ไม่เฉพาะแค่เดือนมิถุนายนเท่านั้น
- 1. ข้อมูลจาก Brandwatch, ทวีตทั่วโลก 1 ม.ค. - 31 พ.ค. 2564 เปรียบเทียบกับ 1 ม.ค. -31 พ.ค. 2565
- 2. ข้อมูลจาก การเติบโตของบทสนทนา เปรียบเทียบระหว่าง ม.ค. 2563- ม.ค. 2564 กับ ก.ค. 2561 - ธ.ค. 2562. รายงาน Circus Social เพื่อทวิตเตอร์ บทสนทนาเทรนด์ทวิตเตอร์ ข้อมูลจาก Brandwatch ก.ค. 2561 - มิ.ย. 2564
ติดตามข่าวคมชัดลึกอื่นๆได้ที่ https://www.komchadluek.net/