"กุ้งเหยียดป้าสุนทร"ฝีมือชาวเล โอท็อปหนึ่งเดียวระดับประเทศ
เกือบ 20 ปีที่ "ป้าสุนทร" สุนทร สุวรรณนาวิน ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรนาเกลือพัฒนาสาขลา ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ปักหลักแปรรูปกุ้งขาว กุ้งรู ทำเป็นผลิตภัณฑ์ "กุ้งเหยียดป้าสุนทร" มีแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการคัดสรรให้เป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์
ป้าสุนทรบอกว่า การทำกุ้งเหยียดนั้น เป็นการต่อยอดของภูมิปัญญาชาวบ้าน เนื่องจากหมู่บ้านสาขลาเป็นหมู่บ้านอยู่ใกล้ทะเล ซึ่งเดิมทีชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านการประมง บางส่วนทำนาเกลือ แต่เนื่องจากน้ำทะลักเข้ามาบ่อยครั้ง ทำให้การทำนาเกลือค่อนข้างลำบาก ต่อมานาเกลือกลายเป็นนาร้าง และมีน้ำทะเลทะลักเข้ามา ทำให้สัตว์น้ำชายฝั่งเข้าอาศัยจำนวนมาก ทั้งปูทะเล ปลา และกุ้ง ทั้งกุ้งขาว กุ้งรู กุ้งบ๊วย ชาวบ้านจึงจับมาทำเป็นอาหารและขาย แต่เนื่องจากในอดีตยังขาดความเจริญ ไม่ไฟฟ้า ชาวบ้านไม่มีตู้เย็นที่จะเก็บอาหารไว้ได้นาน จึงนำกุ้งที่จับมาได้มาต้มเค็ม เพื่อเป็นการถนอมอาหารอีกอย่างหนึ่ง
ปัจจุบันพื้นที่นาเกลือร้างกลายเป็นนากุ้ง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วังกุ้ง เป็นที่เลี้ยงกุ้งแบบธรรมชาติ คือให้กุ้งมาอาศัยเอง โดยไม่ต้องปล่อยลูกพันธุ์ และไม่ต้องให้อาหารด้วย ประกอบในหมู่บ้านสาขลามีวัดเก่าที่เป็นแหล่งเที่ยวคือวัดสาขลา เป็นวัดที่สร้างขึ้นมาพร้อมๆ กับการตั้งหมู่บ้าน มีหลวงพ่อโตเป็นพระประธานประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธ แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเข้าในหมู่บ้านสาขลาจำนวนมาก ชาวบ้านจึงนำผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากสัตว์น้ำ รวมถึงสัตว์สดๆ มาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวมีหลากหลายรูปแบบ ในส่วนของป้าสุนทรจะเลือกขายกุ้งเหยียด ซึ่งดัดแปลงจากกุ้งต้มเค็มนั่นเอง
"รุ่นคุณพ่อคุณแม่ของเรานั้น ทำเป็นกุ้งต้มเค็มธรรมดา หน้าตาคดงอ เหมือนกุ้งต้มเกลือทั่วไป แต่ป้ามาดัดแปลง จากเดิมใส่เกลืออย่างเดียว มาเติมน้ำตาลเล็กน้อยให้รสชาติออกมัน เค็มนิดๆ หวานหน่อยๆ กลมกล่อมดี สามารถกินกับข้าวสวย ข้าวต้ม หรือเป็นของกินเล่นๆ หรือกับแกล้มก็ได้ ส่วนรูปทรงของกุ้งเหยียดนั้น จะเป็นรูปทรงตรง ไม่งอเหมือนกุ้งต้มเค็มธรรมดา ทุกวันนี้ป้าทำขายหน้าบ้านเป็นสินค้าของฝากที่เป็นอาหารมาตั้งแต่ปี 2535 แล้ว ถือเป็นเจ้าแรกที่ทำกุ้งเหยียดขายในหมู่บ้านสาขลา หรือในประเทศไทยก็ว่าได้ ปรากฏว่าขายดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนหลังมีเจ้าอื่นก็ทำเช่นกัน ป้าจึงรวบรวมบรรดาแม่บ้านที่ทำกุ้งเหยียดมาตั้งกลุ่มแม่บ้านเกษตรนาเกลือพัฒนาสาขลาขึ้นมา เพื่อแปรรูปกุ้งทำเป็นกุ้งเหยียดให้เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน" ป้าสุนทรกล่าว
หลังจากรัฐบาลสมัยนั้นมีนโยบายส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชน ภายใต้โครงการหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หรือโอท็อป ป้าสุนทรจึงนำผลิตภัณฑ์กุ้งเหยียดป้าสุนทรในนามกลุ่มแม่บ้านเกษตรนาเกลือพัฒนาสาขลา เข้าประกวดในปี 2547 ปรากฏว่าได้รับการคัดสรรเป็นโอท็อป 5 ดาว ระดับประเทศ และโอท็อประดับ 4 ดาวมาตลอดถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลมากมายในเวลาต่อมา เช่น รางวัลที่ 1 ของอาหารไทยประเภทเนื้อสัตว์ ประจำปี 2544 เป็นต้น และจากการที่กุ้งเหยียดป้าสุนทรเป็นสินค้าโอท็อประดับประเทศทำให้กลุ่มแม่บ้านเกษตรนาเกลือพัฒนาสาขลามีโอกาสออกงานแสดงสินค้าโอท็อปที่รัฐบาลขึ้นมา รวมถึงของกรุงเทพมหานครจัดขึ้นมาด้วย และผลจากการออกงานหลายครั้ง สิ่งที่ตามมาส่งผลให้กุ้งเหยียดป้าสุนทรเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และมีลูกค้าที่สั่งออเดอร์ไม่ขาดสาย เพื่อนำไปขายต่อ
"ใครๆ ที่มาเที่ยวบ้านสาขลาต่างก็หากุ้งเหยียด หากใครมาที่บ้านสาขลาแล้วไม่กินกุ้งเหยียดถือว่าคนนั้นมาไม่ถึงสาขลา เพราะกุ้งเหยียดมีที่นี่ที่เดียวในประเทศไทย อย่างของป้านอกจากงานจะมีออเดอร์สั่งเข้ามาแล้ว ทุกวันนี้ป้าก็ขายหน้าบ้านด้วย ขายดีมาก โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เฉลี่ยแล้วแต่ละวันที่ขายหน้าบ้านตกวันละ 20 กก. ขายในราคา กก.ละ 300 บาท มีขายตั้งแต่กล่องบรรจุขนาดเล็กกล่องละ 30 บาท จนถึงกล่องละ 1 กก. ราคา 300 บาท หากขายส่งลดลงบ้าง แต่ไม่มากนัก" ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรนาเกลือพัฒนาสาขลา กล่าว
กลุ่มแม่บ้านเกษตรนาเกลือพัฒนาสาขลา ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ นับเป็นกลุ่มแม่บ้านที่ประสบผลสำเร็จอีกกลุ่มหนึ่ง ที่สามารถนำภูมิปัญญาของบรรพบุรุษมาต่อยอด สร้างเป็นอาชีพให้แก่ชุมชนได้ และที่สำคัญนอกเหนือไปจากการสร้างอาชีพแล้ว กุ้งเหยียดป้าสุนทรยังสร้างเอกลักษณ์เป็นสินค้าคู่กับชุมชนบ้านสาขลาได้อีกด้วย
มาทำกุ้งเหยียดสูตรป้าสุนทร
ป้าสุนทร สุวรรณนาวิน บอกว่า กุ้งเหยียดป้าสุนทรในปัจจุบันทำจากกุ้งขาวและกุ้งรู กุ้งขาวเนื้อนิ่ม กุ้งรูให้เนื้อหนึบ เป็นกุ้งมาจากอ่าวไทยที่เข้ามาในวังกุ้ง หรือบ่อเปิดของเกษตรกร ส่วนวิธีทำกุ้งเหยียดนั้นเริ่มจาก
1.เตรียมหาอุปกรณ์ที่เป็นส่วนผสม คือ หม้อใส่กุ้ง 4 กก., น้ำตาลทราย 1.5 กก., เกลือ 170 กรัม
2.นำกุ้งที่มาจากวังกุ้ง หรือซื้อจากกลุ่มสมาชิก นำไปล้างให้สะอาด
3.นำกุ้งไปวางให้ตรงเรียงในหม้อเรียง 4-5 ชั้น ระหว่างชั้นจะโรยน้ำตาลทรายและเกลือป่น โดยไม่ต้องใส่น้ำแต่อย่างใด
4.นำเขียงทับกุ้ง ครกหรือของหนักทับอีกชั้น เพื่อไม่ให้กุ้งงอ
5.จากนั้นนำไปต้มให้สุก จนเหลือเพียงเล็กน้อย จึงยกเขียงและครกออก
6.เปิดไฟเบาๆ เคี่ยวจนน้ำในหม้อเหนียวหนึบ ยกลงมารอให้เย็นใช้เวลาทั้งหมด 1 ชั่วโมงครึ่ง
7.นำบรรจุกล่อง หรือรับประทานได้เลย โดยตัวกุ้งยังตรงเหยียด เป็นมันวาว รสชาติหวาน มัน เค็ม อย่างลงตัว
แค่นี้เราก็ได้กุ้งเหยียดตามแบบฉบับของป้าสุนทรแล้ว สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2848-4240
" ดลมนัส กาเจ"