ไลฟ์สไตล์

โลกใบนี้ดนตรีไทย - สะเดาไม่เคยหวาน ด่านนอกไม่เคยขม

โลกใบนี้ดนตรีไทย - สะเดาไม่เคยหวาน ด่านนอกไม่เคยขม

25 ม.ค. 2554

เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปแสดงคอนเสิร์ตที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งในระหว่างที่ผมอยู่ที่ อ.สะเดานั้น ผมจะคิดถึงวันแรกที่คุณพ่อผมสอนให้ผมกินข้าวกับสะเดา น้ำปลาหวาน ซึ่งคำแรกน้ำปลาหวานก็จะเยอะกว่าจำนวนของสะเดาเพราะเนื่องจากกลัวว่าจะขม แต่หล

  เอาล่ะครับ คราวนี้ผมจะกลับมาเขียนเรื่องคอนเสิร์ตในวันนั้นที่ อ.สะเดา โดยตอนแรกที่ผมได้รับการติดต่อให้ไปแสดงที่อำเภอ สิ่งแรกที่ผมคิดถึงก็คือ ด่านนอก ซึ่งเป็นตำบลสุดท้ายของ อ.สะเดา และติดกับชายแดนมาเลเซีย ที่เขาร่ำลือกันนักหนาว่านักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและชาวไทย จะนิยมไปเที่ยวที่นั่นมากกว่าหาดใหญ่ ซึ่งตัวผมเองไปหาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยได้ย่างกรายไปที่ด่านนอกแม้แต่ครั้งเดียว แล้วมันก็รวมไปถึงน้องๆ นักดนตรีสากลของวงผมอีกด้วย ดังนั้นมันจึงทำให้ผมและทุกๆ คนในวง ขุนอิน ออฟ บีท สยาม ตื่นเต้นดีใจอยู่เล็กน้อย อยากเห็นตำบลด่านนอกที่ชาวมาเลเซียหลงใหลว่ามันจะเป็นอย่างไร

 ก่อนหน้าวันแสดง 1 วัน หลังจากที่ผมลงจากเครื่องบิน สนามบินหาดใหญ่ ก็มีรถตู้เบนซ์คันงามมารับผมและคณะ ซึ่งก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ก็จะถึง อ.สะเดา สถานที่ที่จะแสดงคอนเสิร์ต แต่ที่พักของผมอยู่ที่ด้านนอกก็เลยต้องนั่งรถไปอีก 10 นาที และเมื่อถึงโรงแรมที่พัก แล้วทุกคนก็ตาสว่างหายง่วงหายเพลีย จากบรรยากาศที่เราไม่เคยเห็นในกรุงเทพฯ รวมถึงประเทศอื่นๆ อีกด้วยก็คือ ร้านคาราโอเกะที่เรียงรายนับไม่ถ้วน เปิดบริการตั้งแต่บ่ายสองโมง ซึ่งไม่ว่าที่ใดในโลกสถานที่แบบนี้มันต้องกลางคืนเท่านั้น โอ้...พระเจ้า นี่มันเล่นกันตั้งแต่ไก่โห่ สาวน้อยคาราโอเกะก็ขวักไขว่กันอยู่หน้าร้านตั้งแต่บ่ายสอง

 ซึ่งผมก็แปลกใจในเรื่องนี้ แต่ก็ได้ความกระจ่างจากพนักงานโรงแรมว่า ที่นี่สถานที่เริงรมย์ต้องเปิดกลางวัน เพราะเนื่องจากว่านักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย บางกลุ่มนิยมมาเที่ยวตอนกลางวัน แล้วก็จะต้องรีบกลับก่อนด่านจะปิดเวลาหนึ่งทุ่ม ซึ่งผมคิดในใจว่าไอ้พวกนี้มันคงหนีเมียมาเที่ยวแน่ๆ ส่วนอีกพวกหนึ่งก็จะมาพักหลายวัน และก็จะไปที่อื่นๆ อย่างเช่นหาดใหญ่ แต่ก็สรุปได้ว่าที่ด่านนอกจะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาเที่ยวตั้งแต่เวลา 14.00-02.00 น.ของวันใหม่ ซึ่งอาจจะบอกได้ว่าที่นั่น แต่ละวันเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย แล้วยิ่งในตอนกลางคืนหนุ่มๆ มาเลเซียที่ด่านนอกดูจะหวานชื่นไม่แพ้ผลไม้หลากชนิดวางเรียงรายอยู่ข้างทาง แต่สำหรับผมและคณะไม่ค่อยมีรสนิยมแบบนี้ จึงทำให้พวกเรามุ่งหน้าไปที่ อะลอสตาร์ดูตี้ฟรี ซึ่งอยู่ในเขตมาเลเซีย และที่นั่นมีช็อกโกแลตยี่ห้อดัง ราคาถูก อร่อยๆ อยู่มากมาย ดังนั้นทุกคนรวมทั้งตัวผมเอาเงินบาทไทยไปทิ้งไว้ที่นั่น เพื่อแลกกับช็อกโกแลตและขนมอื่นๆ แต่ยังไงเราก็คงยังไม่ถึงกับเสียดุลการค้า เพราะว่าเราเอาเงินไปไว้ที่นั่นไม่กี่พัน แต่พวกมาเลเซียเอาเงินไปฝากไว้ที่ด่านนอกชนิดที่เรียกว่าประเมินค่าไม่ได้

 ยังไม่ทันจะเข้าเรื่องคอนเสิร์ตที่ อ. สะเดา ก็หมดเนื้อที่แล้ว เอาไว้ฉบับหน้าค่อยว่ากันใหม่ แต่ก่อนจากกันก็ขอโปรโมทงาน เทศการเที่ยวอีสาน 2554 amazing I i-san fair 2011 ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดขึ้นที่ศูนย์สิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 28-30 มกราคมนี้ ซึ่งภายในงานก็จะมีอะไรหลายๆ อย่างที่เกี่ยวกับภาคอีสาน รวมถึงการแสดงมากมาย อย่างเช่น วงดนตรีร่วมสมัยของวิทยาลัยนาฏศิลปร้อยเอ็ด และในวันที่ 30 มกราคม ตัวผมเองก็จะไปแสดงกับเขาด้วย ซึ่งคราวนี้มาแปลก ผมจะนำระนาดของผมไปแสดงร่วมกับวงโปงลางเป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็ม แถมด้วยการตีโปงลางของผมอีก 1 เพลง งานนี้ใครอยากชมลีลาการตีโปงลางของขุนอินก็เชิญชมได้ในงานนี้ครับ อ่อ! ลืมบอกไปว่าของผมเวลา 13.00 น. ครับ...สวัสดี แล้วเจอกันนะครับ
           "ขุนอิน"