
หลบร้อนมุ่งสู่"สุพรรณบุรี-อ่างทอง"(1)แวะสวนเคหการเกษตร-ดูโรงสีข้าวไทย
ได้ฤกษ์อีกครั้งสำหรับโครงการ "ท่องโลกเกษตรกับ คม ชัด ลึก" ทริปนี้ทีมงานท่องโลกเกษตรจะพาลัดเลาะไปศึกษาดูงานด้านการเกษตร และโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ พร้อมแวะชมผลิตภัณฑ์ (โอท็อป) ฝีมือชาวบ้านกันอย่างเต็มอิ่มในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี สุพรร
โดยสถานที่แรกเป็น "สวนเคหการเกษตร" ของ อ.เปรม ณ สงขลา เจ้าของวารสารเคหการเกษตร ตั้งอยู่ริมถนนสายลาดหลุมแก้ว-ปทุมธานี บนเนื้อที่กว่า 70 ไร่ ที่เจ้าของสวนพยายามเนรมิตเป็นสวนเกษตรผสมผสาน โดยนำความรู้และเทคโนโลยีทางด้านการเกษตรใหม่ๆ ประกอบกับประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานสายงานข่าวมาประยุกต์ปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่ให้เป็นสวนเกษตรครบวงจรเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงานของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง
สวนดังกล่าวได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 แปลง โดยแปลงแรกสำหรับปลูกข้าวอินทรีย์เนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ แปลงที่สองใช้ปลูกพืชระยะสั้นและระยะกลาง มีประมาณ 6 ไร่ อาทิ พืชผักสมุนไพร จำพวกมะเขือยาว มะเขือม่วง มะเขือเทศ พริก ถั่วฝักขาว ตะไคร้ ใบมะกรูด มะละกอ ข้าวโพด ฯลฯ ส่วนแปลงสุดท้ายเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ใช้ปลูกพืชระยะยาว จำพวกไม้ผล
"ผมทำสวนตรงนี้มาเกือบ 20 ปีแล้ว ไม่ได้ทำเพื่อหวังกำไรหรอก แต่ทำเพราะอยากจะนำความรู้หรือเทคนิคทางการเกษตรใหม่ๆ ที่ไปเห็นมาทดลองทำดู จะเห็นว่าในสวนผมจะเต็มไปด้วยต้นไม้แปลกๆ หายากมากมาย พืชบางตัวก็มีต้นเดียวหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว" อ.เปรม เผยระหว่างนำเยี่ยมชมสวน
แม้รายได้หลักจะมาจากข้าว แต่ก็มีกำไรไม่มากนัก เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนพืชผักระยะสั้นและระยะกลางนั้นจะมีเข้ารายได้เข้ามาทุกวัน แม้จะไม่มาก แต่ก็เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญเป็นการนำเทคนิคการเกษตรใหม่ๆ มาทดลองใช้ดู หลังจากไปเห็นที่อื่นทำ จนประสบผลสำเร็จมาแล้ว
เริ่มจากแปลงพริก สายพันธุ์อินเดีย แปลงมะเขือม่วง มะเขือเทศราชินี สลับด้วยปอเทือ จากนั้นจะเป็นสวนมะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์ เนื่องจากทนต่อโรคและแมลงได้ดี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยปลูกพันธุ์ขอนแก่น 80 และแขกดำ แต่ก็ต้องประสบปัญหาโรคไวรัสวงแหวน จนได้รับความเสียหายเกือบทั้งแปลง แล้วมาปิดท้ายด้วยไม้ผลชนิดต่างๆ ได้แก่ มะม่วงสายพันธุ์ต่างๆ ชมพู่ทับทิมจันทร์ มะนาวแป้น สละ ขนุน ฯลฯ
หลังจากที่ได้ใช้เวลาเยี่ยมชมสวนอยู่พอสมควร จากนั้นก็เดินทางต่อไปยัง โรงสีแสงทองวัฒนา(เม่งกี่) โรงสีข้าวมาตรฐานการส่งออก การันตีด้วยมาตรฐานจีเอ็มพีและฮาซับ (GMP/HACCP) ของ คุณชำนาญ จันทร์แสงวัฒนา ตั้งอยู่ริมถนนสายบางเลน-กำแพงแสน (ใกล้แยกนพวงศ์) เพื่อเยี่ยมชมกระบวนการผลิตในทุกขั้นตอนเริ่มตั้งแต่รับข้าวเปลือกจากเกษตรกร จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการสี จนกลายมาเป็นข้าวสาร ก่อนนำไปบรรจุกระสอบเพื่อส่งให้ลูกค้าเพื่อจำหน่ายแก่ผู้บริโภคต่อไป ปัจจุบันโรงสีแห่งนี้มีกำลังการผลิตสูงสุดอยู่ที่ 300 ตันต่อวัน โดยรับซื้อวัตถุดิบข้าวเปลือกจากเกษตรกรใน จ.ปทุมธานี และพื้นที่ใกล้เคียง
2 วัน 1 คืนกับท่องโลกเกษตร "คม ชัด ลึก"
เสาร์ที่ 31 กรกฎาคม 2553
06.00 น.-พร้อมกันที่อาคารเนชั่นฯ ถ.บางนา-ตราด (กม.4.5)
(รับประทานชา กาแฟ โอวัลติน ปาท่องโก๋ร้อนๆ ก่อนออกเดินทาง)
06.30 น.-เดินทางไปยังสวนเคหการเกษตร อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
08.30 น.-ฟังบรรยาสรุปจาก อ.เปรม ณ สงขลา เจ้าของสวน พร้อมเยี่ยมชมกิจกรรมภายในสวน
10.00 น.-เดินทางไปยังโรงสีแสงทองวัฒนา (เม่งกี่) โรงสีข้าวมาตรฐานส่งออก (GMP/HACCP)
10.30 น.-ฟังบรรยายสรุปจากคุณชำนาญ จันทร์แสงวัฒนา เจ้าของโรงสี พร้อมเยี่ยมชมการผลิตในทุกขั้นตอน
12.00น.-รับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น.-เดินทางไปยังบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
14.00 น.-นั่งรถลากจูงเพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมตามจุดต่าง ๆ
อาทิ โซนสัตว์ป่า โซนสัตว์แปลก โซนสัตว์หายาก อุทยานพืชผัก และศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืด-น้ำเค็ม ฯลฯ
โดยมีคุณวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี นายอำเภอเดิมบางนางบวช ให้เกียรติเป็นวิทยากร
17.00 น.-เข้าที่พัก ณ รีสอร์ทเรือนไม้ ริมบึงฉวาก (สัมผัสบรรยากาศยามเย็นริมบึง)
18.00 น.-รับประทานอาหารเย็น
อาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม 2553
08.00 น.-รับประทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท
09.00 น.-เดินทางไปโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง
10.30 น.-ฟังบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่และเยี่ยมชมกิจกรรมภายในฟาร์ม
12.00 น.-รับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น.-เดินทางไปยังหมู่บ้านโอท็อป (รางวัล 5 ดาว) ต้นแบบของจังหวัด ต.คลองวัว อ.เมือง จ.อ่างทอง
13.30 น.-ฟังบรรยายสรุปจากคุณปราณี จันทวร ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์จักสานผักตบชวา
15.00 น.-เดินทางไปยังเอนกฟาร์ม (เลี้ยงนกกระทา) ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง
15.30 น.-ฟังบรรยายสรุปจากคุณเอนก สีเขียวสด เจ้าของฟาร์มและเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาสัตว์เลี้ยง
16.30 น. - เดินทางกลับกรุงเทพฯ
18.00 น. - ถึงอาคารเนชั่นฯ ถ.บางนา-ตราด (กม.4.5) โดยสวัสดิภาพ
สนใจสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่โทร.0-2338-3356-7, 08-9493-5772 (รับเพียง 40 ท่าน)
สุรัตน์ อัตตะ