
"ซุปเปอร์ เอส" ธุรกิจบริการครบวงจร จากจุดถ่ายเอกสารสู่แฟรนไชส์ทั่วไทย
หลังจากที่อยู่ในวงการสื่อมวลชนมายาวนานเกือบ 20 ปี ในที่สุด ศุภชัย นิลวานิช อดีตผู้ช่วยหัวหน้ากองบรรณาธิการ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน มองว่า ถึงเวลาแล้วที่จะดำเนินธุรกิจเป็นของตัวเอง จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาจับงานด้านบริการครบวงจร ในนาม "ซุปเปอร์ เอส" ภ
ศุภชัยบอกว่า ที่เลือกอาชีพบริการครบวงจรนี้ เกิดมาจากที่ได้ซื้อบ้านเป็นของตัวเองในหมู่บ้านตะวันนา ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงมองว่าควรจะหางานอะไรสักอย่างให้แม่บ้านทำอยู่กับบ้าน แต่ด้วยประสบการณ์การจากการที่เดินทางไปทำข่าวมาทั่วประเทศ และมีประสบการณ์จากที่คลุกคลีในศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน มาหลายปี ประกอบกับบ้านที่ซื้อเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่นับพันๆ หลังคาเรือน จึงเห็นว่าน่าจะเป็นงานด้านบริการ เนื่องจากเป็นชุมชนใหญ่ แต่ไม่มีงานงานด้านบริการหรือเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่อยู่บริเวณใกล้เคียง จึงตัดสินใจไปศึกษาเกี่ยวกับงานบริบริการครบวงจร ทั้งงานด้านไปรษณีย์ รับจ่ายค่าน้ำ-ไฟฟ้า-โทรศัพท์-บัตรเครดิต-สินเชื่อ-ส่งธนาณัติ-พัสดุ-โอนเงิน-กาแฟสด เป็นต้น จากนั้นใช้บ้านตัวเองเปิดบริการ เริ่มจากงานด้านถ่ายเอกสาร ต่อมาเปิดบริการด้านไปรษณีย์ และขยายเป็นงานรับจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า คิดค่าบริการอย่างละ 15 บาท
"ตอนเปิดใหม่ๆ ผมให้แม่บ้านทำไปก่อน ผมนำความรู้ที่ศึกษามาไปสอนที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชนได้ราว 2 ปี ผมมีข้อมูล มีความรู้ และประสบการณ์ ทำให้ผมเกิดความเชื่อมั่นว่า ธุรกิจลักษณะนี้น่าจะมีอนาคตดี เพราะไม่เพียงแต่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้คนในชุมชนเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้ดีด้วย ผมจึงตัดสินใจลาออกจากงานนักข่าว เพื่อทุ่มเทกับธุรกิจด้านนี้อย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2551 พร้อมกับว่าจ้างโปรแกรมเมอร์ฝีมือดี เขียนโปรแกรมขึ้นมา เพื่อควบคุมการทำงานทั้งหมด ซึ่งสามารถปฏิบัติงานได้ทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ เมื่อทุกอย่างลงตัวจึงขยายกิจการทำเป็นแฟรนไชส์ โดยผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์มีราคาตั้งแต่ราคา 59,000-350,000 บาท ขณะนี้ขายแฟรนไชส์ได้แล้วกว่า 70 สาขาทั่วประเทศ" ศุภชัย กล่าว
การดำเนินกิจการอย่างจริงจังในช่วงเวลากว่า 2 ปี สามารถขยายแฟรนไชส์ได้ถึง 70 สาขาถือว่าประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ เหตุผลส่วนหนึ่ง กรรมการผู้จัดการบริษัท ซุปเปอร์ เอส เซ็นเตอร์ บอกว่า มาจากที่ซุปเปอร์ เอส มีต้นแบบจริง ทำให้รู้ถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของธุรกิจประเภทนี้ และกว่าจะเผยแพร่ความรู้สู่ภายนอก เขาได้ทดลองเปิดร้านจริงๆ ที่ใจกลางหมู่บ้าน ซึ่งประชากรอยู่ประมาณ 2,500 ครอบครัว โดยใช้หลักการคิดคือทำเลสารพัดเปิดงานบริการได้
"อย่าลืมว่า ผมเริ่มจากเปิดศูนย์ถ่ายเอกสารให้แฟนดูแล แล้วมาพัฒนาต่อยอดเป็นไปรษณีย์ชุมชน และจุดรับชำระเงิน พร้อมทั้งบริการเสริมรับฝากโอนเงินทุกสถาบัน และกาแฟสดไว้บริการด้วย ปรากฏว่าสามารถอำนวยความสะดวกให้คนในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี แถมยังลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้ใช้บริการอีกด้วย หลังจากที่ผมได้ขยายแฟรนไชส์แล้ว ทุกวันนี้หน้าที่หลักๆ ของซุปเปอร์ เอส มีอยู่ 2 อย่าง คือ เผยแพร่ความรู้ด้านธุรกิจให้แก่ผู้สนใจทั่วๆ ไป และทำหน้าที่รับวางระบบให้ลูกค้าที่ไม่ค่อยมีเวลาเรียนรู้ แต่สนใจอยากทำธุรกิจ ซึ่งการทำธุรกิจนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้คนในชุมชนเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้ดีด้วย อย่างน้อยวัน 1,500-2,5000 บาท ใช้เวลาเพียง 6-9 เดือนก็สามารถคุ้มทุนแล้ว ใช้คนทำงานเพียง 2-3 คน เพราะมีโปรแกรมปฏิบัติงานที่สามารถควบคุมการทำงานได้ทั้งหมด” กรรมการผู้จัดการบริษัท ซุปเปอร์ เอส เซ็นเตอร์ กล่าว
ด้าน วรีรัตน์ ศักดิ์ปิ่นทอง ซึ่งซื้อแฟรนไชส์ซุปเปอร์ เอส ตั้งอยู่เลขที่ 57/1-4 หมู่ 5 ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บอกว่า ที่จริงเกิดในครอบครัวชาวสวนมะพร้าวและปาล์มน้ำมัน แต่หลังจากเรียนจบคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บอกว่า ช่วงที่กลับบ้านได้มองว่าในพื้นที่ยังขาดจุดบริการ จึงลงทุนซื้อแฟรนไชส์ซุปเปอร์ เอส เป็นเงิน 2.5 แสนบาท เมื่อกลางปี 2552 เน้นจุดรับชำระเงิน และรวบรวมงานรับส่งพัสดุ ที่เธอบอกว่า แม้เป็นธุรกิจเล็กๆ แต่ก็ภูมิใจกับงานที่ทำ เพราะได้นำความเจริญเข้าสู่หมู่บ้าน และมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดพ่อแม่ด้วย
“สภาพพื้นที่ในชนบทยังขาดอะไรอีกเยอะ การสร้างงานเพิ่มขึ้นมาสักอย่าง ก็เป็นการช่วยเหลือหรือลดค่าใช้จ่ายชาวบ้านได้ เพราะไม่ต้องเสียเวลาและเงินทองเข้าสู่ตัวเมือง เพียงแต่เดินหรือขับรถมอเตอร์ไซค์และแต่งตัวตามสบายก็มาใช้บริการได้แล้ว จ่ายค่าบริการ 6-20 ต่อรายการเท่านั้น จากเดิมที่ชาวบ้านจะไปชำระเงินค่าไฟฟ้า และงวดรถในตัวเมืองต้องเดินทางไป 20 กิโลเมตร เสียเงินค่าเดินทางค่อนข้างสูง ฉันเปิดได้ราว 7 เดือนก็สามารถคุ้มทุนแล้ว เพราะแต่ละวันมีคนใช้บริการ 60-80 ราย มีรายได้วันละ 1,500-2,000 บาท” วรีรัตน์ กล่าว
นับเป็นอีกธุรกิจที่น่าสนใจ หากต้องการทราบรายละเอียดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2950-9837
ปัจจัยที่จะทำให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จ
การดำเนินธุรกิจจุดรับบริการทั้งงานไปรษณีย์ จุดชำระเงินนั้น ทำเลหรือสถานที่ที่เหมาะสมก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง อาทิ ตลาดในท้องถิ่น หรือหัวเมืองทั่วๆ ไป แต่ที่ยังขาดจุดรับชำระเงินและรับฝากโอนเงิน
เรื่องความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ หรือด้านภาษานั้น ธุรกิจนี้ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปมาช่วย ทำให้ทำงานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว แม้จะไม่ค่อยมีความรู้ ก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีที่ปรึกษาทางธุรกิจซึ่งเป็นส่วนกลาง แต่การบริการต้องรวดเร็วและผิดพลาดน้อย ต้องสร้างความเชื่อมั่นด้วยการตกแต่งร้านที่ทันสมัย และต้องประชาสัมพันธ์หรือทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ต้องเน้นการบริการที่ดีต่อลูกค้า มีความเป็นกันเอง ไม่เอาเปรียบลูกค้า ต้องมีความอดทน ขยัน และมีใจรักในงานที่ทำ ส่วนปัจจัยอื่นที่ผู้ประกอบการพึงมี คือ การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และจัดหาข่าวสารใหม่ๆ ที่น่าสนใจเข้ามาไว้ในร้าน เพื่อเป็นอาหารสมองให้ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ และจัดส่งเสริมการขายอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
"ดลมนัส กาเจ"