มนต์ตรา“ภูมิไทย” ใน“ ชีวาปุรี บีช รีสอร์ท”ณ เกาะช้าง | คมชัดลึก

 และในขณะเดียวกันหลายๆ ท่าน ก็ขอสมัครเข้ามาเป็นศูนย์ข้อมูล “เรือนขวัญจิตต์”  ซึ่งผมมีความฝันลึกๆ ครับว่า ศูนย์แห่งการเรียนรู้เกี่ยวกับอาคารบ้านเรือนนี้จะกระจายไปทั่วประเทศ เพื่อทำหน้าที่เผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับอาคารบ้านเรือนที่  “งามง่าย  พอเพียง อันเป็นทั้งที่รักและที่พัก”  เพราะผมเชื่อมั่นมาตลอดเวลาครับว่า “บ้าน” เป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่สำคัญที่สุดในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่า  “อาหาร” หรือ ยิ่งหย่อนไปกว่า  “ยารักษาโรค”  หรือ “เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม”  

 พอคิดได้เช่นนี้แล้ว หากเราสามารถทำให้ “บ้าน” อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด อีกทั้งยังเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดในสังคมให้ดีได้แล้ว “บ้าน” ก็จะได้ทำหน้าที่สำคัญในการก่อร่างสร้างครอบครัวที่ดี  หากเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรเลยครับที่จะทำให้ผมไม่เชื่อว่า สังคมไทยจะมีหมู่บ้าน มีชุมชน มีตำบล มีอำเภอ  มีจังหวัด  ตลอดไปจน มีประเทศ ที่สุข  สงบ  ร่มเย็น กว่าที่เป็นอยู่ครับ และผมถือว่าเป็นหน้าที่ทางจริยธรรมที่ต้องเผยแพร่องค์ความรู้เหล่านี้ให้ขยายกระจายออกไป หากชาวคนรักบ้านทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมืออย่างนี้สังคมไทยก็จะ มีบ้านดีเมืองดี และ คนดี  กว่านี้เป็นแน่ครับ    

 ในสัปดาห์นี้ ผมขอนำเสนอแนวคิดที่ผมเรียกว่า “ภูมิไทย” ที่ผมได้เคยเผยแพร่ออกไปและได้มีการนำเอาแนวคิดนี้ไปต่อยอดจนสัมฤทธิ์ผลและได้รับการยอมรับว่า เป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนา “เรือนไทยร่วมสมัย”  ของบ้านเราครับ หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน ผมได้เผยแพร่แนวคิดในการออกแบบและก่อสร้าง บ้านไม่บาน ในชุด “เรือนภูมิไทย” โดยได้ทำการเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก สถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนแนล ผ่านรายการ “คนรักบ้าน” ซึ่งออกอากาศทุกวันอาทิตย์ในช่วงเช้า  เวลา 10.00-11.00 น.  โดยประมาณ  และทางซีดี “คนรักบ้านกับอาจารย์เชี่ยว”  ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม มีการนำเอาแนวคิด “ภูมิไทย”  ไปต่อยอด และมีการสร้างจริงในหลายพื้นที่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ  โดยมีการประยุกต์รูปแบบ  การใช้ประโยชน์ที่หลากหลาย  ไม่ว่าจะเป็นกุฏิพระ, บ้านพักอาศัย  ไปจนถึงรีสอร์ทหรู  5  ดาว ก็ได้นำเอาแนวคิด “ภูมิไทย” นี้ไปต่อยอดกันครับ   
 
 ผมจะพาแฟนๆ ชาวคนรักบ้านไปเยี่ยมชม รีสอร์ทแสนสวยริมหาดที่แสนสงบบนเกาะช้าง  ที่มีชื่อว่า “ชีวาปุรี  บีช  รีสอร์ท”  ซึ่งบรรจงรังสรรค์ขึ้นจากความประทับใจกับแนวคิดแบบ “ภูมิไทย” ซึ่งหากจะแปลกันแบบตรงตัวหมายถึง “ความภาคภูมิใจในความเป็นไทย” อีกทั้งยังมีความเชื่อมั่นอย่างลึกๆ ว่า แนวคิดในการออกแบบอาคารบ้านเรือนโดยพัฒนามาจาก “เรือนไทย” ของบรรพบุรุษน่าจะเหมาะสมกับภูมิอากาศแบบร้อนชื้นของไทยเป็นที่สุดมากกว่าการลอกเลียนรูปแบบอาคารบ้านเรือนในสไตล์ตะวันตก

 ในการออกแบบ “เรือนไทยร่วมสมัย” ที่ “ชีวาปุรี  บีช  รีสอร์ท”  ผมก็นำแนวคิดแบบ “ภูมิไทย” มาประยุกต์ใช้อย่างเต็มที่  โดยมีเรือนพักน้อยใหญ่หลากหลายรูปแบบ  อาทิเช่น  ในรูปแบบวิลล่าขนาดเล็กชั้นเดียว   วิลล่าขนาดกลาง  2  ชั้น   และวิลล่าขนาดใหญ่  2  ชั้น   (สำหรับการพักผ่อนแบบครอบครัวหรือเป็นหมู่คณะ)  นับว่าโชคดีครับที่บริเวณพื้นที่กว่า  50  ไร่ ของ “ชีวาปุรี บีช  รีสอร์ท”  เต็มไปด้วยต้นไม้และพืชพรรณไม้นานาพันธุ์   รวมทั้งติดกับชายหาดที่เงียบสงบ  มีความยาวกว่า  700  เมตร  ในสภาพของภูมิประเทศที่ยังอุดมสมบูรณ์เช่นนี้  “เรือนไทยร่วมสมัย”  ภายใต้แนวคิด “ภูมิไทย”  ถูกวางผังให้กลืนไปกับพืชพรรณไม้   ให้เกียรติกับสภาพธรรมชาติ  อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน 

 มีนักวิชาการหลายท่านให้ความเห็นไว้นะครับว่า  “เรือนไทย” นั้น มีสัญชาติญาณของเพศ “แม่”  แฝงอยู่ ก็เห็นจะจริง เพราะเมื่อผมออกแบบ “เรือนไทยร่วมสมัย” ที่  “ชีวาปุรี  บีช  รีสอร์ท” และทำการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ ทุกครั้งที่ได้เข้าไปพักในตัวบ้านจะรู้สึกอบอุ่น สงบ นิ่ง ใส เย็น อย่างบอกไม่ถูก  นี่แหละครับเป็นเสน่ห์ของ “เรือนไทย”  ที่ใครๆ ทั่วโลกต่างหลงใหล เพราะมีความโล่งโปร่งสบาย ใช้ชีวิตอย่างสมดุลอยู่กับธรรมชาติ พืชพรรณไม้อย่างผสมกลมกลืนกัน เป็นวิถีที่งามง่าย พอเพียง นำไปสู่เรือนอันเป็นทั้งที่รักและที่พัก

 ผมสังเกตได้จากบรรดาผู้คนที่แวะมาเยี่ยมเยียน “ชีวาปุรี บีช รีสอร์ท” แห่งนี้ ก็ไม่ค่อยมีใครอยากจะกลับหรอกครับ ใจก็ยังโหยหาอาลัยอาวรณ์ สังเกตได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายๆ คน พอถึงกำหนดเวลาที่ต้องกลับก็มักจะขยายเวลาในการพักผ่อนออกไป เพราะหลงใหลในมนต์ตราของ “เรือนไทยร่วมสมัย”  หลงรักในศิลปวัฒนธรรมไทยและเกิดความรู้สึก “ภูมิไทย”   ไปพร้อมกัน

 จากที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ ก็อย่าเพิ่งเชื่อผมเป็นอันขาดครับ หากมีโอกาสที่จะไปเยี่ยมเยียน เกาะช้าง ลองเข้าไปพักที่ “ชีวาปุรี บีช รีสอร์ท”  ไปสัมผัสกับ “เรือนไทยร่วมสมัย” เข้าไปพักและรับรู้ถึงความงดงามของการใช้ชีวิตในรีสอร์ทสไตล์ “เรือนภูมิไทย” 

 สัปดาห์นี้พื้นที่หมดครับ ในการออกแบบที่ใช้แนวคิด “ภูมิไทย”  ยังมีสาระอีกมาก รวมไปถึงการตกแต่งภายในแบบ “ภูมิไทย” ที่มีเสน่ห์  มัด  ตรึงใจ  ผู้เข้ามาพักจะมีรูปแบบเป็นอย่างไร ก็ติดตามกันต่อไปในสัปดาห์หน้าครับ ซึ่งผมหวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าบรรดาคนรักบ้านทั่วประเทศจะได้นำเอาแนวคิด “ภูมิไทย”  นี้ไปประยุกต์ใช้กับอาคารบ้านเรือนของท่านกันครับ

 สำหรับแฟนๆ ชาวคนรักบ้านทั่วประเทศที่ให้ความสนใจสมัครเป็น ศูนย์ข้อมูล “เรือนขวัญจิตต์” ในการเผยแพร่ความรู้ที่เกี่ยวกับ บ้านไม่บานและอพาร์ตเมนต์ไม่บาน รวมถึง โรงแรม, รีสอร์ทไม่บาน ในรูปแบบต่างๆ กว่า 200 แบบ ของ อ.ดร.เชี่ยว  ชอบช่วย ยังสามารถแจ้งความจำนง มาได้ ที่เบอร์  0-2245-1399 และ 0-2644-1478  โดยด่วนครับ    

 นอกจากนั้น ชาวบ้านไม่บานทั่วประเทศที่สนใจ บ้านมวลชนไม่บานต้านภัยธรรมชาติ  ที่ประโยชน์สูง ประหยัดสุด และสวยงามสุดๆ ในชุด “เรือนขวัญจิตต์”  นี้ สามารถเขียนจดหมายส่งมาที่  ผศ.ดร.ภัทรพล  เวทยสุภรณ์  คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยศิลปากรวังท่าพระ  ถนนหน้าพระลาน กรุงเทพมหานคร 10200   เพื่อที่ผมจะได้ทำการจัดส่งรายละเอียดกลับไปให้ท่านได้นำไปต่อยอดทางความคิดหรือนำไปประยุกต์ใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์  อีกทั้งสามารถดูข้อมูลอันเป็นสารประโยชน์ย้อนหลังได้ที่  www.homeloverthai.com ครับ