คาดปชช.นับล้านร่วมเผา'หลวงตาบัว' | คมชัดลึก

ประชาชนจำนวนมากเริ่มทยอยเดินทางไปร่วมงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่จัดขึ้นในวันที่ 5 มีนาคม 2554 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีลูกศิษย์และประชาชนทั่วไปจะเดินทางไปร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายนับล้านคน

 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ลูกศิษย์หลวงตามหาบัวจากทั่วประเทศเดินทางมาร่วมทำบุญใส่บาตร และกราบสรีระสังขารหลวงตามหาบัวบนศาลาการเปรียญวัดเกษรศีลคุณ หรือวัดป่าบ้านตาด ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนจะถึงวันเคลื่อนสรีระสังขารมาประดิษฐานไว้ที่จิตกาธาน (เมรุลอย) และจะอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ ในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิง

 การขึ้นกราบสรีระหลวงตายังคงมีญาติโยมต่อแถว 4 แถว ยาวออกมาถึงหน้าประตูวัด ขณะเดียวกันลูกศิษย์จากหลายหน่วยงานนำภาพหลวงตามหาบัว และล็อกเกตที่มีภาพหลวงตาทั้ง 2 ด้าน มาแจกตามเต็นท์ต่างๆ    ขณะเดียวกันลูกศิษย์ได้นำหนังสือ “หลวงตาวัดบ้านตาด รวมเรื่องเล่า...สิ่งที่เห็น” ที่พิมพ์ถวาย มาแจกกว่า 5 หมื่นเล่ม มีผู้เข้าคิวรับจำนวนมาก 

ทอดผ้าป่าทองคำครั้งสุดท้าย
 ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ คณะศิษยานุศิษย์ คณะสงฆ์ ร่วมกันทอดผ้าป่าช่วยชาติเป็นครั้งสุดท้าย โดยหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านนาคูณ ต.บ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เป็นประธานในการรับผ้าป่าทองคำช่วยชาติ ซึ่งมีผู้ร่วมบริจาคเงินและทองคำจำนวนมาก การจัดทอดผ้าป่าครั้งนี้ถือเป็นการทอดผ้าป่าครั้งสุดท้าย ที่คณะศิษยานุศิษย์พร้อมใจกันจัดขึ้น เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพินัยกรรมของหลวงตามหาบัว ที่มีความประสงค์ให้นำทรัพย์สินที่ได้จากการบริจาคครั้งสุดท้าย ที่พุทธศาสนิกชนนำมาช่วยงาน ทั้งเงินบาท ทองคำ เงินดอลลาร์ เพื่อซื้อทองคำเข้าคลังหลวง ซึ่งคาดว่าจะมีการมอบเข้าคลังหลวงในวันที่ 12 เมษายน 2554 
 เงินและทองคำที่ได้จากการบริจาคในงานบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารหลวงตาตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2554 ถึงปัจจุบัน ยอดรายรับจากธนาคาร เงินสดจากตู้บริจาค, เงินโอน, เช็ค ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม-1 มีนาคม 2554 รวมทั้งสิ้น 250,882,193.09 บาท ยอดทองคำจากตู้รับริจาค ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม-2 มีนาคม 2554 รวม 55 กิโลกรัม 51 บาท 24 สตางค์

อัญเชิญหีบขึ้นสู่เมรุ4มี.ค.
 พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย ต.บ้านก้อง อ.นายูง จ.อุดรธานี กล่าวว่า หลวงตามหาบัวละสังขารจากไปแล้วเป็นเวลา 1 เดือน 5 วัน เมรุของหลวงตาก็เกือบเรียบร้อย กลดยักษ์ได้ประดับตกแต่งเสร็จแล้ว โดยใช้ดอกรักสีขาว ดอกกระดังงาสีเหลืองประดับรอบกลด และชักรอกขึ้นไปประดิษฐานเหนือจิตกาธานของหลวงตามหาบัว
 ส่วนกำหนดการเคลื่อนสรีระหลวงตาจะเริ่มเวลา 10.00 น. วันที่ 4 มีนาคม โดยพระสงฆ์ครูบาอาจารย์ทุกรูปที่อยู่ในวัดป่าบ้านตาดจะมาร่วมกันลงอุโบสถ หลังจากฉันจังหันเสร็จ คณะสงฆ์และญาติโยมก็จะขึ้นไปกราบสักการะสรีระหลวงตา ก่อนจะเคลื่อนย้ายสรีระ 
 จากนั้นจะอัญเชิญหีบสรีระหลวงตาไปสู่เมรุ โดยมีหลวงปู่ใหญ่ หรือ พระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป) เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 (ธรรมยุต) เป็นประธาน เดินนำหน้า ตามด้วยหลวงปู่บุญมี หลวงปู่ลี และพระที่มีอายุพรรษาตั้งแต่ 40 พรรษาขึ้นไป แล้วตามด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พร้อมด้วย แม่จันดี โลหิตดี และแม่สุวรรณ โลหิตดี น้องสาวหลวงตามหาบัวทั้ง 2 คนที่เป็นตัวแทนของญาติพี่น้องและศิษยานุศิษย์ทั้งหมด โดยมีพระสงฆ์และประชาชนอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนช่วงเย็นจะมีพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล สวดมนต์ ทำวัตรเย็น

รวมหนังสือแจกกว่า5แสนเล่ม
  ที่อาคารอเนกประสงค์ ร.ร.อุดรธรรมานุสรณ์ ต.บ้านตาด อ.เมือง คณะครู นักเรียน และนักศึกษาจากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จ.อุดรธานี ร่วมกันบรรจุหนังสือและซีดีลงกล่องที่ระลึก สำหรับแจกในงานพระราชทานเพลิงวันเสาร์ที่ 5 มีนาคม หนังสือ 17 เล่ม ประกอบด้วย สู้ไม่ถอย, หลวงตาผู้สืบสานอริยวงศ์, นิพพานคือนิพพาน, หยดน้ำบนใบบัว, อริยสัจ 4, หลวงตาพระมหาบัว, ประวัติวัดป่าบ้านตาด, สมณะพระผู้ข้ามวัฏฏะ, จิตพระอรหันต์, ธรรมแห่งชัยชนะ, มหาสมัยสูตร, ชาติสุดท้าย, เมตตาธรรมค้ำชาติไทย, พระผู้เป็นนิรันดร์, พระปาลิ, ไตรรัตน์ และคลังหลวงกับเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมซีดี 4 ชุด
 การบรรจุหนังสือแบ่งออกเป็น ชุดกล่องใหญ่ 1 หนังสือ 16 เล่ม พร้อมซีดี 4 ชุด บังสุกุลถวายพระเถระผู้ใหญ่ 1,000 กล่อง มอบห้องสมุด 500 กล่อง , ชุดกล่องใหญ่ 2 มีหนังสือ 10 เล่ม ซีดี 2 ชุด 150 กล่อง มอบให้วีไอพี, ชุดกล่องเล็ก 1 หนังสือ 6 เล่ม ซีดี 4 ชุด 1.5 หมื่นกล่อง โดยเพิ่มเติมฉบับภาษาอังกฤษให้พระฝรั่ง 300 กล่อง ถวายพระมาร่วมงาน, ชุดกล่องเล็ก 2 หนังสือ 6 เล่ม ซีดีหยดน้ำบนใบบัว 2,000 กล่อง มอบให้แขกในศาลานอก และกล่องเล็ก หนังสือ 6 เล่ม ซีดี 4 ชุด 1.5 หมื่นชุด มอบให้บุคคลทั่วไป รวมหนังสือมากกว่า 5 แสนเล่ม
 หนังสือส่วนใหญ่มีทั้งหนังสือเนื้อหาของวัดป่าบ้านตาด และของบุคคลภายนอก รวมทั้งที่เคยพิมพ์มาแล้ว นำมาพิมพ์ใหม่แล้วเพิ่มเนื้อหา พินัยกรรมหลวงตามหาบัว อาทิ หยดน้ำบนใบบัว จัดพิมพ์มาแล้ว 15 ครั้ง โดยครั้งนี้ไม่มีหนังสือประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และปฏิปทา หนังสือที่หลวงตามหาบัวเขียนเอง 2 ฉบับแรก ที่ได้รับความนิยมมาก ขณะที่ยังมีหนังสือเขียนขึ้นมาใหม่ อาทิ ชาติสุดท้าย, หลวงตานิพพาน และสมณะพระผู้ข้ามวัฏฏะ
 ส่วนหนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงหลวงตามหาบัว จัดทำโดยคณะกรรมการจัดงาน อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์ เป็นหนังสือขนาด เอ 4 กระดาษปอนด์มัน 4 สี 460 หน้า ปกแข็ง พิมพ์จำนวน 1 แสนเล่ม เนื้อหา เริ่มตั้งแต่วันที่หลวงตาถือกำเนิด วัยเด็ก ขณะบรรพชา ศึกษาธรรม จนกระทั่งมาจำพรรษาที่วัดป่าบ้านตาด รวมถึงรวบรวมโครงการสงเคราะห์โลกต่างๆ ที่หลวงตามหาบัวเป็นผู้ริเริ่ม จนกระทั่งการรักษาอาการอาพาธจนถึงนาทีที่ละสังขาร  โดยจะแจกจ่ายในวันที่ 12 สิงหาคม 2554 ซึ่งตรงกับวันเกิดของหลวงตามหาบัว

เผยใช้ไม้จิกเผาทำตามคำสั่งหลวงตา
 พระครูอรรถกิจนันทคุณ หรือพระอาจารย์นพดล นันทโน เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา จ.กำแพงเพชร เปิดเผยถึงกรณีจะต้องใช้ไม้จิก หรือไม้เต็งมาเป็นเชื้อเพลิงในการเผาหลวงตามหาบัวว่า เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทย โดยเฉพาะคนไทยอีสาน เวลาเผาผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นโยมหรือพระก็ตาม เมื่อตั้งใจเก็บกระดูก ถ้าใช้ไม้จิกจะได้ฟืนที่แรงและแกร่ง ผลผลิตคือกระดูกที่เผาด้วยไม้จิกจะขาวสวย หากเป็นไม้อื่น เช่น ไม้จันทน์ กระดูกที่ได้จะดำ
 "ถ้าหากเป็นพระ ครูบาอาจารย์ที่รู้จัก ท่านคาดว่าอัฐิของครูบาอาจารย์ที่จะกลายเป็นพระธาตุก็ยิ่งเน้นตรงนี้ หลวงตาไม่ได้เน้นสำหรับท่าน แต่ท่านได้ให้องค์ความรู้ที่จัดการสำหรับพระองค์อื่นๆ เช่น หลวงปู่แนน ท่านเคยเจาะจงเอาไว้เลย เอาไม้จิกไปเผานะ เพราะบางครูบาอาจารย์ทางหลวงตาเป็นเหมือนเจ้าภาพ ยกศพให้หลวงตาบัวจัดแจง และย้ำเอาไม้จิกไปเผานะ ที่ชัดๆ สองรูปคือ ท่าน อ.สุวัฒน์ กับหลวงปู่แนน ทางพระวัดนี้ก็จำภูมิปัญญาอันนี้เอาไว้ และมาจัดถวายให้หลวงตา แต่หลวงตาท่านไม่ได้สั่งเอาไว้สำหรับตัวท่านเอง" พระครูอรรถกิจนันทคุณ กล่าว

สธ.ระดมแพทย์พยาบาลกว่า 500 คน
 วันเดียวกัน ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี และคณะ ได้ไปตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ที่วัดป่าบ้านตาด เพื่อดูความพร้อมการให้บริการดูแลสุขภาพประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงหลวงตามหาบัวในวันที่ 5 มีนาคม
 ดร.พรรณสิริ กล่าวว่า คาดว่าจะมีคลื่นมหาชนจากทั่วประเทศเดินทางมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงหลวงตามหาบัวประมาณกว่า 5 แสนคน กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนเตรียมความพร้อมดูแลสุขภาพประชาชน ทั้งเรื่องการรักษาพยาบาล การสุขาภิบาลอาหาร น้ำดื่ม ส้วม และขยะ เพื่อป้องกันโรคติดต่อ โดยจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ มีการระดมทีมแพทย์ พยาบาลกว่า 500 คน จาก รพ.ศรีนครินทร์ รพ.ค่ายประจักษ์ศิลปาคม รพ.หนองบัวลำภู รพ.อุดรธานี รพ.กรุงเทพ รพ.ขอนแก่น รพ.บึงโขงหลง รพ.ชุมชน และรพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลทั้งหมดใน จ.อุดรธานี
 นอกจากนี้ยังตั้งจุดบริการรักษาพยาบาลจุดใหญ่ 9 จุด และมีหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ หน่วยย่อยอีกประมาณ 100 หน่วย เพื่อเข้าไปดูแลทั้งประชาชนและพระภิกษุสงฆ์บริเวณรอบวัด มีรถพยาบาลฉุกเฉิน พร้อมเครื่องมือแพทย์ครบครัน รวมทั้งหมด 20 คัน และเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้อีก 3 ลำ เพื่อใช้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางอากาศหากจำเป็นเร่งด่วน
 ดร.พรรณสิริ กล่าวต่อว่า เนื่องจากมีคนจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งโรงพยาบาลสนาม 1 แห่ง ที่โรงเรียนบ้านตาด อยู่ห่างจากวัดป่าบ้านตาด 1,500 เมตร ภายในโรงพยาบาลจะมีศูนย์บัญชาการกู้ชีพฉุกเฉิน มีหน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน 4 หน่วย มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขาพร้อมอุปกรณ์การแพทย์ชั้นสูง มีเตียงรองรับผู้ป่วย 10 เตียง มีแพทย์ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้ รพ.ศูนย์อุดรธานี เป็นโรงพยาบาลหลักในการรับส่งต่อผู้ป่วยเข้ารักษาตัว ให้การรักษาฟรีทั้งหมด จนถึงวันที่ 7 มีนาคม 2554 ขณะนี้หน่วยแพทย์ทั้งหมดได้เปิดบริการแล้ว ยืนยันทุกหน่วยมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ประชาชนที่เจ็บป่วยสามารถเข้าใช้บริการได้ตลอดเวลา
 นพ.สัญชัย กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีได้วางแผนดูแลความสะอาดของอาหารและน้ำดื่ม โดยจัดประชุมผู้ปรุงอาหารในโรงทานประมาณ 1,000 คน เพื่อให้ดูแลความสะอาดอาหารได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และดูแลกำจัดขยะ น้ำเสีย และความสะอาดส้วม ขณะนี้ทางวัดสร้างส้วมเพิ่มเติมอีก 3 เท่าตัว โดยนำสารอีเอ็มไปใช้ เพื่อย่อยสลายของเสียได้ดีขึ้น และไม่มีกลิ่นเหม็น ผลการตรวจน้ำดื่มที่ใช้ภายในวัดพบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
 นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี กล่าวอีกว่า ประชาชนที่ตั้งใจจะไปร่วมพิธีขอให้ดูแลสุขภาพตนเองให้พร้อม หากมีโรคประจำตัวให้นำยาติดตัวไปด้วย หลังจากเข้าไปอยู่ในพื้นที่แล้ว หากอยู่ใกล้หน่วยแพทย์จะเป็นการดี ไม่ควรนำเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบเข้าไปในงาน เนื่องจากอาจป่วยได้ง่าย และควรงดสูบบุหรี่ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากพื้นที่มีประชาชนอยู่อย่างแออัด และขอให้ประชาชนพกน้ำดื่มขวดเล็ก เพื่อดื่มดับกระหาย เนื่องจากอากาศจะร้อนมาก และพกอาหารที่บูดเสียยาก เช่น ข้าวเหนียว เนื้อทอด หมูทอด ขนมปังกรอบ ติดตัวเพื่อรับประทาน หากมีหน้ากากอนามัยก็ให้พกติดตัวด้วย เพื่อป้องกันฝุ่นละออง

รวมหนังสือแจกกว่า5แสนเล่ม