ไลฟ์สไตล์

ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ก็ไม่พ้นภัยแดด

ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ก็ไม่พ้นภัยแดด

29 มิ.ย. 2553

อากาศบ้านเราเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก ถ้าไม่ร้อนมากก็ร้อนน้อยสลับกันไป แต่ถ้าช่วงไหนมีฝนตก หรือท้องฟ้าขมุกขมัว ดูครึ้มฟ้าครึ้มฝน

อาจทำให้หลายคนดีใจ เพราะจะได้สัมผัสกับอากาศเย็นสบาย แถมไม่ต้องคอยแต่งตัวมิดชิดเพื่อป้องกันแสงแดด ที่แผดเผาจนผิวไหม้เกรียม
 แม้ว่าในบางวันที่มีเมฆมาบดบังแสงอาทิตย์ไม่ให้ส่องแสงอันเจิดจ้าลงมากระทบผิว แต่รังสีอัลตราไวโอเลต (ยูวี) ก็สามารถทะลุผ่านเมฆหมอกมาทำลายผิวได้ ยิ่งปัจจุบันชั้นบรรยากาศที่ทำหน้าที่กรองรังสียูวีถูกทำลายมากขึ้น ทำให้รังสีตกกระทบมาบนผิวโลกมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ฝ้า กระได้ง่าย คนส่วนใหญ่มักคิดว่า เมื่อปลอดแสงแดด ผิวก็ปลอดภัย จึงละเลยไม่ป้องกันผิวพรรณเหมือนปกติทุกวัน

วิธีปกป้องผิวจากแสงแดด
 1.เริ่มจากพื้นฐาน คือ การไม่ออกแดดในเวลาที่แดดจัดๆ ช่วงเวลาประมาณ 08.00-17.00 น. เพราะโลกตอนนี้เปลี่ยนไปจากเดิม จากปกติช่วง 15.00 น.แดดก็จะหมด แต่ทุกวันนี้ไม่เป็นเช่นนั้น 17.00 น.แดดยังแรงและอาจทำร้ายผิวของเราได้
 2.สวมใส่เสื้อผ้าที่ช่วยปกปิด เช่น เสื้อแขนยาว หรือหมวกปีกกว้าง
ลักษณะครีมกันแดดที่ดี
 1.ครีมกันแดดที่ดี ต้องดูดซับรังสียูวีได้ดี หรือมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และกันแดดต้องมีความคงตัว เมื่อนำมาทำครีม หรือผลิตภัณฑ์
 2.ต้องละลายน้ำได้น้อย หรือไม่ละลายเลย ไม่ถูกชำระล้างด้วยเหงื่อ และที่สำคัญไม่เป็นพิษ ไม่ระคายเคือง ไม่กระตุ้นภูมิแพ้ ไม่ก่อให้เกิดสิว
 3.ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่แสบ ไม่เป็นตะกอนอยู่บนผิว และแห้งเร็ว
 4.สำหรับการป้องกันแสงแดดควรทาครีมประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนเจอแดด และต้องแน่ใจว่าครีมที่คุณทานั้นยังไม่หมดอายุ ครีมกันแดดที่ดีควรมีอายุไม่เกิน 2 ปี เป็นอย่างมาก
ขั้นตอนการเลือกครีมกันแดด
 1.ลองทดสอบเนื้อครีมกันแดดให้เหมาะสมกับผิว
 2.ดูค่าป้องกันยูวีเอ และยูวีบี ว่าป้องกันเท่าไหร่
 3.ค่า SPF (Sun Protecting Factor) เป็นค่าที่บ่งบอกว่าผิวปกป้องแสงแดดได้นานกี่เท่า ยังมีหลายๆ คนเข้าใจผิดว่า การใช้ค่า SPF สูงๆ จะสามารถป้องกันแสงแดดได้มากขึ้น แต่จริงๆ แล้วไม่ได้แปรผันตามค่า SPF ที่สูงขึ้นเลย โดยครีมกันแดดที่มีค่า SPF15 นั้น สามารถป้องกันรังสียูวีบีได้ 93.3% ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับค่า SPF 30 จะป้องกันได้เพียง 96.7% เท่านั้น
 ดังนั้น ค่า SPF ที่สูงมากขึ้น ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน สิ่งที่ตามมาก็คือ ราคา และความเหนียวเหนอะหนะเพิ่มมากขึ้น อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคือง หากไม่จำเป็นก็ใช้ SPF ที่พอเหมาะ เพื่อให้ผิวหนังของเราไม่ต้องแบกรับภาระของสารเคมีที่มากเกินไป
 การทาครีมกันแดดทุกวันยิ่งช่วยปกป้องความหมองคล้ำ และป้องกันไม่ให้สารยูวีเอและยูวีบีเข้าไปทำร้ายเม็ดสี ทำให้เกิดการเหี่ยวย่น ผิวบางและเป็นเส้นเลือดฝอยก่อนเวลาอันควร
 สำหรับคนที่มีผิวคล้ำควรทาไวท์เทนนิ่งก่อนจึงค่อยทาครีมกันแดด เพราะเวลาผิวถูกแดดร่างกายจะกระตุ้นการสร้างเม็ดสี ซึ่งในเนื้อครีมมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์เม็ดสีออกโดยเร็ว และบล็อกการสร้างเม็ดสีใหม่ไม่ให้เกิดขึ้นอีก
 ทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน ควรใช้ครีมกันแดดทาผิวเหมือนปกติทุกวัน แม้ในบางวันที่มีเมฆ หมอก อากาศครึ้ม ไม่มีแสงแดดก็ตาม ครีมกันแดดจะช่วยไม่ให้วายร้ายอย่างแสงอัลตราไวโอเลตทำลายผิวสวยของคุณให้หมองคล้ำได้
พญ.กานต์ชนก พานิช
กานต์ชนกคลินิก