“ตุงกัตอาลี”อาหารนก 5 ดาว ของดีปัตตานีส่งออกต่างแดน | คมชัดลึก

   มุสตอฟา ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน เขามีอาชีพขนส่งวัตถุดิบอาหารสัตว์ อาทิ รำข้าว กากถั่วเหลือง ไปยังประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์แปรรูป พอช่วงถึงเวลาเดินทางกลับประเทศไทย จึงนำอาหารสัตว์แปรรูปโดยเฉพาะอาหารนกกรงหัวจุกจากประเทศเพื่อนบ้านกลับมาจำหน่ายในตลาดเมืองไทย พอนานวันกระแสการเลี้ยงนกกรงหัวจุกมาแรงแทนนกเขาชวา ซึ่งไม่ได้จำกัดวงอยู่ใน จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส หรือสงขลา เท่านั้น หากแต่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เมื่อความต้องการอาหารนกในกลุ่มผู้เลี้ยงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สินค้าที่นำเข้าจากมาเลเซียและสิงคโปร์มีจำกัด เขาจึงตัดสินใจศึกษาตลาดและกรรมวิธีในการผลิต ซึ่งเห็นว่ายังมีช่องทางและโอกาสทางการค้า

 ในที่สุดปี 2547 เขาจึงตัดสินใจลงทุนแปรสภาพบ้านที่อาศัยอยู่เลขที่ 52/54 หมู่ 10 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นแหล่งผลิตอาหารนกเน้นที่อาหารนกกรงหัวจุก โดยช่วงแรกหลังจากผลิตแล้วจึงได้ทดลองแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่เลี้ยงนกกรงหัวจุกละแวกใกล้เคียงบ้านพักซึ่งถือเป็นขั้นตอนการทดลองก่อน จนกระทั่งมั่นใจว่าได้ผลดี เพราะนกมีสุขภาพแข็งแรง เสียงดีขึ้นเป็นลำดับ จึงผลิตเพื่อจำหน่ายภายใต้แบรนด์ตุงกัสอาลี ซึ่งเป็นชื่อของสมุนไพรในท้องถิ่นชนิดหนึ่งที่คนอยู่ในวงการเลี้ยงนกกรงหัวจุกทราบดีว่า มีสรรพคุณที่ทำให้นกกรงหัวจุกมีสุขภาพดีนั่นเอง และหลังที่จำหน่ายแล้ว เขาได้ส่งสินค้าเข้าประกวดจนได้รับคัดเลือกเป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์หนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หรือโอท็อป 5 ดาวระดับประเทศ 5 ปีติดกัน

       “อาหารนกที่ผลิตจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งมาเลย์และสิงคโปร์ กับอาหารนกที่ผลิตเองที่บ้านแตกต่างกันครับ โดยเฉพาะส่วนผสม อย่างของมาเลย์ใช้กากถั่วเหลือง แต่ที่เราผลิตเองใช้ถั่วเหลืองคุณภาพดีไม่ใช่กาก เพราะเราเป็นแหล่งปลูกอยู่แล้ว สำหรับส่วนผสมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรำข้าว กล้วยคุณภาพดีในท้องถิ่น มะละกอพันธุ์ดี ที่สามารถหาได้ในพื้นที่ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารนกแบรนด์ตุงกัสอาลี เป็นสินค้าที่เปี่ยมล้นคุณภาพ ที่สำคัญถูกปากนกและผู้เลี้ยงพอใจ ขณะที่มาเลย์และสิงคโปร์ ไม่สามารถปลูกวัตถุเหล่านี้ได้เอง” มุสตอฟากล่าว

       นอกจากคุณภาพสินค้าแล้ว ตุงกัตอาลี ยังเป็นอาหารนกชนิดแรกในประเทศไทยที่เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์จากแบบซองที่คุ้นเคยมาเป็นบรรจุอาหารนกในกระปุก ซึ่งเป็นการรักษาคุณภาพ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีแบบบรรจุซองด้วย เพื่อง่ายต่อการนำติดตัวไปมาโดยเฉพาะการพกพาไปยังสนามแข่งนกกรงหัวจุกที่มีตารางจัดการแข่งขันแทบทุกสัปดาห์ และด้วยรูปแบบและคุณภาพของอาหารนกกรงหัวจุกแบรนด์ตุงกัตอาลี จึงทำให้ มุสตอฟา ใช้เวลาไม่นาน เขาสามารถผลิตอาหารนกที่ครองใจผู้เลี้ยงนกได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะปรากฏการณ์อันเกิดจากปากต่อปากหลังได้ลองใช้ 

 “ตอนนี้นกกรงหัวจุกไม่ได้มีแค่คนเลี้ยงในบ้านเรา เห็นได้จากสนามแข่งทั่วภาคใต้ วันนี้มีผู้เลี้ยงนกจากมาเลย์ สิงคโปร์ ลาว และออสเตรเลีย บางส่วน ตรงนี้เองเมื่อผมได้เห็นนกที่ชนะเลิศซึ่งส่วนใหญ่ใช้บริการตุงกัตอาลี ผมจึงขยายตลาดอาหารนกตุงกัตอาลี จากที่ขายในภาคใต้ ไปทุกภาคของประเทศ และสู่การส่งออกไปต่างประเทศ ขณะนี้ตลาดหลักอย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และประเทศลาว และปรากฏว่ามีเสียงตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ” มุสตอฟากล่าวอย่างภาคภูมิใจ

 สำหรับอาหารนกที่กำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในเวลานี้ ประกอบไปด้วย 4 สูตร คือ สูตรขยันร้อง, สูตรสมุนไพรผสมถั่วเขียว, สูตรรอบชิง และสูตรทูอินวัน โดยแต่ละสูตรบรรจุกระปุกขนาด 300 กรัม จำหน่ายในราคากระปุกละ 80 บาท และล่าสุดได้เตรียมผลิตสินค้าบรรจุซองขนาดเล็ก เพื่อสะดวกในการพกพาคือขนาด 120 กรัม

   วันนั้นจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของ มุสตอฟา ที่ใช้บ้านเป็นที่ผลิตอาหารนก กระทั่งมาถึงวันนี้ มุสตอฟา ได้ขยายพื้นที่ผลิตสร้างเป็นโรงงานผลิตสินค้าที่มีคุณภาพด้วยงบประมาณการลงทุนถึง 20 ล้านบาท สามารถสร้างให้คนในท้องถิ่นกว่า 20 คน มีกำลังผลิตวันละ1,500 กิโลกรัม โดยใช้วัตถุดิบที่จัดซื้อจากเกษตรกรในพื้นที่ปัตตานี ซึ่งในแต่ละเดือนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารตุงกัตอาลีทั้งในประเทศและส่งออกมีเงินหมุนเวียนตกเดือนละ 4-5 ล้านบาท

         ล่าสุด มุสตอฟา กำลังวางแผนเจาะตลาดไปยังประเทศจีน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูง แต่จะเพิ่มการผลิตสินค้าอาหารนกประเภทสวยงามด้วย คาดว่าปลายปีนี้จะสามารถผลักดันผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ต่อแวดวงคนเลี้ยงนกได้อย่างแน่นอน

 นาทีนี้ "ตุงกัตอาลี" จึงไม่ใช่แค่อาหารนกระดับท้องถิ่นที่สามารถพาตัวเองก้าวไปยืนอยู่แถวหน้าได้อย่างน่าชื่นชมเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างงานสร้างอาชีพแก่ผู้ผลิตและคนในชุมชน หากผู้รักนกกรงหัวจุกรายใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-7333-3608

เคล็ดไม่ลับอาบน้ำ-ให้อาหารนก
 สูตรเด็ดเคล็ดลับสำหรับอาหารนกคุณภาพแบรนด์ "ตุงกัตอาลี" โดยเฉพาะสูตร "สมุนไพรถั่วเขียว" มีส่วนประกอบสำคัญ อาทิ ถั่วเขียว ถั่วซีก ปลายข้าว แป้งสาลี เปลือกไข่ ยอดตำลึง นมแพะ ฟ้าทลายโจร พริกขี้หนู ไขมันสัตว์ น้ำผึ้ง วิตามินเอ บี ซี

 จุดเด่นของสูตรนี้จะเน้นสรรพคุณที่เป็นยาสมุนไพรชั้นดี สามารถป้องกันและรักษาได้ผลอย่างดี และที่สำคัญช่วยบำรุงตัวนกให้สมบูรณ์อยู่ตลอดเวลา

 เช่นเดียวกับส่วนสูตรขยันร้อง ประกอบด้วยวัตถุหลัก คือ ถั่วเหลืองบดละเอียด ไข่ไก่ ปลายข้าวบดละเอียด เปลือกหอย พริกไทย หัวอาหารสำหรับนกร้อง ไขมันสัตว์ ไขมันพืช และน้ำผึ้ง คุณสมบัติสูตรนี้จะสร้างความกระปรี้กระเปร่า ร้องดังกังวาน และสู้แดด
 
 วิธีการใช้นั้นสามารถใช้อาบน้ำนกและให้นกกินได้ โดยการอาบน้ำให้นำไปผสมน้ำให้นกวันละ 2 เวลา ส่วนการให้เป็นอาหารนั้นเป็นไปตามปกติแต่จะเน้นให้มากเป็นพิเศษในช่วงวันแข่งขันโดยให้นกกินก่อนลงสนามประมาณ 5-6 เม็ดจะได้ผลดี

"สุพิชฌาย์ รัตนะ"