เช็คจุดชม! การซ้อมใหญ่ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค วันที่ 22 ตุลาคมนี้
เช็คจุดชม! การซ้อมใหญ่ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ โดยมีพื้นที่สำหรับรองรับประชาชนตามจุดต่างๆ รวมทั้งตลอดแนวทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่!
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรวิหาร ในวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567
โดยการซ้อมใหญ่เสมือนจริง การฝึกซ้อมขบวนเรือพระราชพิธีเป็นการจัดรูปขบวนตามรูปแบบโบราณราชประเพณีทุกประการทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของกำลังพลฝีพายและทุกภาคส่วน รวมถึงเพื่อให้การจัดงานในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สง่างาม และสมพระเกียรติ
การจัดรูปขบวนเรือพระราชพิธีในครั้งนี้ จำนวน 52 ลำ รวมถึงเรือพระที่นั่ง 4 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ แบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย ความยาว 1,200 เมตร กว้าง 90 เมตร ใช้กำลังพลประจำเรือในขบวนเรือพระราชพิธีรวมทั้งสิ้น 2,399 นาย โดยจัดรูปขบวนเรือตามโบราณราชประเพณี ซึ่งจะมีการซ้อมใหญ่ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ครั้งที่สองในวันที่ 22 ตุลาคม 2567 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
ความงดงามของริ้วขบวนเรือพระราชพิธี เคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เริ่มต้นออกจากสะพานพระราม 8 ผ่านป้อมพระสุเมรุ สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงพยาบาลศิริราช กรมอู่ทหารเรือ ราชนาวิกสภา พระบรมมหาราชวัง หอประชุมกองทัพเรือ และถึงวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร สำหรับการซ้อมใหญ่วันนี้ ใช้เวลาในการเคลื่อนขบวนจากจุดเริ่มต้นถึงที่หมายประมาณ 55 นาที
โดยกรุงเทพมหานคร ได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับรองรับประชาชนตามจุดต่าง ๆ ได้แก่
- ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี จำนวน 4,000 ที่นั่ง สวนสันติชัยปราการ จำนวน 1,500 ที่นั่ง
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จำนวน 1,130 ที่นั่ง
- สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา จำนวน 1,100 ที่นั่ง โรงพยาบาลศิริราช (อุทยานสถานภิมุข) จำนวน 100 ที่นั่ง
รวมทั้งตลอดแนวทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยสามารถเข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมกันนี้ กรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมรถสุขาเคลื่อนที่ไว้บริการประชาชนด้วย
ภาพจาก NationPhoto
ธิติ วรรณมณฑา (Thiti Wannamontha)
สุรสิทธิ์ รัศมีกิตติกุล (Surasit Ratsameekittikul)