
กินไอโอดีน...ไม่เอ๋อ
อย.ขานรับนโยบาย แก้ปัญหาคนไทยขาดสารไอโอดีน เร่งเครื่องออกกฎหมาย บังคับให้เกลือผสมไอโอดีนเป็นอันดับแรก ก่อนลุยต่อไปผลิตภัณฑ์น้ำปลา ซอสปรุงรส ซีอิ๊ว เครื่องปรุงรส อาหารกึ่งสำเร็จรูป และขนบกรุบกรอบ
สนองนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในการแก้ปัญหาโรคขาดสารไอโอดีนในประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และแนวทางในการควบคุมและป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนอย่างยั่งยืน มีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ปัญหาคนไทยขาดสารไอโอดีนที่เป็นสารอาหารจำเป็นของทุกเพศทุกวัย และเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาการทางสมอง และระบบประสาทของทารกในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ พบว่าหญิงตั้งครรภ์ ร้อยละ 60 ขาดสารไอโอดีน สูงกว่าเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และจากผลการสำรวจไอคิวของคนไทย จำนวน 6,000 ราย ใน 21 จังหวัด โดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เมื่อปี 2552 พบว่า ไอคิวเฉลี่ยอยู่ที่ 91 ซึ่งค่อนข้างต่ำ โดยไอคิวเฉลี่ยสากล อยู่ที่ 90-110
เป็นเหตุให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศเป็นนโยบายอย่างชัดเจน และจริงจังที่จะขจัดปัญหานี้ให้หมดไปจากคนไทย อย.ระดมสรรพกำลังสนองนโยบายเรื่องนี้อย่างเต็มที่ โดยปรับปรุง ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 153 (พ.ศ.2537) เรื่องเกลือบริโภค ให้มีความครอบคลุม เข้มงวดขึ้น โดยกำหนดให้เกลือทุกชนิด ทั้งที่บริโภคและที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหาร ต้องเป็นเกลือเสริมไอโอดีน โดยมีปริมาณไอโอดีน 30-100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และการผลิตต้องมีระบบประกันคุณภาพ ฉลากต้องมีข้อความว่า “เกลือบริโภคเสริมไอโอดีน” เป็นต้น
ผู้ผลิตและผู้นำเข้าเกลือบริโภค ต้องขออนุญาตผลิต หรือนำเข้า และจดทะเบียนอาหาร ทั้งนี้ อย.ได้ทำประชาพิจารณ์ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องเกลือบริโภค (ฉบับใหม่) เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2553 ที่ผ่านมา โดยมีผู้ประกอบการและตัวแทนหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมประชุมประมาณ 200 ราย และหลังจากนี้ จะนำเสนอต่อคณะกรรมการอาหารในวันที่ 1 กันยายน 2553 คาดว่าประกาศฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้หลังจากลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว 180 วัน เป็นต้นไป
อย.จะติดตาม และดำเนินมาตรการสนับสนุนให้มีการปฏิบัติถูกต้องตามประกาศฉบับนี้ โดย อย.ได้ประชุม หารือกับชมรม สมาคม และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอาหาร และเห็นพ้องต้องกันว่า อุตสาหกรรมอาหารทุกชนิดที่ใช้เกลือเป็นวัตถุดิบ หรือส่วนผสม ทั้งผลิตและนำเข้า โดยเฉพาะน้ำปลา ซอสปรุงรส ซีอิ๊ว เครื่องปรุงรส อาหารกึ่งสำเร็จรูป และขนบกรุบกรอบ ต้องใช้เกลือเสริมไอโอดีนเป็นวัตถุดิบในการผลิต ทั้งนี้ เมื่อออกกฎหมายรวมทั้งมาตรการนี้ จะให้ความมั่นใจได้ว่า คนไทย 65 ล้านคน มีโอกาสได้รับสารไอโอดีนอย่างทั่วถึง
กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค