
ยันพระพุทธรูปเลือดไหลแค่แบคทีเรียสีแดง
นักวิทยาศาสตร์ ชี้ เลือดออกตามร่างกาย หลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ อ่างทองไม่ใช่ลางร้าย ระบุเพราะเป็นเพียงแบคทีเรีย Serratia marcescens ที่มีเซลล์เป็นสีแดง ชอบขยายตัวพื้นที่ชื้น เผยในต่างประเทศพบจำนวนมาก แต่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า เป็น
จากกรณี ชาวบ้านต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ต่างพากันตื่นตระหนกหลังพบว่า หลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ สูง 21 เมตร หน้าตักกว้าง 6 เมตรเศษ ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดสี่ร้อย ได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาด มีเลือดไหลออกตามร่างกาย นั้น
นพ.ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่อง ผิดธรรมชาติ เพราะกรณีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นในหลายประเทศเช่นโปรแลด์ ที่เกิดสีแดง ตามพระพุทธรูปบูชา และเมื่อถูกตรวจสอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ พบว่า ไม่ใช่เรื่องลี้ลับ หรือ ลางร้ายอะไร แต่เป็น แบคทีเรีย ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Serratia marcescens ซึ่งแบคทีเรียตัวนี้จะเป็น สีแดงคล้ายเลือด เพราะมีเซลล์เป็นสีแดง และมักจะการสร้างสีแดงไว้ในเซลล์ของตัวเองอยู่แล้ว ถ้ามีการสร้างแบคทีเรียจำนวนมากจะกลายเป็นกลุ่มแบคทีเรียสีแดงขนาดใหญ่ที่เห็นชัดเจนมากขึ้นจนชาวบ้านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นลางร้าย
นพ. ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า แบคทีเรียชนิดนี้ เป็น ชนิดที่ พบได้ทั่วไป แต่มักจะเจริญเติบโตในพื้นที่เย็นและค่อนข้างชื้น รวมไปถึง เป็นพื้นที่มีอาหาร โดย อาหารของ อาจจะไม้ ซากสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วเช่นมด ส่วนที่พบที่พระพุทธรูปที่ จ.อ่างทอง นั้น สันนิษฐานว่า อาจจะเกิดขึ้นจากช่วงหน้าฝนที่ผ่านมามีฝนตกมากทำให้มีตะไคร่ขึ้นในซอกต่างๆต่อมาตะไคร่ตายไปกลายเป็นอาหารของ Serratia ซึ่งอาจติดมากับฝุ่น ทำให้ มีสีแดง คล้ายเลือดตาม พระพุทธรูป จนชาวบ้านรู้สึกส่าเป็นลางร้าย แต่ความจริงไม่ใช่ แบคทีเรียชนิดนี้เกิดขึ้นได้ทั่วไป แต่ พอไปเกิดที่ พระพุทธรูป จึงทำให้ตกใจ
"ผมไม่อยากให้ชาวบ้านตกใจและคิดว่าเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ เพราะว่า ปรากฏการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ในทางวิทยาศาสตร์ และได้รับการพิสูจน์มาแล้วในหลายประเทศ แต่หากยังไม่เชื่อ หรือไม่มั่น สามารถเก็บตัวอย่างส่งมาให้ตรวจเพื่อเพาะเชื้อ " นพ.ประสิทธิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถาม นายจำนง ถนอมศิลป์ อายุ 63 ปี ผู้ดูแลองค์หลวงพ่อโต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะตนเองได้ขึ้นไปเปลี่ยนผ้าให้กับหลวงพ่อโต ยังไม่ได้พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด กระทั่งวานนี้ มีคนเห็นเลือดไหลออกมาทางจมูกของหลวงพ่อ และวันนี้ปรากฏว่าพบรอยเลือดออกมาจากหน้าอก และด้านหลังอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2530 และเหตุการณ์นั้นมีชาวบ้านในอ.วิเศษชัยชาญล้มตายไปเป็นจำนวนมาก
เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าคราบดังกล่าวเกิดจากสาเหตุใด คงต้องรอการพิสูจน์ให้แน่ชัดอีกต่อไป ขณะที่ชาวบ้านหลายคนเชื่อว่าปรากฎการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดจากองค์หลวงพ่อท่านเสียใจ หลังท่านเห็นพระกับชาวบ้านทะเลาะกันในพิธีบวงทรวงเปิดอนุสาวรีย์ขุนรองปลัดชู เมื่อวันที่ 21พ.ย.ที่ผ่านมาก็เป็นได้
สำหรับวัดสี่ร้อย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อย หมู่ 4 ต.สี่ร้อย สันนิษฐานว่า ตั้งขึ้นเป็นอนุสรณ์แก่ ขุนรองปลัดชู และชาวบ้านวิเศษชัยชาญ 400 คน ที่เสียชีวิตในสงคราม ระหว่างไทยกับพม่า ที่เมืองกุย ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ แห่งกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.2302 ส่วนองค์หลวงพ่อโตนั้น ได้สร้างขึ้นมาพร้อมกับวัด และอยู่คู่กับชาววิเศษชัยชาญมาจนถึงปัจจุบัน